xs
xsm
sm
md
lg

มัจฉะเลิฟเว่อถูกใจสิ่งนี้! “Pada cafe” คาเฟ่ลับในระยอง การตลาดแบบออร์แกนิค อินฟลูเอนเซอร์แห่รีวิวเองไม่ได้จ้าง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คาเฟ่ลับในจังหวัดระยอง “Pada Cafe” ที่เติบโตมาจากการทำการตลาดแบบออร์แกนิค เพราะมีอินฟลูเอนเซอร์มารีวิวให้กว่า 50 ราย โดยไม่ได้จ้าง เพราะเปิดร้านในช่วงที่คาเฟ่กำลังมาแรงและเปิดเป็นร้านแรกๆ ในพื้นที่ ตอบโจทย์คอกาแฟและมัจฉะอย่างมาก


นายวนนน ปราศมณฑิล เจ้าของร้าน Pada cafe เล่าว่า ธุรกิจของตนเริ่มก่อตั้งในยุคที่ธุรกิจคาเฟ่ยังไม่บูมเท่าปัจจุบัน โดยเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2019 ในช่วงแรกเปิดร้านมาเพื่อเป็นคาเฟ่สำหรับให้ลูกค้าได้เข้ามาพักผ่อนและสร้างคอนเท็นต์ถ่ายรูปต่างๆ โดยยังไม่ได้เน้นในส่วนของเมนูเครื่องดื่มและอาหารมากนัก ต่อมาเริ่มเป็นที่สนใจในกลุ่มลูกค้าและคนในพื้นที่จังหวัดระยอง เนื่องจากเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ในช่วงนั้นและทำให้มีนักรีวิว อินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ เข้ามาทำคอนเท็นต์โดยที่ทางร้านไม่ได้จ้างประมาณ 40-50 ราย ในระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นทางร้านเริ่มปรับปรุงรสชาติเครื่องดื่มและอาหารให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพราะเทรนด์คาเฟ่นั้นจะบูมในช่วงครึ่งปีแรกเท่านั้น รวมถึงมีคาเฟ่อื่นๆ ผุดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ทางร้านต้องพัฒนาและสร้างความแตกต่างให้เป็นจุดสนใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น


สำหรับการเปิดร้านคาเฟ่เป็นเจ้าแรกๆ ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นทำให้มีคนสนใจจำนวนมากและสามารถคืนทุนให้เจ้าของร้านได้ตั้งแต่ 4-5 เดือนแรก เนื่องจากร้านตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ต่างก็ให้ความสนใจและนิยมมาสร้างคอนเท็นต์สไตล์คาเฟ่เพื่อนำรูปภาพที่ถ่ายไปลงโซเชียลเพื่ออัปเดตในแต่ละวันของลูกค้า ซึ่งในตอนแรกจุดประสงค์ของการเปิดร้านคาเฟ่คือต้องการนำเสนอเมนูเครื่องดื่มกาแฟต่างๆ แต่ลูกค้าให้ความสนใจในการสร้างคอนเท็นต์ถ่ายรูปมากกว่า ซึ่ง 6 เดือนต่อมาลูกค้าเริ่มนิยมและสนใจร้านคาเฟ่ที่เปิดใหม่ ทำให้ในแต่ละวันมีลูกค้าลดน้อยลง แต่ทางร้านไม่หยุดพัฒนา ปรับสูตรกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ให้แตกต่าง โดยพัฒนาทุกส่วนในร้าน เจาะเทรนด์ต่างๆ ที่กำลังนิยมในช่วงเวลานั้นมาปรับและเพิ่มเข้ากับเมนูของทางร้าน เพื่อให้ร้านสามารถดำเนินต่อไปได้ในระยะยาว ปัจจุบันเน้นเครื่องดื่มที่เป็นเมนูชา มัจฉะสไตล์ญี่ปุ่น


สำหรับกลุ่มลูกค้านั้นทางร้านต้องการจะเจาะกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มๆ ไป ซึ่งในช่วงแรกต้องการลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มคนถ่ายรูปคาเฟ่ ทางร้านมีกลยุทธ์และเทคนิคการตลาดเพื่อดึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้เข้ามา โดยการตั้งราคาที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มลูกค้า ต่อมาเมื่อเปิดร้านไปสักพักกลุ่มลูกค้าเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง จากที่นิยมถ่ายรูปตามคาเฟ่ก็เปลี่ยนมาเป็นดื่มด่ำกับบรรยากาศ ซึ่งทางร้านเป็นคาเฟ่ที่อยู่ในรีสอร์ททำให้มีบรรยากาศร่มรื่น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในส่วนนี้ ทำให้ทางร้านปรับกลยุทธ์ใหม่โดยการปรับปรุงร้านให้เข้ากับบรรยากาศมากขึ้น มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกสรรมากมายในราคาที่จับต้องได้


