ZORT แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อก สตาร์ทอัปไทยที่ถือกำเนิดมาจากพ่อค้าขายรองเท้าย่านธุรกิจขายส่ง “นายสวภพ ท้วมแสง” หลังจากเจอปัญหาการบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกรองเท้าไม่ได้ ในช่วงที่ขายรองเท้าได้ดี ซึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ขายสินค้า ก็เจอปัญหาเดียวกัน เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขา นำความรู้จากการที่เรียนด้านวิศว คอมพิวเตอร์จากจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มาปรับใช้เขียนโปรแกรม และเป็นที่มาของแพลตฟอร์ม ZORT แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อก ที่มีผู้ใช้บริการเอสเอ็มอี กลุ่มพ่อค้า แม่ค้าใช้บริการมากถึง 3,000 ราย มีเงินหมุนเวียนในปีที่ผ่านมา ผ่านการบริหารจัดการ ของ ZORT มากถึง 84,000 ล้านบาท
แพลตฟอร์มจัดการออเดอร์สต๊อก
สตาร์ทอัปไทยก้าวสู่ผู้นำอาเซียน
นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร (Seller Management Platform) กล่าวว่า ตนเองได้เริ่มพัฒนาระบบบริหารจัดการออเดอร์ และสต๊อก ของZORT ถึงวันนี้ ผ่านมา 6 ปี เริ่มจากพัฒนาขึ้นมาใช้เองก่อน และก็ให้เพื่อนที่มีปัญหาเช่นเดียวกับเราได้ลองใช้ ปรากฏว่า ช่วยทำให้ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ในการขายสินค้าของเราได้มากขึ้น ถึง 30% หลังจากนั้น ได้มีการนำระบบออกมาให้บริการกับลูกค้า ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้าที่สนใจ จนถึงปัจจุบัน มีฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ 3,000 ราย ตั้งเป้า 18,000 ราย ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีการซื้อขายผ่านออนไลน์ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้การใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของ ZORT เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยปีเดียว 2564 มีพ่อค้า แม่ค้า มีการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของ ZORT กว่า 3,000 ราย มีรายการซื้อขายมากถึง 45 ล้านครั้ง
“ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการซื้อขายออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 เกิดการล็อกดาวน์หลายครั้งทำให้ผู้คนหันมานิยมการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งยังทำให้เกิดแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่ขึ้นมาในช่วงนั้นอย่างมาก จากการเก็บข้อมูลของ ZORT พบว่าลูกค้ามีการเติบโตของยอดขายโดยเฉลี่ย 300% ในช่วงเวลาย้อนหลัง 3 ปีหลังจากที่ใช้ระบบของเรา ทำให้เห็นว่าระบบการจัดการร้านค้าออเดอร์และสต๊อกออนไลน์มีบทบาทสำคัญอย่างมีนัยยะในการขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ จากแนวโน้มการเติบโตของการซื้อ- ขายออนไลน์ จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ZORT เติบโตควบคู่ไปในทิศทางเดียวกัน”
กลุ่มลูกค้าทั้งออนไลน์ผ่านมาร์เก็ตเพลส และออฟไลน์
“ZORT เป็นระบบจัดการออเดอร์ และสต๊อกแบบครบวงจรเจ้าแรก ดำเนินธุรกิจมากว่า 6 ปี ให้บริการร้านค้ากว่า 3,000 ร้านค้า ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Customer Centric ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการที่ตอบโจทย์ที่สุด ใช้ง่ายที่สุด และใช้จ่ายน้อยที่สุด ด้วยค่าบริการที่เข้าถึงง่าย เริ่มต้นเพียงเดือนละ 99 บาท โดยบริการทั้งหมดเพื่อแก้ไขจุดอ่อนทางธุรกิจ ของการขายของออนไลน์ และออฟไลน์ โดยเฉพาะการเปิดร้านค้าผ่านหลายแพลตฟอร์ม เช่น Lazada, Shopee, JD central, Facebook หรือ Line เป็นต้น ซึ่งทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการออเดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ตอบโจทย์ทั้งหมด ZORT จึงรวบรวมการขายของจากหน้าร้านทุกแพลตฟอร์มและหน้าร้านแบบออฟไลน์มาไว้ที่เดียว”
