xs
xsm
sm
md
lg

“กล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ” ชีวิตติดลบหนี้ก้อนโตจากพิษโควิด ปลดหนี้ได้ด้วย “กล้วยปิ้งเงินล้าน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์โควิด-19 นอกจากจะเป็นเชื้อโรคร้ายที่ฆ่าชีวิตคนแล้ว ยังฆ่าชีวิตเจ้าของกิจการเอสเอ็มอีหลายรายให้ต้องม้วนเสื่อเลิกกิจการไปเป็นจำนวนมาก บางคนปรับตัวได้ทันที และแจ้งเกิดอาชีพใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ขณะที่บางคนไม่สามารถปรับตัวได้ก็ต้องมองหาช่องทางและโอกาสใหม่กันต่อไป เช่นเดียวกับเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง จังหวัดเพชรบุรี เจอพิษโควิด ทุกอย่างต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ พร้อมกับหนี้สินก้อนโต


โควิดทำชีวิตติดลบ พลิกฟื้นกลับมาได้ด้วย “กล้วยปิ้ง”

พิษโควิด ทำให้ชีวิตผมมากกว่าศูนย์ แต่มันติดลบ สิ่งที่ผมสร้างมาโดนธนาคารยึดไปทั้งหมด และเป็นหนี้หลายล้านบาท แต่ใครจะเชื่อว่าแค่ขายกล้วยปิ้งในรถพ่วงซาเล้ง ทำให้ชีวิตผมกลับมารุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ปัจจุบันมีผมมีรายได้วันละ 10,000 บาทจากการขายกล้วยปิ้ง” เจ้าของร้านกล้วยปิ้งกล่าว

วันนี้ จะพามารู้จัก กับ “ร้านกล้วยปิ้ง” บนรถฟู้ดทรัค ที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นร้านกล้วยปิ้งที่ใครผ่านไปแถวตลาดท่ายาง จะเห็นร้านนี้โดดเด่นมาก ทั้งการออกแบบรถฟู้ดทรัคสะดุดตา และที่สำคัญกว่านั้น คือ คนมุงต่อคิวกันยาวเหยียด เหมือนแจกฟรี ตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด


กล้วยปิ้งภูเขาไฟ @เพชรบุรี

สำหรับร้านกล้วยปิ้งที่เรากำลังพูดถึงในครั้งนี้ มีชื่อว่า “กล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ กล้วยธรรมดาที่ไม่ธรรมดา @เพชรบุรี” Grilled Banana Ordinary That Unusual เจ้าของร้าน คือ “นายโอฬาร เอี่ยมสมบูรณ์” ที่ผันตัวเองมาขายกล้วยปิ้ง เพราะพิษโควิด ร้านอาหารที่ทำมาหลายปี ต้องปิดกิจการลง พร้อมกับหนี้สินที่กู้มาปรับปรุงร้านหลายล้านบาท และมาเจอพิษโควิด-19 ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ จนสุดท้ายธนาคารก็ได้มายึดร้านอาหารที่เขาสร้างมาหลายปีและคิดว่าจะเป็นอาชีพที่มั่นคงไปหมด และจากเจ้าของร้านอาหารใหญ่โต วันนี้ เขาต้องกลายมาเป็นพ่อค้ากล้วยปิ้ง ริมทาง

นายโอฬาร เล่าว่า ชีวิตของเขาก่อนมาเปิดร้านกล้วยปิ้ง เขาล้มเหลวมาจากการทำร้านอาหารที่ต้องบอกว่า มันมากกว่าศูนย์ เพราะเป็นชีวิตที่ติดลบ ร้านอาหารที่สร้างมาโดนธนาคารยึดไปหมดเรียกว่าไม่เหลืออะไร การมาเริ่มต้นขายกล้วยปิ้ง เป็นสิ่งเราต้องทำเพื่อให้มีรายได้เข้ามา ไม่ได้คาดคิดว่าจะทำรายได้จนทำให้เราจับเงินเดือนละหลักหลายแสนบาทได้ ซึ่งผมจำได้วันแรกที่ขายหน้าร้านขายขนมทองม้วนของครอบครัว ตั้งโต๊ะเล็ก ขายวันแรกได้กำไรวันละ 100 บาท สูงสุดได้แค่ 300 บาท ลงทุนไปประมาณ 1,200บาท


