xs
xsm
sm
md
lg

พลิกชีวิตอดีตนักโทษค้ายา ขายมะม่วงน้ำปลาหวาน 5 ปี ซื้อบ้านราคากว่า 4 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มะม่วงน้ำปลาหวาน เพลินลิ้น ร้านมะม่วงน้ำปลาหวานของ “นายเก่งกิจ โชคพงศ์พัชร์” อดีตนักโทษค้ายาเสพติด ที่ตลอดชีวิตไม่เคยทำอาชีพสุจริต ผ่านการเข้าออกเรือนจำมาแล้วถึง 4 ครั้ง ชีวิตอยู่กับการค้ายาเสพติดมาตั้งแต่อายุ 17 ปี และการออกเรือนจำครั้งสุดท้าย เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ที่เขายอมตัดขาดจากอาชีพค้ายา และเสพยาตลอดชีวิต เดินหน้าขอประกอบอาชีพสุจริตเหมือนกับคนอื่นๆ


เส้นทาง นักโทษค้ายาแดนประหาร ก่อนสู่อาชีพสุจริต

นายเก่งกิจ เล่าว่า ตนเองช่วงวัยรุ่นเป็นหัวโจก กิน เที่ยว ไปเรื่อย เริ่มมีเรื่องยาเสพติดเมื่อช่วงเรียน ปวช. เขาเข้าไปคลุกคลีอยู่กับยาเสพติด คิดว่ามันไม่น่าจะติด แต่สุดท้ายเขาก็ติดยาโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาต้องหาเงินเพื่อมาซื้อยาเสพ จึงเป็นจุดเริ่มต้นจากผู้เสพไปเป็นผู้ค้ารายย่อย โดยทางผู้ขายเปิดเครดิต นำยาไปขายก่อนและเขาก็เข้าสู่วงจรของผู้ค้ายา และเมื่อขายได้ 2 ปี ก็โดนตำรวจจับ และเข้าๆ ออกๆเรือนจำแบบนี้อยู่ 12 ปี ตั้งแต่อายุ 17 ปี จนถึงอายุ 33 ปี ทำไม ถึงเข้าออกคุกหลายครั้ง โดยเขาก็ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดแต่อย่างใด ซึ่งกลับกลายเป็นว่า การเข้าเรือนจำแต่ละครั้ง ก็ได้กลับไปซึมซับเรื่องไม่ดีในเรือนจำ พร้อมพรรคพวกค้ายากลุ่มใหญ่ พอออกจากคุกก็กลับมาค้ายาอีก แต่ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย


หลังจากออกมาจากเรือนจำ ก็กลับมาค้ายาอีก แต่ครั้งนี้ ไปเจอผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และมีลูกค้าเยอะขึ้น ก็ขายได้มากขึ้น และสุดท้ายก็ทำอยู่ได้แค่ 2 ปี ก็โดนตำรวจจับอีก แต่ครั้งนี้ โดนยึดทรัพย์ทั้งหมด และโดนโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่ได้ลดหย่อนโทษและติดคุกอยู่ 5 ปี ครั้งนี้ ทำให้เราย้อนกลับมาคิดว่า เราจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรือยๆ เหรอ ชีวิตที่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อน ไม่มีอิสระ พอถูกจับทรัพย์สินที่หามาได้ก็โดนยึดไปหมด เหมือนมาถึงทางตัน และทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องมาเดือดร้อนไปกับเราด้วย พอรอดประหารชีวิตมาได้ ทำให้เราไม่อยากวนเวียนอยู่แบบนี้เอง ก็เลยตัดสินใจเลิกแบบเด็ดขาด เพราะถ้าออกไปค้ายาอีก ก็ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ก็เลยตัดสินใจเลิกอย่างเด็ดขาด ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ทำอาชีพสุจริตเหมือนคนอื่นๆ

“ในส่วนของการเลิกยา ผมก็เลิกแบบหักดิบใจเราพร้อม ใจเราสู้ เลิกยาภายใน 7 วัน นอนนิ่งอยู่ 3 วันแบบไม่ทำอะไรเลย ก่อนจะรุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ บ้าง และร่างกายเริ่มมีการถ่ายของเสียออก 7 วัน ร่างกายเริ่มฟื้นตัว เหมือนร่างกายบีบของไม่ดีออกจากร่างกาย สุดท้ายก็เลิกได้เอง”


ตระเวนขายมะม่วงน้ำปลาหวานตามตลาดนัด

หลังจากเลิกยา “เก่งกิจ” เริ่มมองหาอาชีพว่าจะทำอะไรดี เขาได้ไปนั่งดูน้องสาวขายมะม่วงน้ำปลาหวาน เห็นว่าน้องสาวขายดี ก็เลยบอกน้องสาวว่า อยากจะขายมะม่วงน้ำปลาหวานบ้าง น้องสาวก็ลงทุนให้ พร้อมกับให้เงินมาทำทุน 20,000 บาท ตอนนั้นเค้าไม่มีเงินเลย หลังจากติดคุกครั้งสุดท้ายคดียาเสพติดทุกอย่างถูกยึดไปหมดไม่มีอะไรเหลือเลย มีแค่รถกระบะหนึ่งคัน

โดย อาศัยขับรถกระบะตระเวนไปขายมะม่วงน้ำปลาหวานตามตลาดต่างๆ ซึ่งไม่ได้ขายประจำที่ตลาดไหน เพราะต้องการจะดูว่าตลาดไหน น่าสนใจและขายได้ก็ตั้งใจว่าจะปักหลัก แต่ยังไม่ทันได้ปักหลักขายที่ไหน เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดที่เคยไปขาย จะไม่รับพ่อค้าขาจร เพราะกลัวโควิด ทำให้ไม่มีที่ขาย และต้องหยุดขายไปกว่า 2 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจมาปักหลักขายหน้า หมู่บ้านของตนเอง หมู่บ้านชลเทพ ตรงข้ามห้าง BIG C บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับการขายออนไลน์


รายได้จากมะม่วงน้ำปลาหวานวันละ 6,000 บาท

ทั้งนี้ จากวิกฤต กลายเป็นโอกาส เพราะการขายหน้าบ้านกลับกลายเป็นดีกว่าตระเวนขายตามตลาด เพราะไม่มีต้นทุนที่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ และขายเวลาไหนก็ได้ พร้อมกับเปิดขายออนไลน์ ทั้งทางหน้าเพจและไลน์ส่วนตัว ให้ลูกค้า สามารถสั่งซื้อเข้ามาได้ ถ้าไปไม่ไกลมากเราก็ไปส่งเองได้ พอเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น การสั่งซื้อผ่านออนไลน์มากขึ้น และได้เชิญไปเป็นวิทยากร พูดให้นักโทษได้ฟัง เรื่องของยาเสพติด และความสำเร็จการประกอบอาชีพสุจริตหลังจากพ้นโทษ จนมีรายได้เลี้ยงครอบครัวและซื้อบ้านได้ ได้ครอบครัวที่อบอุ่นกลับมา ได้กินข้าวพร้อมหน้า พร้อมตา ไม่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อน


นายเก่งกิจ เล่าว่า หลังจากเริ่มมีคนรู้จัก มะม่วงน้ำปลาหวานเพลินลิ้นมากขึ้น จากการบอกต่อ ทำให้มีรายได้มากขึ้น โดยมีรายได้ต่อวันประมาณ 6,000 บาท และถ้าเป็นช่วงเทศกาลมีรายได้ถึงวันละ 10,000 บาท ซึ่งกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 50% หลังจากนั้นได้เปิดขายแฟรนไชส์ และขายน้ำปลาหวาน ให้คนที่ต้องการจะมีอาชีพแต่ไม่มีทุน สามารถนำน้ำปลาหวานของเราไปขายต่อได้ ถ้าไม่ต้องการซื้อแฟรนไชส์ ก็รับแค่น้ำปลาหวานของเราไปขายก็ได้ หรือ ถ้าต้องการซื้อแฟรนไชส์เราจัดอุปกรณ์ พร้อมขายให้เลยในราคา 25,000 บาท รายได้ส่วนใหญ่ของผมตอนนี้มาจากการขายหน้าร้าน ของผมเอง ส่วนรายได้จากการส่งน้ำปลาหวานให้พ่อค้า แม่ค้า นำไปขายต่อก็ยังไม่เยอะ แฟรนไชส์ก็เพิ่งเริ่ม


ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ “เก่งกิจ” ทุ่มเททำงานอย่างหนัก ทำให้เค้าสามารถเก็บเงินซื้อบ้านได้มาจากน้ำพัก น้ำแรง จากการขายมะม่วงน้ำปลาหวานแบบไม่มีวันหยุด และประหยัดไม่ใช่จ่ายอะไรเลย ไม่สังสรรค์ ไม่ออกไปพบปะเพื่อนฝูง ขายของอย่างเดียว มีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน ก็เป็นวันที่เตรียมของขาย และออกไปทำธุระให้เสร็จภายใน หนึ่งวัน ทำแบบนี้มาตลอดจนสามารถซื้อบ้านหลังแรกในชีวิตของเค้าได้ในราคา 4.7 ล้านบาทได้ภายในระยะเวลา 5 ปี



ความฝันอดีตนักค้ายาในวันที่เดินบนเส้นทางถูกต้อง

เก่งกิจ บอกว่า การมีบ้านเป็นความฝันของเค้า ในช่วงที่เค้าค้ายา ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ไม่สามารถมีบ้านได้ แม้ว่าจะมีเงิน ก็ไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้ การมีบ้านจึงเป็นความฝันของเค้า

“อย่างไรก็ดี ความสำเร็จครั้งนี้ ส่วนหนึ่งนอกจากความขยัน อดทน ประหยัด แล้ว สิ่งสำคัญ คือ โชคดี ที่น้องสาวมีสูตรน้ำปลาหวานที่อร่อย มาให้เราได้ขาย โดยมีน้ำปลาหวานให้ลูกค้าได้เลือก ถึง 4 รส ได้แก่ น้ำปลาหวาน กะปิหวาน กะปิน้ำปลาร้า และกะปิแห้ง ซึ่งรสชาติวัดได้จากลูกค้าที่มาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ตอนที่เราเปิดขายที่ตลาดนัดก็มีมะม่วงน้ำปลาหวานร้านอื่นๆ แต่สุดท้าย ลูกค้าก็กลับมาซื้อเรา ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีพ่อค้า แม่ค้า สนใจมาสั่งซื้อ น้ำปลาหวานของเราไปขายต่อ”


ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่ตัวเรา แต่คนรอบข้างครอบครัวก็รู้สึกภาคภูมิใจและดีใจไปกับเราด้วย ที่เราสามารถกลับตัวได้ และบทเรียนที่เคยเป็นคนไม่ดีคนเลวมาก่อน และการได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ไม่ว่าจะภายนอก หรือ ภายในเรือนจำ หล่อหลอมให้เราได้เห็นและในสิ่งที่คนทั่วไปเขาก็อาจจะไม่เคยได้เห็นได้สัมผัส ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผมสู้และขยันกว่าคนอื่นๆ และเป็นที่มาของความสำเร็จในวันนี้ก็เป็นได้” เก่งกิจ อดีตนักโทษประหาร กล่าวในที่สุด

ติดต่อ โทร.09-4852-5435

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น