xs
xsm
sm
md
lg

เรียนจบแล้วเปิดคาเฟ่! ต่อยอด “ขนมมันหนึบสุขภาพ” แบรนด์ “Better better” ตีตลาดออนไลน์ไม่ถึงเดือนยอดขายหลักแสน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อเรียนจบแล้วว่างงานไม่มีอะไรทำ จึงหันมาเปิดคาเฟ่เพื่อหารายได้ ต่อยอดธุรกิจด้วยการขาย “ขนมมันหนึบเพื่อสุขภาพ” ด้วยวัตถุดิบที่ดีต่อร่างกาย จากเดิมที่เปิดขายหน้าร้าน ลองหันมาตีตลาดออนไลน์ได้ไม่ถึงเดือนลูกค้าสนใจ ออเดอร์ทะลักยอดขายหลักแสน พร้อมต่อยอดเปิดตัวแทนจำหน่ายในอนาคต


นางสาวเนตรชนก เส็งสมาน หรือ ไอซ์ เจ้าของธุรกิจขนมมันหนึบ แบรนด์ Better better เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำขนมมันหนึบขายนั้น ตนได้มีธุรกิจร้านคาเฟ่เป็นทุนเดิม โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองนครปฐมและเปิดมาได้ประมาณ 1 ปี ต่อมามีความรู้สึกต้องการนำขนมรูปแบบใหม่มาขายภายในร้าน โดยปกติส่วนตัวเป็นคนที่ชอบกินขนมเพื่อสุขภาพ บวกกับชอบหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาร้านคาเฟ่ของตน ประจวบกับช่วงหนึ่งได้มีโอกาสไปลองกินขนมที่มีลักษณะคล้ายกันแล้วรู้สึกว่าตอบโจทย์และเป็นขนมใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีวางขายมากนัก ทำให้ตนตัดสินใจที่จะผลิตและพัฒนาขนมเพื่อสุขภาพขึ้นมา มีชื่อว่า “ขนมมันหนึบ” ซึ่งเป็นขนมกินเล่นที่ไม่มีส่วนผสมของการทำลายสุขภาพ เช่น ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล น้ำมันรำข้าวที่เป็นไขมันดี และเนยสด


ทั้งนี้ขนมมันหนึบของทางร้านมีความพิเศษในส่วนของเนื้อแป้งขนม โดยเวลาที่นำไปอุ่นร้อนจะทำให้เนื้อแป้งมีความยืด นุ่ม ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เดิมทีทำขายเฉพาะในหน้าร้านคาเฟ่ แต่ยอดขายยังไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาจึงหันมาขายออนไลน์ควบอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันเปิดขายขนมมันหนึบได้ประมาณ 4 เดือน


สำหรับขนมมันหนึบของทางร้านนั้นในตอนนี้จะมีเพียง 1 ไส้เท่านั้น คือ ไส้มันหวานญี่ปุ่นกวน ซึ่งสูตรการทำขนมของทางร้านนั้น เจ้าของร้านศึกษาเรียนรู้มาจากสื่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ แล้วนำมาปรับสูตรพัฒนาให้กลายเป็นสูตรของทางร้านเอง ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้าที่ได้ลองกินขนมมันหนึบได้ฟีดแบกค่อนข้างดี เพราะทางร้านใช้น้ำผึ้งแท้ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมแตกต่างจากการใช้น้ำตาลเป็นส่วนผสม


นอกจากนี้ในส่วนของการตลาดนั้น ทางร้านให้ข้อมูลว่าต้องการถ่ายทอดจุดเด่นของขนมมันหนึบให้กับลูกค้ามากที่สุด โดยขนมมันหนึบอาจเป็นขนมที่แปลกใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้า ทำให้มีคนสนใจมากยิ่งขึ้น ด้านเทคนิคในการนำเสนอสินค้าของทางร้านนั้น จะนำเสนอในส่วนของการถ่ายรูปและวิดีโอให้สวยและน่าสนใจ เพื่อที่เวลาโปรโมทสินค้าจะได้ทำให้สินค้าน่าสนใจและเป็นที่จับตามองต่อกลุ่มลูกค้า รวมถึงมีการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ประมาณ 3 คนในการโปรโมท เพื่อให้สินค้าได้กระจายไปสู่สายตาลูกค้ามากยิ่งขึ้น


ทั้งนี้การตลาดในแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อความบันเทิงอย่าง TikTok นั้น ในช่วงแรกทางร้านเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพเพียงกลุ่มเดียว แต่เมื่อโปรโมทสินค้าผ่าน TikTok กลับทำให้มีลูกค้ากลุ่มอื่นๆ เข้ามาสนใจและให้การตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่อยู่ในวัยรุ่น วัยเรียน เป็นต้น ในส่วนของสินค้าภายในร้านนั้นจะมีขนมในกลุ่มเบเกอรี่เป็นหลัก เดิมทีเป็นขนมชูครีมที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน แต่พอเปิดตัวขนมมันหนึบไปก็ทำให้กลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ในตอนนี้ ซึ่งขนมมันหนึบจะมีขนาดประมาณ 85-100 กรัม