สร้างภาพลักษณ์ใหม่ “กล้วยปิ้ง” ไม่ได้ขายแค่คนสูงอายุ

ทั้งนี้ หลังจากนั้น เป็นจุดเปลี่ยน เมื่อได้พยายามปรับจากกล้วยปิ้งธรรมดาให้ไม่ธรรมดา เพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยมองกล้วยปิ้งให้ต้องหันกลับมามองกล้วยปิ้งของเขา โดยการออกแบบท็อปปิ้งและน้ำมาราดบนกล้วยปิ้ง ซึ่งเป็นจุดขายเชื่อว่ายังไม่มีใครทำ ทำท็อปปิ้งและน้ำราดกล้วยปิ้งได้อลังการณ์และมีให้เลือกมากถึง 15 หน้าแบบนี้มาก่อน

ความพิเศษของกล้วยปิ้งร้านนี้ ไม่ได้แค่น้ำราดกล้วยปิ้งที่มีให้เลือกแล้ว ท็อปปิ้งที่อยู่บนหน้าก็อัดแน่นไปด้วยเครื่อง เช่น น้ำราดทุเรียนที่นำเนื้อทุเรียนสดๆมาใช้ทำให้ในน้ำราดก็จะมีเนื้อทุเรียนอยู่ด้วย และโรยหน้าด้วยทุเรียนกรอบ หรือ น้ำราดสตอเบอรี่ ปั่นจากลูกสตอเบอรี่สด เป็นต้น ส่วนที่มาของชื่อ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ มาจากท็อปปิ้งสูตรแรกๆ คือ ท็อปปิ้งโอวัลตินภูเขาไฟ ตามมาติดอีกกว่า 10 ชนิด ประกอบไปด้วย น้ำราดทุเรียน น้ำราดเผือกทอด น้ำราดมันม่วง น้ำราดสตอเบอรี่ ฝอยทอง น้ำราดเนยถั่วธัญพืช น้ำราดชานมไข่มุก น้ำราดตาลโตนดทรงเครื่อง น้ำราดชาโคลเฉาก๊วย น้ำราดฟักทอง น้ำราดชาเขียวถั่วแดง น้ำราดเนยนมพายกรอบ น้ำราดสังขยาใบเตย น้ำราดกาแฟขนมปังกรอบ


นายโอฬาร เล่าว่า ที่มาเลือกขายกล้วยปิ้ง ส่วนหนึ่งมาจาก จังหวัดเพชรบุรี มีกล้วยน้ำว้าอร่อยๆ เยอะและเราเป็นจังหวัดที่ปลูกกล้วยมากที่สุดติด 1 ใน 10 ประกอบกับเรามีของดี อย่างน้ำตาลโตนดที่นำมาทำขนมจะได้ขนมที่อร่อยหอมหวานกว่าน้ำตาลปกติ เราก็เลยเลือกทั้งสองสิ่งมาเป็นจุดขาย ส่วนท็อปปิ้ง เป็นส่วนที่สองที่เราคิดเพื่อที่จะดึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจกินกล้วยปิ้งของเรา เพราะก่อนหน้าจะมีท็อปปิ้งที่อัดแน่นด้วยเครื่องครั้งนี้ กล้วยปิ้งของเราจะขายแต่คนที่มีอายุ หรือ วัยกลางคนถึงจะกินกล้วยปิ้ง คนรุ่นใหม่ หรือวัยรุ่นไม่มองเลย หลังจากเราปรับให้มีท็อปปิ้ง ประสบความสำเร็จทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้น และดึงคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจกล้วยปิ้ง อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า เมนูอาหารอื่นๆ ที่วัยรุ่นชื่นชอบ


จากวันแรกกำไร 100 บาท วันนี้ ยอดขายหลักแสนบาทต่อเดือน

อย่างไรก็ดี ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของการทำกล้วยปิ้ง ของร้านกล้วยปิ้งเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ อยู่ที่การเลือกกล้วยเพื่อให้เมื่อนำมาปิ้ง จะได้กล้วยที่กินแล้วนิ่ม ไม่แข็ง และไม่เละ ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก กล้วยปิ้งจะอร่อยเมื่อปิ้งออกมากล้วยต้องไม่แข็ง แต่ก็ต้องไม่เละด้วย พอนำมากินคู่กับท็อปปิ้งจะลงตัวกับทุกเมนูน้ำราดท็อปปิ้งที่ทางร้านได้พัฒนาขึ้นมา