ระหว่างที่เปิดร้านมาได้ประมาณ 2 ปีนั้น ทางร้านได้มีการปรับฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพราะในแต่ละช่วงจะมีลูกค้าที่สนใจแตกต่างกันไป ซึ่งการปรับฐานลูกค้านั้นจะช่วยให้ร้านสามารถดำเนินต่อไป โดยระยะเวลาที่เปิดร้านเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดในประเทศไทย แต่ก็ไม่กระทบทางร้านเพราะกลยุทธ์การปรับฐานลูกค้าและปรับราคาให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและจับต้องได้


นอกจากนี้ก่อนจะมาเปิดเป็นร้านคาเฟ่ Pada นั้น เจ้าของร้านยังมีธุรกิจรีสอร์ทที่ชื่อว่า “พรรณวนา” ที่สร้างชื่อมาก่อนและมาต่อยอดเป็นคาเฟ่ที่เติบโตมาด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ โดยเมนูในคาเฟ่นั้นจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เมนูกินทุกวัน เป็นกาแฟที่มีทั้งเมล็ดในไทยและต่างประเทศ 2.เมนูแฟชั่น ที่ต้องเปลี่ยนไปตามเทรนด์การตลาดต่างๆ และต้องใช้ความคิดในการคิดค้นเมนูเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด และ 3. เมนู Spacialty เช่น Matcha Spacialty ที่เป็นสายพันธุ์ที่หาได้ค่อนข้างยาก เอาใจสายมัจฉะ


ทั้งนี้ส่วนตัวแล้วเจ้าของร้านมีอาชีพเป็นหมอและเปิดคลินิกเกี่ยวกับความงาม ซึ่งจะแตกต่างจากการทำธุรกิจรีสอร์ทและคาเฟ่เป็นอย่างมาก โดยตัวเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าเหตุผลที่เลือกมาทำธุรกิจร้านราเฟ่ควบคู่ไปกับการเป็นหมอนั้น เริ่มจากการที่ตนชื่นชอบการลงทุนแบบออฟไลน์ มาสร้างธุรกิจที่ตนเองชอบ เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว จึงต้องการจะสร้างธุรกิจที่ตนรักและชื่นชอบ


สำหรับเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ของทางร้านในช่วงแรกจะมีราคาเริ่มต้นที่หลักร้อย เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวราคาจึงค่อนข้างสูงต่อแก้ว แต่พอช่วงหลังเริ่มมีการปรับราคาลงมาให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้า โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 65-120 บาทต่อแก้ว ซึ่งปัจจุบันเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์และเป็นที่พูดถึงจะเป็นเมนู มัจฉะ และเป็นเมนูที่เมื่อลูกค้านึกถึงจะนึกถึงเมนูมัจฉะของทางร้านเป็นอันดับต้นๆ ในพื้นที่


ทั้งนี้ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดนั้นทางร้านได้มีการปรับเมนูเพื่อรองรับสำหรับเดลิเวอรี่ให้กับลูกค้า ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบเรื่องการลงทุนในแต่ละวัน แต่ใช้เวลาในช่วงเวลานั้นพัฒนาฝีมือพนักงานให้ได้รสชาติเครื่องดื่มที่ดีมากขึ้น


นอกจากนี้ในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเรียนรู้เทรนด์ธุรกิจคาเฟ่ว่าต้องมีการเพิ่มหรือเสริมอะไรเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างยอดขายและเพิ่มปริมาณลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจจะมีโซนของ Working Space เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีพื้นที่สำหรับดื่มด่ำกับบรรยากาศและสามารถทำงานหรืออื่นๆ ได้ในร้านคาเฟ่ รวมถึงมีแผนที่จะแตกไลน์ผลิตในส่วนของ Matcha Spacialty ให้เป็นแบรนด์ลูกเพื่อตีตลาดสำหรับคอมัจฉะโดยเฉพาะ


อย่างไรก็ตาม “สำหรับคนที่สนใจจะเปิดร้านคาเฟ่ในยุคนี้นั้น ในแง่ของธุรกิจร้านคาเฟ่ในปัจจุบันนอกจากมีใจรักในงานบริการและชื่นชอบการดื่มแล้ว ยังจำเป็นต้องมีทุนที่มากพอสมควร เพราะนอกจากการมีร้านเป็นของตัวเองแล้วยังต้องไปศึกษาเรียนรู้การทำเมนูต่างๆ รวมถึงมีเครื่องทำชากาแฟเพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ เพราะร้านคาเฟ่การแข่งขันในยุคนี้ถือว่าค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นผู้เล่นในสนามวงการคาเฟ่ต้องมีใจรักและแข็งแกร่งมากพอสำหรับคู่แข่ง”

ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook :
Pada Cafe
















* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น