สำหรับกำลังการผลิตนั้นในตอนนี้สามารถผลิตได้วันละ 200-300 ลูก เนื่องจากยังมีกำลังคนไม่เพียงพอ รวมถึงในช่วงแรกวางขายแค่หน้าร้านอย่างเดียว ทำให้กำลังการผลิตในตอนนี้ยังไม่เกิน 300 ลูกต่อวัน แต่สามารถทำให้ขายหมดทุกวัน เนื่องจากมีทั้งลูกค้าที่เข้ามาซื้อหน้าร้านและลูกค้าที่สั่งพรีออเดอร์ นอกจากนี้ขนมมันหนึบของทางร้านมีอายุการเก็บรักษาสำหรับแช่เย็นในช่องธรรมดาประมาณ 7 วัน แต่ถ้าหากเก็บไว้ในช่องฟรีซหรือช่องแช่แข็งจะสามารถเก็บได้ประมาณ 1 เดือน


ทั้งนี้ในส่วนของการลงทุนนั้น ทางร้านให้ข้อมูลว่าจำเป็นต้องใช้ต้นทุนมากพอสมควร เนื่องจากต้องปรับสูตรให้ดีต่อสุขภาพ แต่วัตถุดิบที่นำมาใช้ไม่ได้มีจำนวนมากนัก ตัวเลขในการลงทุนจึงอยู่ในหลักพันและสามารถคืนทุนให้ได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งกำไรที่ได้นั้นจะได้เป็นวันต่อวัน เพราะในตอนแรกทางร้านไม่คิดว่าจะต้องมาผลิตขนมวันละร้อยๆ ลูก


ในการเจาะกลุ่มลูกค้าและเทคนิคในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นนั้น ทางร้านเปิดเผยว่า “จริงๆ ไม่ได้มีเทคนิคมากค่ะ แค่เราต้องสังเกตกลุ้มเป้าหมายของเราว่าเขาต้องการที่จะดูอะไร หรือว่าอยากดูอะไร ทำยังไงให้มีคนมาคอมเม็นต์เยอะๆ หรือว่าอยากที่จะกดแชร์อะไรอย่างนี้ค่ะ เพราะว่าร้านพึ่งมาเปิด TikTok ได้ไม่ถึง 1 เดือนค่ะ” นอกจากนี้ขนมมันหนึบมีราคาลูกละ 69 บาท ซึ่งจะมีการจัดโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลต่างๆ ในแต่ละเดือน

สำหรับยอดขายหรือยอดสั่งจองขนมของทางร้านนั้น ลูกค้าออนไลน์จะมากกว่าลูกค้าหน้าร้าน รวมถึงลูกค้ามีการกลับมาซื้อซ้ำ ตอกย้ำความต้องการและความอร่อยอีกด้วย ทั้งนี้วัตถุดิบหลักอย่าง มันหวาน ที่เป็นสายพันธุ์มันหวานญี่ปุ่น ทางร้านจะซื้อจากห้างสรรพสินค้าที่มีวางขายหรือตามตลาดที่มีขาย ซึ่งในช่วงนี้มันหวานค่อนข้างหายาก ถ้าหากที่ไหนมีขายทางร้านก็จะไปซื้อมาสต็อคไว้เพื่อผลิตเป็นขนมให้ลูกค้าต่อไป

สำหรับ 3 เดือนที่ผ่านมาความสำเร็จนั้นมีมากน้อยเพียงใด เจ้าของร้านเปิดเผยว่า “คิดว่าไม่ได้วัดจากยอดขายแต่ว่าอยากจะวัดจากการตอบรับจากลูกค้า ถ้าสมมติว่าลูกค้าซื้อไปแล้วบอกว่าอร่อยถูกปาก ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ได้อยากวัดที่ยอดขายเท่าไหร่ค่ะ ส่วนยอดขายตั้งแต่เปิดขายออนไลน์จริงจังไม่ถึงเดือน หลังจากคลิปใน TikTok บูม ยอดขายก็ประมาณหลักแสนกว่าบาทแล้วค่ะ”

อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเปิดรับตัวแทนจำหน่ายในหลายจังหวัดเพื่อกระจายสินค้าได้ทั่วถึง รวมถึงตั้งเป้ากำลังการผลิตไว้ประมาณ 500-1,000 ลูกต่อวัน เนื่องจากมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดีมากขึ้น รวมถึงมีแผนที่จะนำสินค้าไปวางขายตามบูธต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าให้ลูกค้าได้รู้จักมากขึ้น และนอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มไลน์ผลิตในส่วนของมัน อาจจะทำให้เป็นในรูปแบบของมันสำปะหลัง หัวแครอท โดยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ติดต่อเพิ่มเติม
Line : Mahouse


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น