ทั้งนี้ ต้องบอกว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาจริง เพราะเขาคิดทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด วัดได้จากผลตอบรับออกมาดีเกินคาด เพราะวันหนึ่งทางร้านมียอดขายสูงถึงวันละ 10,000 บาท มีลูกค้ามารอต่อคิวยาวเหยียดหลายสิบคิว ก่อนที่เจ้าของร้านจะมาตั้งร้านด้วยซ้ำ จากขายในรถซาเล้งพ่วงข้าง วันนี้ ขยับขึ้นมาขายบนรถฟู้ดทรัค ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ เจ้าของร้านเองก็มีความพยายามอย่างมาก เพราะจากวันแรกที่ตั้งโต๊ะเล็กขายหน้าบ้าน กำไรวันละร้อยสองร้อย จนมียอดขายเดือนละหลักแสนบาท ถ้ากล้วยปิ้งของเขาไม่อร่อยจริงก็คงทำไม่ได้


กล้วยปิ้งรุกตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์

นอกจาก เขาจะให้ความสำคัญกับรสชาติของเมนูกล้วยปิ้ง และไอเดียใส่ลงไปในแต่ละเมนูที่เขาออกแบบแล้ว เขาก็ยังเปิดแนวรุกด้านการตลาดด้วย โดยการเปิดเพจไลฟ์สดขายกล้วยปิ้ง “โอฬาร” บอกว่า ไม่ได้ง่ายเพราะวันแรกๆมีคนมาดูไลฟ์ขายกล้วยของเขาไม่เกิน 10 คน เป็นแบบนี้อยู่นาน จนวันหนึ่งมีคนเอาไปแชร์ จาก 10 คนเพิ่มเป็น 5,000 คนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้น มีคนติดตามไลฟ์สดไม่ต่ำกว่า 8,000 คน มีคนติดตามหน้าเพจหลายหมื่นคน จนเป็นที่มาของลูกค้าที่มาจากต่างจังหวัด ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงยอมที่จะขับรถมาไกล เพื่อมากินกล้วยปิ้งที่ร้านของเรา และมีสอบถามเข้ามาจากไกลที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ แต่อยากกินกล้วยปิ้งของเรา


“ด้วยเหตุนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมคิดต่อว่าจะทำให้คนเหล่านั้นได้กินกล้วยของเราได้อย่างไร เพราะถ้าจะขายแฟรนไชส์ ตอนนี้ต้องการจะเซ็ทระบบให้พร้อมก่อน บวกกับวัตถุดิบ น้ำตาลโตนดที่ขาดแคลนเพราะคนขึ้นตาล ที่เป็นคนรุ่นใหม่ไม่มีเหลือแต่คนแก่ วันนี้เขาก็ขึ้นกันไม่ไหวแล้ว ทำให้น้ำตาลขาดตลาด ดังนั้นในช่วงนี้ คนที่อยู่ไกลจากทั่วประเทศและต้องการกินกล้วยปิ้ง “กล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ” จะต้องได้กิน โดยเราได้ไปคิดหาวิธีการทำอย่างไรให้สามารถส่งกล้วยปิ้งของเราไปต่างจังหวัดไกล โดยที่ยังคงรสชาติเหมือนเขามากินที่เพชรบุรี และเราก็ทำได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้ ถ้าใครสนใจต้องการกินกล้วยปิ้งของเราก็สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางหน้าเพจได้”


โอฬาร เล่าว่า ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ กล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ ของเขา มาจากพื้นฐานครอบครัวเป็นร้านขายขนมไทยอยู่แล้ว โดยเป็นร้านขนมทองม้วนร้านแรกของอำเภอท่ายาง การทำขนมของเราจึงไม่ใช่เรื่องยาก อุปกรณ์เราพร้อม ความรู้ในการทำขนมมีอยู่แล้ว เดิมทำเป็นกล้วยปิ้งในเตาถ่าน แต่ตอนหลังปิ้งไม่ทัน เราก็เลยใช้การอบด้วยเตาอบแทน และนำมาปิ้งบนเตาไฟฟ้า ได้รสชาติที่ใกล้เคียงกัน แต่การอบจะได้กล้วยปิ้งที่นิ่มไม่แข็ง ในแต่ละวันเราต้องใช้กล้วยหลายร้อยหวี การเลือกกล้วยสำคัญ เราจำเป็นที่จะต้องทำคอนเท็กกับทางเจ้าของสวน ที่ปลูกกล้วยที่มีรสชาติและคุณภาพที่ดี เพื่อจะได้กล้วยรสชาติเหมือนเดิมทุกครั้งที่เรานำมาปิ้งขาย

สนใจติดต่อ FB: กล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น