xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) จากเมนูเปิบพิสดารสู่อาหารโปรตีนทางเลือกใหม่!(ตอนจบ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากเมนูเปิบพิสดารสู่อาหารโปรตีนทางเลือกใหม่!! “เนื้อจระเข้” ทางรอดของฟาร์มยุคโควิด-หมูแพง!! (ตอนจบ)

ร.ต.ต.วิชัย รุ่งทวีชัย เจ้าของฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัยและร้านตึกส้มจระเข้ตุ๋น บอกว่าการเลี้ยงจระเข้หลักจริงๆ แล้วคือต้องการ “หนังจระเข้” เนื้อไปหนังไม่ไปก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่เหมือนเดิม มันก็ยังติด เพราะว่าทำก็คือต้องการเอาหนังแต่ทุกวันนี้ที่เขาทำกันไว้ก็คือ เมื่อทำแล้วเอา “เนื้อจระเข้”ออกมาขายแต่หนังก็ฟอก โดยยอมควักเนื้อให้สูงขึ้นไปอีกหน่อย ฟอกแล้วเก็บเป็นหนังเอาไว้ เก็บเป็นหนังที่ฟอกแล้วเอาไว้ เพื่อรอโอกาส และรอเวลาเมื่อตลาดหรือการท่องเที่ยวเริ่มเปิดขึ้นมานิดๆ ก็คิดว่าน่าจะดีขึ้น ก็เลยยอมชำแหละเอาเนื้อออกมาในระหว่างนี้ที่มันได้ราคาดี แล้วก็หนังฟอกเก็บมันไว้ รอโอกาสถ้าตลาดเปิด ถ้าตลาดไม่เปิดก็ยังเก็บไว้ได้อีกหลายปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้ว เพราะต้นทุนบางส่วนได้มาจากเนื้อที่ตลาดกำลังบูมอยู่ตอนนี้

เนื้อจระเข้สดที่ทางร้านเตรียมไว้ปรุงเมนูบริการลูกค้าในแต่ละวัน
การตลาดของฟาร์มจระเข้ จากอดีตสู่ปัจจุบัน

สมัยก่อนการเลี้ยงจระเข้ ร.ต.ต.วิชัย เล่าว่า จะเน้นเอา “หนัง”อย่างเดียวส่วนเนื้อคือ ผลพลอยได้ขั้นที่2 เพราะสมัยนั้นคนไทยไม่นิยมบริโภคเนื้อกันมากนัก นอกจากต่างชาติอย่างเช่น จีน ซึ่งบางฟาร์มก็ทำแบบอบแห้งเป็นนี่เป็นนั่นออกไปขายตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งคนไทยทั่วไปก็ไม่นิยมกินเนื้อจระเข้นัก คือเนื้อก็จะรองจากหนัง หลังจากนั้นในฟาร์มเราก็โชคดีในเรื่องของ “เลือดจระเข้” ซึ่งในหลายฟาร์มไม่มีและก็ทำไม่ได้ ตอนนี้ในประเทศไทยที่มีได้ อย. ก็ไม่กี่เจ้า สำหรับเลือดจระเข้แคปซูล
คือที่ฟาร์มถ้าพูดกันจริงๆ ก็เป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ผลิตเลือดจระเข้แคปซูลออกมา ซึ่งหลังจากที่เราได้หนังได้เนื้อเป็นตัวรองแล้วอยู่มามีวันหนึ่ง มีผลงานวิจัยของ ม.เกษตรศาสตร์ ออกมาเขาเห็นว่าเราทำฟาร์มอยู่แล้ว และไม่ไกลจาก ม.เกษตรฯ อาจารย์เขาก็เลยเข้ามาคุยเพราะเห็นฟาร์มเรามีการชำแหละจระเข้อยู่ด้วย ได้เข้ามาคุยเรื่องงานวิจัยเลือดจระเข้ซึ่งได้เล่าให้ฟังไปแล้วว่า ทำไมจระเข้มันถึงอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการดูแลการเพาะเลี้ยง ไม่มีการเจ็บป่วยเลย อาจารย์เขาก็เลยวิจัยออกมาปรากฏว่าเลือดจระเข้มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เยอะ และก็มีสารอาหารหลายๆ ตัวที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ.. ซึ่งเลือดสมัยก่อนไม่ได้เอาไปไหน ปล่อยลงน้ำ ทิ้ง! ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าคิดย้อนหลังไปเลือดที่ทิ้ง คิดเป็นมูลค่ากว่า100 ล้านบาท!