“ทั้งระบบจัดการคลังสินค้า จัดการออเดอร์ จัดการสต๊อก จัดการขนส่ง จัดการระบบรับชำระเงิน (Payment Gateway) รวมถึงฟีเจอร์ส่งเสริมการขายจำนวนมาก ที่พัฒนาจากความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงและการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Data Analysis) เพื่อต่อยอดพัฒนาการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทที่ต้องการสนับสนุนการเติบโตของลูกค้า เนื่องจากสามารถทราบถึงต้นทุนจากการขาย วิเคราะห์แนวโน้มกำไร เรียกดูข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับสถิติการขายของเจ้าของร้าน เช่น รายการสินค้าที่สร้างยอดขายได้ดี และรายการสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ระดมทุนระดับ Series A จากธนาคารกรุงศรีฯ และบัซซี่บีส์
นายสวภพ กล่าวถึง เป้าหมายทางธุรกิจขอ ZORT ในครั้งนี้ คือตั้งเป้าหมายในปี 2565 มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ร้านค้า ครอบคลุมร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม และขยายการให้บริการไปสู่ระดับอาเซียน รวมถึงตั้งเป้าหมายระดับ 3 ปี จะสามารถขยายฐานลูกค้าไปถึง 18,000 ร้านค้า ซึ่งล่าสุด ZORT ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด และ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด และนักลงทุนอิสระ ในการเพิ่มทุนระดับ Series A โดยการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้ ZORT ได้รับเงินทุน 55 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอให้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงการบุกตลาดอาเซียน และขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียนได้อย่างไม่ยาก
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า นับเป็นการลงทุนที่สำคัญอีกครั้งของเรา เพราะนอกจากกรุงศรี ฟินโนเวต จะลงทุนในฐานะ CVC (Corporate Venture Capital) ที่มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ เพื่อต่อยอดความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของสตาร์ทอัพมาช่วยพัฒนาโซลูชันให้กับกลุ่มลูกค้า SME ของกรุงศรี พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับร้านค้าออนไลน์ที่ใช้บริการแพลตฟอร์มของ ZORT และครั้งนี้ยังเป็นการลงทุนในสตาร์ทอัพรายแรกของกองทุน Finnoventure Fund ที่กรุงศรี ฟินโนเวต เป็นผู้บริหารกองทุน ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเชื่อมต่ออีโคซิสเต็มส์ระหว่างนักลงทุนและกลุ่ม SME จำนวนมาก การลงทุนในครั้งนี้ยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ ZORT ในการขยายฐานลูกค้าและเติบโตไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์ในตลาดอาเซียนได้สำเร็จอีกด้วย
นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า ZORT ถือเป็นอีกแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่ม Ecosystem ให้กับร้านค้าออนไลน์ทำงานด้านบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทย โดยการเข้าร่วมทุนของ Buzzebees ในฐานะผู้นำด้าน CRM & Loyalty Program ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดร่วมกันกับ ZORT เพื่อให้ร้านค้าออนไลน์ได้รับประโยชน์สูงสุดบน Ecosystem ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะต่อยอดในส่วนของการบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM Solutions) ทำให้ร้านค้าออนไลน์มีฐานข้อมูลลูกค้าเป็นของตนเอง และทราบถึงพฤติกรรมของลูกค้าผ่านฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นบริการของ Buzzebees เช่น บน Line OA ทำให้สามารถสร้างแคมเปญได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซกเม้นท์ อีกทั้งยังสามารถนำสินค้ามาลงขายบนแพลตฟอร์มพันธมิตรของ Buzzebees ซึ่งมีกว่า 300 แพลตฟอร์ม นับเป็นการเพิ่มช่องทางการขายให้กับร้านค้า ขณะเดียวกัน Buzzebees ก็มีเน็ตเวิร์กเพิ่มขึ้น จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะช่วยสร้างยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ได้ครอบคลุมมากขึ้น
