xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “ใบกระท่อม” พลิกชีวิตพ่อค้าริมทางช่วงโควิด “หนุ่มแบ็คโฮ” เคยทำยอดขายสูงถึงวันละ 10,000 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากรัฐบาลปลดล็อคพืช “กระท่อม” เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 โดยประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 8 พ.ศ.2564 ทำการปลดล็อคพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ทำให้ชาวบ้านทั่วไปสามารถปลูก ครอบครอง รวมถึงซื้อขาย หรือ นำพืชกระท่อมมาบริโภคได้อย่างเสรี ไม่ผิดกฎหมาย ตามนโยบายรัฐบาลต้องการผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจ สามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้


“ใบกระท่อม” พลิกชีวิตพ่อค้าริมทาง

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เหล่าบรรดานักขายก็มองเห็นลู่ทางสร้างอาชีพในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ดูได้จากสองข้างทางจะมีรถกระบะเปิดท้ายขายใบกระท่อมกันเป็นจำนวนมาก วันนี้ พามารู้จัก กับเหล่าพ่อค้าข้างทางที่นำใบกระท่อมมาขายว่าเขาเป็นใครมาจากไหนและรายได้เป็นอย่างไร

นายศราวุธ แสงอาทิตย์ หรือ “เพชร” อายุ27ปี บ้านอยู่หนองแขม กรุงเทพฯ
เขามีอาชีพหลัก คือ รับจ้างขับรถแบ็คโฮ แต่หลังจากมีสถานการณ์โควิดงานขับรถแบ็คโฮ เริ่มลดน้อยลง ทำให้เขาต้องมองหาอาชีพอื่น พอดีในช่วงนี้ หันไปทางไหนริมสองข้างทางจะเห็นแต่คนขายใบกระท่อม เขาก็เลยตัดสินใจนำกระบะคู่ใจมาเปิดท้ายขายใบกระท่อม อยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ผ่านมาจนถึงวันนี้ กว่า 2 เดือน สำหรับอาชีพใหม่ของ “เพชร” กับการขายใบกระท่อมครั้งนี้ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะสามารถทำรายได้ต่อวัน 3,000-4,000 บาท เรียกว่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาสอีกครั้งสำหรับหนุ่มขับรถแบ็คโฮ คนนี้


โควิดทำรายได้หดหันมาขายใบกระท่อมเลี้ยงลูกน้อย

นายศราวุธ เล่าว่า ก่อนหน้านี้อาชีพหลักของตนเอง คือ รับจ้างขับรถแบ็คโฮ โดยทำอาชีพนี้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว มานานตั้งแต่อายุ 20 ปี กระทั่งมาระยะหลังงานเริ่มลดน้อยลงไป ประกอบกับเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ยิ่งมาทำให้งานลดลงไปอีก ทำให้ต้องคิดหาลู่ทาง ช่องทางหารายได้ ในแบบอื่นๆ เพื่อจะได้มีเงินมาดูแลครอบครัว ซึ่งตอนนี้ ตนเองก็มีลูกน้อย ที่ยังเล็กมาก ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูต่อเดือนก็ไม่น้อยอยู่ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องใช้ในแต่ละวัน

สำหรับการมาเปิดท้ายขายใบกระท่อม ส่วนหนึ่งเห็นคนอื่นๆ เขาขายมีรายได้ดี และส่วนตัวตนเองก็กินใบกระท่อมอยู่แล้ว พอจะรู้จัก และรู้แหล่งที่จะไปรับใบกระท่อมมาขาย และสามารถอธิบายลูกค้าได้ว่า ใบกระท่อมแบบไหนมีสรรพคุณอย่างไร เพราะลูกค้าบางรายที่เขาอาจจะยังไม่เคยกินก็ต้องการคำแนะนำจากคนขาย เราก็สามารถบอกอธิบายลูกค้าได้บ้าง เช่น ลูกค้าต้องการกินเพื่อสรรพคุณในการดูแลร่างกาย และไม่ต้องการให้เกิดผลข้างเคียงอะไร เราจะอธิบายได้ว่า จะต้องกินสายพันธุ์ไหนมีสรรพคุณอย่างไร เป็นต้น และที่ผมเลือกมาขายใบกระท่อม ส่วนหนึ่งผมคิดว่าผมเข้าใจตลาดดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า เป็นใครก็เลยเป็นเหตุผลที่ผมเลือกมาเปิดท้ายขายข้างทาง