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อจระเข้ตุ๋น เมนูแจ้งเกิดเนื้อจระเข้อย่างเป็นทางการของฟาร์ม
พอหลังจากนักวิจัยเข้ามาคุย ฟาร์มเองตอนนั้นก็เริ่มลงทุนกับ ม.เกษตรฯ บางเขน ที่จะผลิตออกมาเป็นแคปซูล ซึ่งการลงทุนตอนนั้นก็ยังไม่เห็นตลาดอะไรเลย แต่ด้วยความที่ว่าเสียดายเลือดจะทิ้งไปเปล่าๆ กับคิดว่าสักวันหนึ่งมันน่าจะมีประโยชน์กับมนุษย์ก็เลยตัดสินใจทำกันมา หลังจากนั้นพอผลิตเลือดออกมาในช่วงแรกๆ ก็แจกฟรีให้กับคนที่มีปัญหาสุขภาพได้กินกัน
กลุ่มHIV กลุ่มมะเร็ง เบาหวาน ภูมิแพ้ เลือดน้อย-โลหิตจาง ฯลฯ คือใครมีปัญหาแล้วอยากได้เราก็แจกเขาไปหมดให้เขากินเพื่อเราจะได้รู้ว่าประโยชน์ของมันช่วยอะไรได้บ้าง ก็ปรากฏว่าคนที่เอาไปกินผลลัพธ์ที่ออกมาคือดีทุกกลุ่ม! ได้ผลอย่างน่าพอใจมากๆ ก็เลยทำให้มีกำลังใจที่จะทำต่อ และไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าการตลาดมีการตอบรับดีมาก จนทำเอาตั้งตัวกันแทบจะไม่ทันเลย ต้องหาเงินซื้อเครื่องผลิตเพิ่ม หาคนมาผลิตเพิ่มเยอะมาก จนทุกวันนี้กลายเป็นรายได้หลักที่เลี้ยงฟาร์มมาหลังจากโควิด-19 มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ และตามร้านขายยาบางร้านด้วยแล้วตอนนี้ก็มีกระแสมากิน “เนื้อจระเข้” กันอีก

เนื้อจระเข้ทอดกระเทียมพริกไทย

เนื้อจระเข้ผัดฉ่า เครื่องสมุนไพรโดยเฉพาะกระชายขาวจัดเต็มมาก
เปิดตัว “เนื้อจระเข้” พร้อมเมนูท้าชิม อย่างเป็นทางการ

ร.ต.ต.วิชัย เล่าให้ฟังอีกว่า หลังจากที่ฟาร์มได้ทำ “เลือดจระเข้” ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์แล้วสักระยะหนึ่ง ก็เริ่มทำ “เนื้อ” เกี่ยวกับอาหารด้วย ซึ่งเมื่อก่อนจะทำส่งเขา ส่งไปภัตตาคารต่างๆ จึงมาลองทำเองดูบ้าง เปิดเป็นร้านอาหารแต่ก็ไม่ใช่เป็นร้านอาหารเสียทีเดียว เพราะเริ่มจากการขายก๋วยเตี๋ยวเป็นร้านเล็กๆ ทำเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อจระเข้ก็แล้วกัน จะขายให้กับคนที่เขาอยากกินจระเข้ ซึ่งสมัยก่อนเนื้อหากินยากเพราะว่าจะมีราคาแพง เนื้อตุ๋นถ้วยเล็กๆ เป็น100-200 บาท ประชาชนคนเดินดินทั่วไปอยากกินก็ได้แต่มองเพราะมันแพง เราก็เลยมาคิดกันว่าขายสัก40 บาทก็พอ! ใครมีเงิน40 บาทก็มากินเนื้อจระเข้ที่ร้านเราได้ เราคิดว่าอย่างนั้นแต่ช่วงนั้น ก็มีเพื่อนๆ หลายคนออกมาทักท้วงว่ามันขายไม่ได้หรอก(มึงเจ๊งแน่!) เราก็บอกไม่เป็นไร เพราะเราก็มีทางเลือกอย่างอื่น หมู-ไก่ ลูกชิ้น ให้เลือกด้วย ก็เปิดขายขึ้นมาแล้วกลายเป็นว่า คนไทยเราหันมาบริโภคเนื้อจระเข้กันเยอะมาก! ซึ่งก็เป็นรายได้หลักอีกแบบหนึ่งที่เราไม่คาดหมาย เหมือนกับเลือดจระเข้ที่เราก็ไม่ได้คาดหมายมาก่อนเช่นกัน

เนื้อจระเข้ย่างสูตรเด็ดของร้าน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขายดีมาก ราคาไม้ละ 20 บาท

ร.ต.ต.วิชัย รุ่งทวีชัย เจ้าของฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชันและร้านตึกส้มจระเข้ตุ๋น ที่รับบทเชฟย่างเนื้อจระเข้เสิร์ฟลูกค้ามือเป็นระวิงเลย
ซึ่งกระแสมาตอบรับการกินเนื้อจระเข้ดีมากตอนนี้ คือแรกๆ ก็ขายก๋วยเตี๋ยวก่อน หลังๆ มาก็มีคนมาถามว่านอกจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นแล้ว ทำอะไรได้อีกบ้างเนื้อจระเข้? ก็เลยมาคิดค้นกันว่าเนื้อจระเข้ทำได้เหมือนหมูเหมือนไก่ไหม ก็เอามาลองทำดู แรกๆ ก็ลองผิดลองถูก อาจจะเหนียวบ้าง แข็งบ้าง กระด้างบ้าง ด้วยความที่เราเองก็ไม่ใช่เป็นกุ๊กมือหนึ่ง แต่ก็ทำมา ทดลองๆ จนแบบนี้มันลงตัวดีแล้ว ก็ออกมาเป็นคั่วกลิ้ง ผัดฉ่า ผัดกะเพรา ผัดพริกไทยดำ ผัดพริกแกง ต้มแซบ อุ้งเท้าจระเข้ตุ๋นก็มี และก็ราดหน้าจระเข้ก็มี แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาได้ทำ เคยทำอยู่พักหนึ่ง “ข้าวขาจระเข้ตุ๋น” การตอบรับดีแต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาทำ เพราะการตุ๋นยุ่งยาก คือจะเหมือนข้าวขาหมู แต่อันนี้เป็นข้าวขาจระเข้ ซึ่งเหมือนกันแต่ว่าขาจระเข้มันจะต่างกับขาหมูตรงที่ มันจะไม่มีมัน ขาหมูพอตุ๋นแล้วมันจะหนังจะเหลวๆ มันๆ แต่จระเข้พอตุ๋นแล้ว คล้ายๆ กับขนมเข่งตากแดดแล้วสัก2-3 วัน จะหนึบๆ เหนียวๆ นิดๆ
แล้วก็มันจะไม่มี มีแต่เนื้อแดง ก็อร่อยอีกแบบหนึ่ง ลูกค้าก็ตอบรับดี แต่ตอนนี้เราไม่มีเวลา ซึ่งในอนาคตหากโรงงานเสร็จแล้วอาจจะมีข้าวขาจระเข้ตุ๋นขายด้วย สำหรับตอนนี้ใครที่มาทานที่ร้านหลักๆ ก็จะมีก๋วยเตี๋ยว มีเนื้อจระเข้ย่าง มีเมนูตามสั่งจากเนื้อจระเข้ด้วย และก็ใครที่อยากจะลองเอาเนื้อกลับไปทำเองที่บ้านก็มีเนื้อจระเข้สด(แช่แข็ง1 กก.) เพื่อจำหน่ายให้ด้วย

ผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้และเลือดจระเข้แคปซูล
การจำหน่ายเนื้อจระเข้มีทั้งราคาปลีก และราคาส่ง