นายโคบี้ บุญบรรเจิดศรี นักธุรกิจและนักลงทุน ที่เป็นอีกหนึ่งในผู้ที่เข้ามาเพิ่มทุนรอบ Series A ให้กับ ZORT กล่าวว่าการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัปที่เป็น Early Stage ถือว่ามีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากส่วนใหญ่นักธุรกิจสตาร์ทอัพจะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆที่ช่วยแก้ปัญหาการทำธุรกิจในรูปแบบเดิมๆได้ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนธุรกิจให้กับกลุ่ม SME ในด้านอีคอมเมิร์ซถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างน่าสนใจ เพราะในอนาคตอีคอมเมิร์ซจะกลายเป็นภาคธุรกิจที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับโลกอีกหนึ่งด้านที่สำคัญ
เตรียมเปิดตลาดอาเซียน เริ่มที่ปท.ฟิลลิปปินส์
ทั้งนี้ ZORT เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์ และสต๊อก ครบวงจรเจ้าแรกของไทยที่ได้รับเงินทุน Series A 55 ล้านบาท จาก กรุงศรี ฟินโนเวต บัซซี่บีส์ และนักลงทุนอิสระ อีกทั้งยังเป็น สตาร์ทอัปรายแรกที่กองทุน Finnoventure Fund เลือกลงทุน เตรียมนำแพลตฟอร์มบริหารจัดการการขายสินค้าครบวงจรบุกตลาดอาเซียน โดยวางเป้าหมายไว้ที่ประเทศแรก คือ ฟิลลิปปินส์ ที่เลือกฟิลลิปปินส์ เพราะมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลออนไลน์ใกล้เคียงกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ใช้เฟสบุ๊ก ไลน์ หรือ ไอจี ใกล้เคียงกัน มีการซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์จำนวนมาก เช่นเดียวกับประเทศไทย ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง CLMV มีการนำไปใช้บริการกันบ้างแล้ว แต่เรายังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และแผนในปี 2565 จะหันมาเน้นการบุกตลาดช่องทางโซเชียลฯ มากขึ้น อย่าง เฟสบุ๊ก ไอจี LINE และ Tiktok และเราก็ยังเป็นพันธมิตรกับทาง LINE OFFICIAL
ZORT ระบบจัดการออเดอร์และสต๊อกคือ ระบบจัดการร้านค้าแบบใหม่ ออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ง่ายขึ้น มีระบบแสดงผลที่เข้าใจง่ายเหมาะกับพ่อค้า แม่ค้าในยุค 5G นี้ โดยช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจทั้งตัวเงินและเวลา ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ภายใน ระบบ ZORT ที่ช่วยสร้าง ECOSYSTEM ให้ระบบการขายของทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ยังมีบริการฟีเจอร์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานในการขายสินค้าและบริการแบบ Up to Trend ทำให้ลูกค้าไม่พลาดทุกเทรนด์ใหม่ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย
ท้ายสุดนี้ “นายสวภพ” กล่าวถึง ธุรกิจสตาร์ทอัปไทยว่า ที่ผ่านมา จะมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัปไทยที่ประสบความสำเร็จ และเติบโตก้าวเข้าไปสู่ยูนิคอร์น ในยุควิกฤตโควิด ทำให้การเป็นยูนิคอร์นของสตาร์ทอัปไทย เดินมาได้เร็วมากขึ้น การจะเป็นยูนิคอร์นขึ้นอยู่กับมูลค่าตลาดนั้นๆ ด้วย แต่การเริ่มต้นที่จะก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจสตาร์ทอัปไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าของจะต้องมีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอยู่บ้าง เพราะการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ต้องใช้คนซึ่ง เป็นต้นทุนที่สูงมาก ซึ่งเจ้าของจำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานเทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุน ถึงจะอยู่รอด
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager