มัลลิกาชู "แฟรนไชส์สร้างอาชีพ" ของขวัญส่งท้ายปี "จุรินทร์" สั่งเดินหน้าสร้างงาน สร้างรายได้ ช่วยคนให้มีอาชีพ เป้า 10,000 ราย ลุยต่อปี 65 สนใจต่อสายด่วน 1570 ทั่วประเทศ
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายสำคัญให้ผู้ประกอบการ SMEs และ Micro-SMEs สร้างรายได้ด้วยแฟรนไชส์ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยเดินหน้า 2 กิจกรรม แฟรนไชส์สร้างอาชีพ Road Show ในส่วนภูมิภาค 15 จังหวัดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และงาน MOC แฟรนไชส์สร้างอาชีพในส่วนกลาง ใช้ระบบแฟรนไชส์เป็นเครื่องมือเป็นทางลัดในการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเกิดระบบแฟรนไชส์หน้าใหม่กว่า 10,000 ราย และสร้างเงินหมุนเวียนในประเทศกว่า 4.6 ล้านบาท
ด้านนายจุรินทร์ และนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญต่อการพลิกฟื้นและการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะไมโครเอสเอ็มอี ดังนั้น มาตรการสำคัญที่กระทรวงพาณิชย์นำมาใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือผู้ที่ตกงาน คือ การนำธุรกิจแฟรนไชส์มาช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยข้อดีของการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นโมเดลธุรกิจที่ง่ายต่อการบริหารจัดการและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เพราะผ่านการลองผิดลองถูกจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์มาก่อน มีอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้ครบครัน มีความเสี่ยงน้อยเมื่อเทียบกับการลงทุนทำธุรกิจด้วยตนเอง และมีแนวทางการทำธุรกิจให้เดินตามอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่
สำหรับธุรกิจที่เกิดงานได้ทันทีนั้นประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1. การสร้างต้นแบบแฟรนไชส์ หรือ Next B2B Franchise เป็นการสร้างองค์ความรู้ที่สำคัญแก่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ต้องการต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ 2. สร้างมาตรฐานให้ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) 3. เฟ้นหาสุดยอดแฟรนไชน์เพื่อเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการแฟรนไชส์รายอื่น โดยการจัดการประกวด Thailand Franchise Award เป็นประจำทุกปี และ 4. การจัดงานแฟรนไชส์สร้างอาชีพ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนหน้าใหม่หรือผู้ที่ต้องการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ มาเลือกลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง เป็นการสร้างความมั่นคงทางอาชีพทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ กิจกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Road Show ในส่วนภูมิภาค จำนวน 15 จังหวัด ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และมีผู้ได้รับผลกระทบมาก เช่น อุดรธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา ระยอง สงขลา พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี เชียงราย สมุทรสาคร ชลบุรี ลำปาง ชัยภูมิ ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น และสมุทรปราการ โดยนำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมงานครั้งละ 40 ธุรกิจ เริ่มจัดกิจกรรมระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 และ 2. จัดงาน MOC แฟรนไชส์สร้างอาชีพ ณ ศูนย์แสดงสินค้าในกรุงเทพฯ จำนวน 1 ครั้ง พร้อมนำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมงานมากถึง 400 ธุรกิจ ระหว่างวันที่ 15-19 ธันวาคม รวม 5 วัน
โดยทั้ง 2 กิจกรรมข้างต้นมีผู้สนใจเลือกซื้อแฟรนไชส์หลากหลายประเภทธุรกิจตามความสนใจ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม การศึกษา บริการ ค้าปลีก ความงามและสปา และพิจารณาขนาดการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองได้ มีงบการลงทุนให้เลือกตั้งแต่หลัก 1,000-1,000,000 บาท
นางมัลลิการะบุว่า ก่อนหน้านี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ว่า ที่ผ่านมามีผู้สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ทันทีกว่า 5,400 ราย และเป้าหมายวางไว้ภายใน 1 ปีจะต้องครบ 10,000 ราย จะส่งผลให้มีการนำธุรกิจแฟรนไชส์ไปประกอบอาชีพหรือเรียกว่าแฟรนไชซีกระจายอยู่ทั่วประเทศเข้าถึงชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 4,600 ล้านบาท ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ของคนไทยจำนวนกว่า 600 แบรนด์ มีสาขารวมกันกว่า 100,000 สาขาทั่วประเทศ และมีมูลค่าทางการตลาดกว่า 300,000 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 โทรศัพท์ 0-2547-5953 E-mail : franchisedbd@gmail.com และ www.dbd.go.th