สำหรับราคาของเนื้อจระเข้ที่ร้านจะมีทั้งราคาปลีก และราคาส่ง หากเป็นเมื่อก่อนราคาจะเริ่มที่70-80 จนถึง400-500 บาท
แล้วแต่ส่วนของจระเข้ แต่ละส่วนของมันราคาจะไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น จระเข้1 ตัว ขนาดความยาวของตัว1.80 เมตร-2 เมตร อายุ 2-3 ปีขึ้น จะได้เนื้อประมาณไม่เกิน15 กก. ส่วนเลือดจะได้อยู่ราวสัก 300-500ซีซี/หรือครึ่งลิตร เนื้อที่ได้จะแยกเป็น บ้องตัน(มัดกล้ามเนื้อโคนหาง2 มัด/ข้างละมัด) ราคา300-600 บาท/กก. เนื้อตัว ราคา100-200 บาท/กก. เนื้อหาง 120-160 บาท/กก. เนื้อขา ราคา70-80 บาท/กก.เป็นต้น คนที่จะเอาไปทำก็ต้องดูว่าจะเอาไปทำอะไร เนื้อส่วนไหน ทางร้านก็จะมีราคาให้ ราคาปลีก ราคาส่ง ตอนนี้ก็มีคนมาซื้อที่ร้านอยู่เรื่อยๆ ราคาปลีกราคาส่งแล้วแต่ มาซื้อไปทำกินเองส่วนตัวหรือบางคนก็ซื้อไปทำกับข้าวขาย ใช้แทนเนื้อหมู-ไก่ที่ตอนนี้ราคาแพงก็มี หรือจะสั่งจองมาก่อนว่าต้องการใช้เนื้อส่วนไหนก็บอกได้


พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์เนื้อแช่แข็ง (พร้อมปรุง) และเมนูพร้อมทานเพื่อให้บริการด้วย เร็วๆ นี้

“คือจริงๆ ตอนนี้สำหรับฟาร์มเรา มีผลิตภัณฑ์ที่เลี้ยงตัวเองอยู่คือเลือดจระเข้แคปซูล ที่เลี้ยงตัวเองอยู่แล้วผลิตภัณฑ์ต่อไปตอนนี้กำลังคุยกับประมง เพราะว่าประมงจังหวัดเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของการตลาด ก็เริ่มจะทำเป็นผลิตภัณฑ์ของเนื้อจระเข้แช่แข็งแล้วก็ส่งขายออกตามตลาดทั่วไป ก็คิดว่าไม่เกินปลายปีนี้คงจะเรียบร้อย จะมีผลิตภัณฑ์การแช่แข็งอาหารสำเร็จรูป คั่วกลิ้ง ผัดฉ่า ผัดกะเพรา ผัดพริกไทยดำ ฯลฯ เราจะทำเป็นแพ็คเก็จพร้อมทานด้วยครับ อาจจะมีเป็นกับข้าวล้วนๆ หรือจะอาจจะมีข้าวด้วย”


ร.ต.ต.วิชัย บอกด้วยว่า การตลาดในส่วนของเนื้อจระเข้และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งกำลังมีการดำเนินการเพิ่มเติมนี้ โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ยังคงเน้นจุดจำหน่ายอยู่ที่หน้าร้านของตัวเอง ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะต้องส่งเข้าร้านสะดวกซื้อหรือส่งห้างโมเดิร์นเทรดแต่อย่างใด เพราะตั้งใจอยากจะพึ่งพาตนเองเพื่อให้เกิดการตลาดที่ยั่งยืนมากกว่า ซึ่งหากไปหวังพึ่งคนอื่นสักวันเขาก็คงคิดทำเองแทนแล้วก็เขี่ยเราออกมาให้พ้นทางอยู่ดี และว่าตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา หมูเริ่มแพง กระแสจระเข้ก็เริ่มขยับขึ้นมา ทำให้ตอนนี้ยอดขายต่างๆ ก็ดีขึ้น ดีขึ้นมาเยอะเลย แต่ว่าฟาร์มจะรองรับได้นานแค่ไหนก็ยังบอกไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับกระแสตอบรับ ประชาชนที่กิน เพราะว่าคนที่มากินจะมีอยู่3 กลุ่มคือ กลุ่มแรก ที่เขามากินประจำก็มีอยู่ กลุ่มที่สอง พอหมูเริ่มแพงไก่เริ่มแพงก็เริ่มหันมามองแล้วก็มากิน “เนื้อจระเข้” มากินเพราะว่ามองเห็นประโยชน์ตรงนี้ ได้ดูได้ศึกษาแล้วปรากฏว่า มันมีประโยชน์ มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ดีกว่าเนื้ออื่นๆ ที่เขากินอยู่เขาก็จะมากินกัน และก็จะมีอีกกระแสหนึ่งก็คือ กระแสที่กินตามกระแส ตามที่เห็นจากโซเชียลฯ คือพอกินตามกระแสเราก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่า จะต่อเนื่องกันไปหรือว่าจะหยุดแค่นี้ เพราะฉะนั้นเนื้อจระเข้ที่ฟาร์มมีเราคิดว่า ขึ้นอยู่กับกระแสตอบรับ ถ้ากระแสตอบรับเยอะเราก็อาจจะไม่พอ แต่ถ้ากระแสตอบรับแบบที่มีอยู่เรื่อยๆ แบบนี้ เราพอรับได้อยู่ตลอด แล้วราคาตอนนี้ก็ถูกกว่าหมู

