กูรูมะนาวเผย หน้าแล้งมะนาวแพงทุกปีผู้บริโภคเตรียมการไว้ก่อนได้ มี 2 วิธี ระยะสั้นแปรรูปง่ายๆ ทำน้ำมะนาวแช่แข็งเก็บเอาไว้ใช้แทนได้ ส่วนในระยะยาวปลูกมะนาวไว้กินเองที่บ้านได้ง่ายๆ ใส่กระถางแทนปลูกลงดินโดยตรง เพียง 8 เดือนรู้เรื่อง!
อาจารย์วัง สุขประเสริฐ กูรูเกษตรสวนมะนาวชาวจังหวัดพิจิตร ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาพันธุ์มะนาวเชิงการค้าที่สำคัญๆ อาทิ แป้นพิจิตร1 เป็นหนึ่งในทีมร่วมพัฒนาสายพันธุ์ ก่อนจะเกษียณออกมาลุยงานเกษตรสวนมะนาวอย่างเต็มตัวพร้อมปล่อยทีเด็ดอย่าง มะนาวแป้นแม่ลูกดก ที่ได้ชื่อว่าเป็นพันธุ์มะนาวติดลูกดกมากให้ผลผลิตสูงสมกับชื่อแม่ลูกดก! และต่อมาล่าสุดคือ “มะนาวแป้นสุขประเสริฐ” ซึ่งเป็นลูกผสมของพิจิตร1 กับแป้นรำไพ ได้ออกมาเป็นมะนาวแป้นเปลือกบางน้ำหอมลักษณะตรงตามสายพันธุ์ และที่สำคัญยังได้ชื่อว่าเป็นมะนาวแป้นต้านทานต่อโรคแคงเกอร์ แถมเมล็ดน้อยถึงเกือบไม่มีเลย
อ.วัง กูรูด้านมะนาว ให้ข้อมูลว่า พอถึงช่วงหน้าแล้งของทุกปี “มะนาวแพง” ส่งผลกระทบกันไปทั่วนั้น เป็นเพราะว่ามะนาวที่ให้ผลผลิตตามฤดูกาล ในรอบ 1 ปี ซึ่งจะมีการให้ผลผลิตได้ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมะนาวออกดอกประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน
และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และมีการออกดอกอีกครั้งในช่วง เดือนสิงหาคม-กันยายน และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนธันวาคม-มกราคม ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูกาลของมะนาว ราคาของผลมะนาวจึงเริ่มขยับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ในช่วงนี้เป็นต้นไป
สำหรับชาวสวนมะนาวเองต่างรู้กันดีในเรื่องนี้ และเพื่อให้มีผลผลิตออกมาขายในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเริ่มมีการจัดการวางแผนผลผลิตใหม่โดยใช้วิธี “การบังคับนอกฤดู” เพื่อจะให้มีมะนาวออกมาในช่วง เดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้งที่ขายได้ราคาดี ทั้งนี้หลักสำคัญที่ต้องรู้ก่อนก็คือว่า มะนาวต้องใช้ระยะเวลาจากออกดอกถึงเก็บเกี่ยวผลได้ (บีบแล้วมีน้ำ)
ราว 4 เดือน แต่ว่าก่อนหน้านั้นมีการสะสมอาหารอย่างน้อย 2 เดือน คือหมายความว่าหากอยากจะให้มะนาวออกในช่วง มีนาคม-เมษายน ก็ต้องมีการจัดการ “กำจัดดอก” ในชุดของเดือนสิงหาคม-กันยายน ทิ้งไปเพื่อไม่ให้มีการติดลูก แต่จะให้ไปเริ่มติดดอกชุดใหม่จากการบังคับในช่วง เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน แทนโดยมีวิธีการจัดการคือ อย่างที่สวนเองจะใช้ยูเรียผสมกับน้ำเพื่อฉีดพ่นให้ต้นกำจัดดอกทิ้งไป จากนั้นเริ่มการสะสมอาหารโดยให้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 เดือนละครั้ง แล้วตามด้วยสูตรเปิดตาดอก(ซูเปอร์เค) ผสมกับน้ำฉีดให้ทางใบ เว้นระยะ 7 วัน/ครั้ง ประมาณ 3 ครั้ง ปกติก็จะเห็นดอกมาแล้วหรือถ้ายังไม่ชัวร์ก็พ่นต่อไปได้อีก สัก 4 หรือ 5 ครั้งก็รู้เรื่อง! วิธีการนี้ไม่ต้องอดน้ำเพื่อทรมานต้นหรือไม่ต้องจัดการกับใบให้ยุ่งยากเลย สามารถให้ผลผลิตนอกฤดูจากตัวอย่าง 200 ต้นที่ปลูกในวงบ่อ(แบบเปิดก้น) ใช้ปุ๋ยเพียง 2 กระสอบกับสูตรเปิดตาดอก 1 กก. ต่อ 1 ฤดูการผลิต ได้ผลผลิตออกมาขายช่วงหน้าแล้งทุกปีไม่ต่ำกว่า 100,000 ลูก