ทั้งนี้ ลูกค้า ถ้าเป็นวันทำงานปกติ จันทร์-ศุกร์ คือ จะมีลูกค้าแวะเวียนมาจอดรถซื้อ เปิดขายไม่นานนักก็ขายใบกระท่อมได้หมดเกลี้ยงแล้ว ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ซื้อไปจะกินเป็นยา ซึ่งตอนแรกๆ ที่มาเปิดขายใหม่เคยได้รายได้ 7,000-8,000บาทต่อวัน หรือในบางวันสูงถึงวันละ 10,000 บาทเลยก็มี แต่ในตอนนั้นเริ่มขายใหม่ยังไม่มีคู่แข่ง ราคาขายสูงกว่าตอนนี้ คืออยู่ที่ขีดละ 100 บาท ระยะหลังเริ่มมีคู่แข่งเข้ามาโดยมีรายใหม่ เข้ามาขายกันมากขึ้น ตัดราคากันตามกลไกของตลาด ทำให้ราคาขายจากเดิมผมขายขีดละ 100 บาท ลดลงเหลือขีดละ 50 บาท รายได้ของเราลดลงไปด้วย เหลือ วันละ 3,000-4,000 บาท ในขณะที่ราคาขายส่งใบกระท่อมจากพ่อค้าคนกลางที่ไปรับจากสวนมากระจายต่อพ่อค้าริมทาง ก็ลดลงมาด้วย จากในอดีตราคากิโลกรัมละ400 กว่าบาทเกือบ 500 บาท ปัจจุบันปรับลดลงมาเหลือกิโลกรัมละ 300 กว่าบาท ถึง 400 บาท


พ่อค้าคนกลาง เปิดเครดิตขายก่อนจ่ายที่หลัง

นายเพชร เล่าว่า นับจากเริ่มขายมาจนถึงวันนี้ ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว แม้จะเกิดคู่แข่งริมสองข้างทางเป็นจำนวนมาก แต่ว่าความต้องการซื้อใบกระท่อมของลูกค้าก็ไม่ได้ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เขาต้องการบริโภคกระท่อมเพื่อสรรพคุณทางยา ในการดูแลสุขภาพก็จะให้ความสำคัญกับการบริโภคใบกระท่อมเป็นประจำและต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มที่ซื้อไปกินเพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้ กระเปร่ามีแรงทำงานก็เป็นอีกกลุ่มที่เป็นลูกค้าของเรา แต่กลุ่มนี้อาจจะไม่ได้ซื้อกินต่อเนื่อง จะซื้อกินเฉพาะเวลาที่เขาต้องการจะออกไปทำงาน เช่น ขับรถบรรทุก หรือ งานที่ต้องใช้แรงงานรับจ้างต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการซื้อใบกระท่อมต่อครั้ง เฉลี่ยคนหนึ่งไม่เกิน 2 ขีด เนื่องจากการกินใบกระท่อมนิยมกินสดๆ

ทั้งนี้ การลงทุนในการขายใบกระท่อม เรียกว่า 100% เรื่องของต้นทุนใบกระท่อม ซึ่งที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนค่อนข้างสูง พ่อค้าบางคน อย่างผมก็อาจจะไม่มีเงินไปลงทุนก่อน ทางพ่อค้าคนกลางเปิดโอกาสให้พ่อค้าริมทางที่รู้จัก และรวมกลุ่มกันกับเพื่อน สามารถมาเปิดเครดิตได้ ซึ่งการเปิดเครดิตแต่ละครั้ง เป็นเงินหลักหมื่นไปจนถึงหลายหมื่นบาท แม้จะขายได้เยอะแต่การลงทุนก็เยอะเช่นกัน พ่อค้าริมทางหลายคนเลือกเปิดเครดิต กับพ่อค้าคนกลาง