ถ้าเห็นตึกส้มคือมาถึงร้านของฟาร์มแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเพาะเลี้ยงจระเข้ในเชิงพาณิชย์หากพูดถึงเรื่องการสร้างรายได้จากข้อมูล “ฟาร์มรุ่งทวีชัย” ซึ่งจะแยกออกเป็นรายได้ที่มาจาก การจำหน่ายลูกพันธุ์ ราคาเริ่มต้นที่800-1,000 บาท/ตัว อายุประมาณ6 เดือนซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับ “ความยาว” ของตัวเป็นสำคัญ การจำหน่ายหนังจระเข้ ส่วนใหญ่จะได้จากจระเข้ไซส์180 ซม.-2 เมตร ที่มีอายุตั้งแต่2-3 ปีขึ้นไป การตีราคาซื้อหนังจระเข้จะวัดตามขนาดเป็น “เซนติเมตร” เริ่มต้นที่ราคา10 กว่าบาทจนถึง50 บาทขึ้น/ซม.ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความสวยงามของลวดลาย การจำหน่ายเลือด(แบบแคปซูล) โดยการเชือดต่อครั้งจะได้เลือดประมาณ300-500 ซีซีหรือ ½ ลิตร/ตัว/ครั้ง และการจำหน่าย “เนื้อจระเข้” ซึ่งจะได้เนื้อต่อ 1 ตัวอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 15 กก. ตามราคาที่มีการเปิดจำหน่ายอยู่ดังที่บอกไปแล้ว

และสำหรับคนที่สนใจการเลี้ยงจระเข้ในเชิงพาณิชย์และอยากจะทำเป็นอาชีพสร้างรายได้ ร.ต.ต.วิชัย รุ่งทวีชัย เจ้าของฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัยและร้านตึกส้มจระเข้ตุ๋น แนะนำว่า หากคุณเป็นคนที่มีเงินทุนเองแบบไม่ใช่เงินกู้ธนาคารมา และสามารถรอได้เพราะการเลี้ยงจระเข้ใช้ระยะเวลานานหลายปี อยากจะได้เงินที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิม ก็มาทำตรงนี้ได้อย่างไรเสียการเลี้ยงจระเข้ก็มีกำไรแน่นอน แต่ว่าก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีภาระดอกเบี้ยจากการกู้แบงก์มา เพราะราคาบางทีมีขึ้น-ลงซึ่งเสี่ยงต่อการขาดทุนได้ ดังนั้นอย่างฟาร์มเองที่ตอนนี้อยู่ได้เพราะไม่มีภาระหนี้สินและพยายามลดต้นทุนทุกอย่างให้ได้มากที่สุด และปรากฏว่าก็มีเกษตรกรที่เลี้ยงจระเข้โทรมาปรึกษากันมากในช่วงนี้อยากจะให้ช่วยซื้อ ซึ่งส่วนมากมีปัญหาเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหนี้ธนาคาร แต่ว่าฟาร์มเองก็ไม่สามารถซื้อได้เพราะไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคนที่สนใจและอยากจะทำอาชีพนี้จริงๆ คือต้องมีทุนเองและสามารถที่จะรอได้


สอบถามเพิ่มเติมโทร.089-878-3324



คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น