ผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกรายใหญ่เมืองกาญจน์ผนึกกำลังภาครัฐเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อย ยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย ศึกษาดูการจัดร้านค้าต้นแบบดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้าน พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายค้าส่ง-ปลีกในจังหวัดและจังหวัดข้างเคียงให้เข้มแข็ง เปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตร ถือคติ ‘ต้องเติบโตไปด้วยกัน’ ‘กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมกัน’ แนะ!!! ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยต้องเร่งปรับตัว รับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่วิถีชีวิตใหม่ เน้นซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และระวังเรื่องสุขอนามัยเพิ่มขึ้น
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ณ ทีเอ็มเค พาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกจังหวัดกาญจนบุรี คือ ทีเอ็มเค ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ได้ผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการเปิดพื้นที่จัดงาน ‘ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย’ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยรายย่อยในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมให้ศึกษาดูการจัดร้านค้าแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานสัมมนาฯ เพื่อเป็นต้นแบบในการนำกลับไปจัดร้านค้าของตนเองให้มีความสวยงาม สะอาด เลือกหาสินค้าได้สะดวก และลูกค้ารู้สึกสบายใจ-สบายตาในการเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเหนียวแน่นของผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ธุรกิจท้องถิ่นของไทยมีความแข็งแกร่ง
สาระสำคัญของการสัมมนา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) การบรรยายให้ความรู้หัวข้อ ก้าวถูกทิศพิชิตยอดขาย เปิดมุมมองใหม่ให้โชวห่วยไทยสุดสมาร์ท โดยผู้ประกอบการจะได้ทราบถึงทิศทางของธุรกิจโชวห่วยและโอกาสจากวิกฤตโควิด-19 ในการประกอบธุรกิจ รวมถึง การปรับเปลี่ยนร้านโชวห่วยธรรมดาให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วย ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาซื้อสินค้าภายในร้านและร้านค้ามีระบบการบริหารจัดการที่ดีช่วยลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ 2) กิจกรรมส่งเสริมการขายและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ เน้นการบริหารจัดการร้านค้าโดยนำเทคนิคและวิธีการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือการจัดโปรโมชันต่างๆ มาช่วยขยายตลาด เพิ่มยอดขาย และดึงดูดผู้บริโภค ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกทั้งภายในจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดข้างเคียงเพื่อให้เกิดความหลากหลายของพันธมิตร โดยคาดหวังว่าในอนาคตจะเกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันทางธุรกิจ
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่เข้าร่วมสัมมนาฯ ทำให้ทราบว่า ความเข้มแข็งของธุรกิจที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ถือคติร่วมกันว่า ‘ต้องเติบโตไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมกัน’ โดยไม่ได้มองธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่มองว่าเป็นพันธมิตรที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจทั้งระบบมีความแข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงจะเกิดเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น แต่รวมถึงการสานสัมพันธ์กับพันธมิตรเครือข่ายข้ามจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ และการค้าที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาประยุกต์เพื่อปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของตนเองได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การประกอบการธุรกิจไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย แต่มีพันธมิตรที่พร้อมช่วยเหลือเกื้อกูลและส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของธุรกิจโชวห่วยไทยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ปัจจุบันนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการโชวห่วยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านค้า ขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ผลักดันร้านโชวห่วยให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วย โดยผู้ประกอบการต้องเข้าสู่โลกดิจิทัลเพื่อเรียนรู้และซึมซับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนการประกอบธุรกิจ รวมถึง เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกประชาชน เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้ง ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ‘คนละครึ่ง’ ฯลฯ มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นฐาน และเทคโนโลยีจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าร่วมและเข้าถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล” รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2565) จังหวัดกาญจนบุรีมีผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกโชวห่วยขนาดกลาง (นิติบุคคล) จำนวน 3,698 ร้านค้า และธุรกิจค้าปลีกโชวห่วยขนาดเล็กประมาณ 6,000 ร้านค้า
ผู้ประกอบการโชวห่วยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 5986 สายด่วน 1570 e-Mail : bizpromotion.dbd@gmail.com และ www.dbd.go.th
#PoweredByDBD