สายพันธุ์ใบกระท่อม ได้รับความนิยม

นายศราวุธ เล่าถึง สายพันธุ์พืชกระท่อมในแต่ละชนิด ที่เขารับมาจำหน่าย โดยใบกระท่อมที่นิยมและเป็นที่รู้จักหลัก เช่น พันธุ์ก้านแดง จากแหล่งปลูกคือจังหวัดชุมพร(โดยเฉพาะแถบท่าแซะ) พันธุ์นี้จะเน้นกินเป็นยา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รู้จักกันดีอันดับต้นๆ ถัดมาก็จะเป็น พันธุ์หางกั้ง สายพันธุ์ที่นิยมนำมาทำเป็นยาเพราะมีสรรพคุณทางยาที่ดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์กลุ่มใบปทุม ซึ่งมีแหล่งปลูกในจังหวัดปทุมธานี คุณลักษณะของกลุ่มใบปทุม คือ ใบใหญ่สวย เช่น พันธุ์เหรียญทอง ขาวแตงกวา (ก้านเขียวแต่ถ้าทางใต้จะเรียกเขียวแตงกวา) สรรพคุณก็จะไม่เหมือนกัน พวกนี้จะเน้นเสริมพละกำลัง และอาจจะมีผลข้างเคียง คือ มีอาการมึนเมา ซึ่งนิยมนำมาต้มน้ำขาย เพราะจะได้สีน้ำต้มใบกระท่อมที่สีสวยกว่าสายพันธุ์ที่มาจากจังหวัดชุมพร

“สำหรับคนที่รู้จักการใช้ประโยชน์สรรพคุณทางยา เขาสามารถดูแค่ใบก็จะรู้แล้วว่ามาจากแหล่งไหน ส่วนเป็นพันธุ์อะไรจะนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านใดส่วนมากคนที่รู้ เขาดูของเขาเองและรู้ดีอยู่แล้ว คนขายเองคือจะต้องคอยดูเรื่องของคุณภาพ ความสดใหม่ ใบจะต้องสมบูรณ์ และเป็นตายนึ่งปนอยู่ข้างในมีไหม สิ่งเหล่านี้ที่นอกจากไม่ย้อมแมวขาย ไม่หลอกลวงลูกค้าเรื่องแหล่งที่มาและพันธุ์ที่ตรงตามลักษณะแล้ว คนขายจะต้องจริงใจและซื่อสัตย์มากๆ ด้วยเพราะสุดท้ายถ้าหลอกเขา คนที่เขาใช้จริงเขาก็ต้องรู้อยู่ดี และถ้าคนขายทำไม่ดีเขาก็จะไม่มาซื้อจากเราอีก”


นอกจากใบกระท่อม ที่ “เพชร” จะดูแลเรื่องความสดใหม่ก่อนส่งตรงถึงมือลูกค้าแล้ว สำหรับคนที่อยากจะปลูกติดบ้านเพื่อเก็บใบใช้ประโยชน์ในครัวเรือนเอง เขาก็มีต้นพันธุ์(กิ่งตอน) พร้อมปลูกที่มีให้เลือกตามสายพันธุ์ที่ลูกค้าต้องการนำมาขายร่วมอีกด้วย สนนราคาก็ใกล้เคียงกับราคาใบใครสนใจก็ลองแวะถามพ่อค้าดูก่อนได้

ท้ายสุดนี้ “เพชร” ฝากทิ้งท้ายว่า “อย่างไรก็ดี เขาเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าอาชีพนี้จะใช้ทำกิน หรือสร้างเงินให้ได้แบบนี้ไปตลอด เพราะแค่เริ่มต้นมา 2 เดือน ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ได้คาดหวังไปไกล แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีเงินได้จุนเจือดูแลครอบครัว ดูแลลูกที่กำลังเติบโตให้ไม่ขัดสน มีเงินใช้จ่ายแต่ละวัน เหลือไว้ให้ลูกเป็นค่าเล่าเรียนในอนาคต เพราะด้วยกระท่อมในตอนนี้ ทุกคนมองว่าเป็นกระแสส่วนตัวเองก็มองเช่นนั้นแหมือนกัน ซึ่งเมื่อถึงวันที่ มีผลผลิตออกมามากๆ ทุกคนหาซื้อกินได้ง่าย ราคาตกลงไปตามกลไกของตลาด ถึงตอนนั้นก็คงต้องค่อยมาคิดกันใหม่ ว่าเราจะยังคงทำอาชีพนี้อยู่ หรือ ว่าจะไปทำอะไรใหม่ๆต่อไป”

ติดต่อ โทร. 095-213-8346




คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น