บริษัท ดิ อยุธยา กรุ๊ป (2009) จำกัด เผยเคล็ดลับในการจัดการ และรับมือในช่วงวิกฤต จากมุมมองผู้บริหารคนรุ่นใหม่อย่าง ธัชช์ธิราช หงส์อุปถัมภ์ชัย ผู้บริหารบริษัท ดิ อยุธยา กรุ๊ป (2009) จำกัด ซึ่งบริษัทมีทั้งร้านอาหาร แกรนด์เจ้าพระญา และ The WINE Ayutthaya พร้อมด้วยโซนใหม่ The Artisans Ayutthaya
กว่าจะมาเป็น บริษัท ดิ อยุธยา กรุ๊ป (2009) จำกัด
ธัชช์ธิราช หงส์อุปถัมภ์ชัย เล่าว่าก่อนหน้านี้เจอพื้นที่นี้ ตัวเองได้ไปตีกอล์ฟกับพ่อ และมีเพื่อนของพ่อต้องการที่ดิน ริมน้ำเจ้าพระยา ก็พยายามหาดูที่ดินให้ แต่ในใจก็ต้องการที่จะมีที่รับประทานอาหารริมน้ำ และส่วนตัวแม่ก็ชอบทำอาหารอยู่แล้ว จึงต้องการทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นสถานที่รับประทานอาหารหลังจากตีกอล์ฟเสร็จเพียงเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเป็นร้านอาหาร
แต่ด้วยเหตุผลที่คิดจะทำร้าน เนื่องมาจากเห็นจุดขายเรื่องบรรยากาศริมน้ำ และมีวัดไทยตรงข้ามกับร้าน จึงพัฒนาร้าน โดยเริ่มต้นจากโต๊ะเพียง 5 โต๊ะ เปิดมาเรื่อยๆ จนปี 2016 ก็ขยายมาเป็น 20 โต๊ะ หลังจากเริ่มมีกระแสในออนไลน์ก็เริ่มเปิดเพจ พร้อมกับได้รับรีวิวจากวงใน ทำให้ร้านได้การตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย จนได้รับรางวัลวงในอวอร์ด ยิ่งทำให้ลูกค้ารู้จักร้านมากขึ้น ด้วยบรรยากาศริมน้ำ การเดินทางสะดวกใกล้กรุงเทพฯ และเอกลักษณ์เรื่องรสชาติอาหารทำให้เป็นที่นิยม ปัจจุบันเปิดมาเป็นปีที่ 11 แล้ว
ซึ่งภายในร้านจะมีทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน มีทั้งร้านอาหารไทยที่ใช้ชื่อว่า แกรนด์เจ้าพระญา อย่างกุ้งแม่น้ำ เมนูยอดนิยมของทางร้าน และ The WINE Ayutthaya ที่เป็นอาหารยุโรป กลุ่มพาสต้า เสิร์ฟพร้อมไวน์ ที่มีให้เลือกหลากรสชาติหลายราคา พร้อมด้วยโซนใหม่รอเปิดตัว The Artisans Ayutthaya ที่พร้อมตอบโจทย์อาหารพื้นบ้านในอยุธยา หารับประทานได้ยากในตอนนี้
ผลกระทบที่ต้องเผชิญ และวิธีรับมือในช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดระลอกแรก อยุธยายังไม่ได้จัดเป็นพื้นที่สีแดง ประกอบกับคนไทยไม่สามารถเดินทางไปยังต่างประเทศได้ ไม่น่าเชื่อว่านักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น และอยุธยา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คนเดินทางมาท่องเที่ยวกัน จึงเป็นผลพลอยได้ว่ามีลูกค้าเข้ามาที่ร้านมากขึ้น
“แต่หลังจากที่มีประกาศออกมาว่า อยุธยา เริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นสิ่งที่ร้านต้องเจอเลยก็คือจำนวนลูกค้าที่หายไปในทันที ไม่ใช่การหายในแบบที่จำนวนค่อยๆ ลดลงไป แต่เป็นการที่ในอาทิตย์นี้ลูกค้ายังเยอะอยู่เลย แต่อีก 3 วันถัดมาลูกค้าหายหมด ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีลูกค้าเข้าร้านอยู่ที่ 400 - 500 คน แต่ช่วงนั้นลดเหลือ ไม่ถึง 100 คน”