แต่ทั้งนี้ มะนาวจะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงรบกวนอยู่มากพอสมควร โดยเฉพาะโรคแคงเกอร์ที่เป็นศัตรูตัวสำคัญ ทำให้ต้องมีการใช้ยา/สารเคมีในการป้องกันกำจัดมาก กลายเป็นภาระต้นทุนสูงของสวนมะนาวทั่วไป การเลือกใช้สายพันธุ์ดีที่สามารถต้านทานต่อโรคก็จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตลงไปได้อีก หรืออย่างผู้บริโภคเองที่สนใจอยากจะปลูกมะนาวไว้กินเองที่บ้านเพื่อช่วยลดรายจ่าย หลีกเลี่ยงการซื้อมะนาวแพงในช่วงหน้าแล้ง ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้กระถางปลูกต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย ใส่วัสดุปลูกลงไปได้แก่ ดินถุง 1 ส่วน : แกลบ 1 ส่วน : กาบมะพร้าวสับ1
ส่วน : ปุ๋ยมูลสัตว์ 1 ส่วน จากนั้นก็ปลูกต้นพันธุ์ดีลงไปสำคัญคือต้องให้อยู่กลางแจ้ง ที่ต้นมะนาวจะได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันจะดีที่สุด ดูแลรดน้ำแบบไม่ต้องรดทุกวัน แค่สัปดาห์ละ1 ครั้งก็พอ กับปุ๋ยที่ให้หลักๆ ก็จะมีแค่ สูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ใส่เดือนละครั้ง หลังจากปลูกประมาณ 8 เดือน ต้นก็จะเริ่มออกดอกเพื่อให้ผลผลิตได้ ในช่วงนี้ก็เปลี่ยนสูตรปุ๋ยมาใส่ 8-24-24 ให้แทน ไปจนกว่าจะหมดผลผลิตก็เริ่มการดูแลแบบเดิมอีก เพียงเท่านี้ก็จะมีผลผลิตมะนาวทยอยออกมาให้ได้เก็บกินไปเรื่อยๆ แล้ว
หรือหากในช่วงที่มีผลผลิตออกมากเกิน ก็สามารถนำมะนาวมาแปรรูปง่ายๆ ทำน้ำมะนาวแช่แข็งเก็บเอาไว้ใช้แทนได้ วิธีการทำก็แสนง่ายเพียงนำมาคั้นเอาแต่น้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางสักหน่อย ให้เศษต่างๆ ที่ปนอยู่ถูกแยกออกไปให้เหลือแต่น้ำมะนาว จากนั้นบรรจุลงในภาชนะพลาสติกเลือกใช้แบบที่ทนต่อการกัดกร่อนของ “กรดมะนาว” ได้ด้วย หรือสามารถเลือกขนาดบรรจุที่พอดีกับปริมาณการใช้ต่อครั้งช่วยเพิ่มความสะดวก เก็บไว้ได้นานตามที่ต้องการอยู่ในช่องแช่แข็ง เวลาที่จะใช้ก็เพียงนำออกมาให้ละลายก่อนซึ่งทั้งรสและกลิ่นของมะนาวจะยังคงเหมือนเดิมทุกประการ เป็นการช่วยถนอมเก็บรักษาคุณภาพเอาไว้ใช้ได้นานๆ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องมะนาวแพงในช่วงหน้าแล้งให้กับผู้บริโภคได้ รวมถึงสวนเองก็สามารถเป็นทางเลือกในการจัดการผลผลิตช่วงมะนาวปี ผลิตเพื่อจำหน่ายได้ นอกจากนี้ “เปลือกมะนาว” ยังสามารถแปรรูปต่อไปได้อีกทำเป็น “แยม” หรือทำบ๊วยเปลือกมะนาว โดยไม่ต้องทิ้งให้เสียประโยชน์เลย
อ.วัง สุขประเสริฐ กูรูด้านมะนาวยังแนะนำสำหรับคนที่สนใจด้วยว่า การปลูกมะนาวยังถือเป็นอาชีพสร้างรายได้ที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะหากมีการวางแผนเพื่อให้ออกนอกฤดูขายในช่วงหน้าแล้งได้ด้วย จะทำให้ได้ราคาที่น่าพอใจกว่าซึ่งอย่างน้อยๆ ไม่ต่ำกว่า ลูกละ1 บาท เป็นต้นไป หรือเพื่อสร้างหลักประกันในเรื่องของรายได้ให้มีทางเลือกที่เพิ่มขึ้น โดยมีการทำแปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควบคู่ไปด้วยแบบครบวงจร ส่วนพื้นที่ปลูกหรือในสวนมะนาวเองที่ยังมีเนื้อที่ว่างอยู่ ก็สามารถปลูกพืชแซม อย่าง กระชาย แบบปลูกในถุงเพาะชำแทนการปลูกลงดินโดยตรงได้ ใน 1 ถุงที่ปลูกอาจใส่เหง้าพันธุ์ลงไปเพียง 3-4 แง่งพอ
ถึงเวลาเก็บเกี่ยวสามารถได้ผลผลิตสูงถึง ½ กก./ถุง ปลูกเพียงแค่ 1 ไร่รายเป็นแสนบาท! แบบนี้คนมีพื้นที่ผลิตไม่มาก
สัก 2 ไร่ ปลูกมะนาวควบพืชแซมด้วยได้ประโยชน์ 2 ต่อในพื้นที่เดียวกัน ตัวอย่างการสร้างรายได้แบบไม่มีข้อจำกัดนี้ใครสนใจก็สามารถสอบถามเข้ามาได้
สอบถามเพิ่มเติมโทร.087-201-4607
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *