xs
xsm
sm
md
lg

กรมพัฒน์ฯ นำกลยุทธ์บริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง ยกระดับอาชีพโลจิสติกส์ซัพพลายเชนสู่สากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดสัมมนาหลักสูตร “การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสมัยใหม่ (Modern Logistics & Supply Chain Management)” เสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ สามารถวางแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการคลังสินค้า และการควบคุมสินค้าคงคลัง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจ และยกระดับวิชาชีพโลจิสติกส์และซัพพลายเชนสู่สากลต่อไป เปิดรับสมัครผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 18 เมษายน 2565


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า ปัจจุบันหลายธุรกิจให้ความสำคัญต่อการจัดการคลังสินค้า เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเกือบทุกประเภท อีกทั้งเป็นต้นทุนพื้นฐานที่สำคัญซึ่งกระทบต่อต้นทุนรวมของผลิตภัณฑ์และบริการ ดังนั้นกลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลังในห่วงโซ่อุปทานจึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลัก ที่สามารถจัดการและควบคุมรายการสินค้าคงคลังในคลังสินค้าได้ดีขึ้นด้วยประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร 

ทั้งนี้ ผู้บริหารควรให้ความสำคัญตั้งแต่การศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นของการจัดตั้งคลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าที่ดีจะช่วยทำให้ธุรกิจมีโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ที่ดี และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Supply Chain Management ซึ่งรวมถึงเรื่องการวางแผนการดำเนินการ การควบคุม การไหลเวียน การจัดเก็บวัสดุสินค้า การบริการ และสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า  


อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในภาวะที่มีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานที่ให้การส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมาโดยตลอด จึงจัดสัมมนาหลักสูตร “การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสมัยใหม่ (Modern Logistics & Supply Chain Management)” ในวันที่ 19 เมษายน 2565 ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) และโรงเรียนธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ (ITBS) ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์มาให้ความรู้ผ่านการบรรยาย และฝึกปฏิบัติเป็นระยะเวลารวม 6 ชั่วโมง ประกอบด้วย การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน กลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลัง และบริหารคลังสินค้า พร้อมจัด Work Shop แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และช่วยกันวางแผนกลยุทธ์ เป้าหมาย มองเห็นปัญหาอุปสรรคของธุรกิจได้อย่างถ่องแท้ ก่อนนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร


สำหรับ การใช้กลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารซัพพลายเชนได้มากขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยี IT สร้างโมเดลทางธุรกิจการใช้คลังสินค้าร่วมกันระหว่างผู้ใช้บริการคลังสินค้า (pooled warehouse) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บสินค้า และประหยัดพื้นที่คลังสินค้าได้ ดังนั้น การบริหารสินค้าคงคลังให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อเพิ่มกำไรและพัฒนาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน อธิบดีกล่าวสรุป

ปัจจุบันมีธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่จดทะเบียนจัดตั้งในรูปแบบนิติบุคคลในประเทศไทยอยู่จำนวน 31,846 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมธุรกิจโลจิสติกส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สายด่วน 1570 โทร 0 2547 5955 และ www.dbd.go.th


กำลังโหลดความคิดเห็น