อีกทั้งในเรื่องของการจัดการวัตถุดิบ ก็ต้องวางแผนใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนเป็นเตรียมการจัดซื้อแบบวันต่อวัน ซึ่งก่อนหน้านั้นจะจัดซื้อในวันจันทร์ใช้ยาวถึงวันศุกร์ และในวันพฤหัสบดีจะจัดซื้อสำหรับเสาร์-อาทิตย์ ส่วนการบริหารจัดการหลังบ้าน อย่างตู้แช่ก็จัดการให้เหลือใช้เพียงตู้เดียวเท่านั้น
สำหรับในส่วนของการจัดการเงินเดือนพนักงาน โดยปกติแล้ว บริษัท จ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือนและจะมีวันหยุดให้พนักงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ในช่วงที่ผ่านมาก็จะขอความร่วมมือพนักงานว่าขอจ่ายค่าจ้างเป็นรายวันแทน และหยุดไป 3 วันแทนเพื่อลดต้นทุนในส่วนนี้ก็ช่วยลดต้นทุนไปได้ถึงร้อยละ 30 จากพนักงานในการดูแลทั้งหมด 50 คน
ในช่วงนั้นทำธุรกิจก็ไม่ได้หวังในส่วนของกำไรแล้ว หวังเพียงแค่ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้ ในส่วนของสินเชื่อของบริษัทเอง ก็ยังมีมาตรการออกมาเพื่อช่วยเหลือ เช่นเดียวกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่มีมาตรการพักชำระหนี้ รวมไปถึงการลดยอดชำระอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงช่วงล็อกดาวน์ที่เห็นได้ชัด
ช่วงโควิดที่ผ่านมา เรียกได้ว่าสลับกัน เปิด-ปิด เป็นว่าเล่น ปิดไปประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็กินเวลาไปนานหลายเดือน และในช่วงเวลาเหล่านั้นที่ต้องปิดไปทางร้านก็ถือโอกาสในการรีโนเวทร้านใหม่ ทั้งในส่วนของระเบียงริมน้ำ เวทีนักดนตรีก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ในช่วงนั้น
“ช่วงที่ปิดไปนานมากๆ เราเปลี่ยนแปลงในส่วนของระบบการจัดการร้านให้แข็งแรงขึ้น ระบบจัดซื้อ การให้บริการ ระบบการทำงาน ให้พนักงานมาอบรม เพราะเราก็รู้ว่าในช่วงที่ปิดมันนาน เราก็คิดได้ว่ามันคงจะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ให้พนักงานพัฒนาความสามารถ จากที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็อบรมให้สามารถทำได้หลายๆ อย่าง”
รวมไปถึง เมื่อ 2 เดือนที่แล้วต้องการที่จะทำในส่วนของเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้นมา แต่ว่าเน้นคนในพื้นที่ ที่มีกำลังซื้อ เป็นอาหารยุโรป พาสต้าเส้นโฮมเมดเป็นต้น แต่พอจะเริ่มทำเดลิเวอรี่ ก็ปลดล็อกสามารถเปิดร้านได้พอดี พอหน้าร้านสามารถเปิดได้ปกติก็ไม่มีเวลามาเริ่มตรงนี้เหมือนเดิม
มองการไกล คิดถึงอนาคต
โครงการใหญ่ๆ ที่ต้องการทำคือการผลักดัน บริษัท ดิ อยุธยา กรุ๊ป (2009) จำกัด เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และถ้าหากไม่ได้ติดช่วงโควิด-19 อาจจะไปเปิดร้านที่ประเทศจีน เนื่องจากมีการวางแผนไปเปิดร้านในต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่มองไว้ก็จะเป็น ประเทศจีน รวมถึงประเทศอังกฤษก็มีผู้ที่จะร่วมลงทุนด้วยรออยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนในการทำธุรกิจโรงแรมภายในอีก 2 ปีข้างหน้า นี้อีกด้วย
สนใจติดต่อ ร้านอาหารริมน้ำ แกรนด์เจ้าพระญา อยุธยา
* * *คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด * * *