บาริสต้า เป็นอาชีพที่หนุ่มๆ สาวๆ หลายคนในยุคนี้ ใฝ่ฝัน ที่ต้องการจะทำอาชีพนี้ ทั่วโลกให้ความสำคัญกับอาชีพบาริสต้ามาก เพราะถ้ามีบาริสต้าเก่งๆ ช่วยทำให้ลูกค้าสนใจต้องการจะเข้ามาใช้บริการ แม้ว่า กาแฟแก้วนั้นจะราคาสูงไปถึงแก้วละหลักพันบาท หลายคนก็ยอมจ่ายและเดินทางไปชิมกาแฟฝีมือระดับแชมป์โลก กันสักครั้ง
รู้จัก บาริสต้าแชมป์ประเทศไทย ปี 2021
สำหรับประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจครั้งหนึ่ง มีบาริสต้าที่มีดีกรีระดับแชมป์โลกในประเทศไทย อย่าง “ต๋อง-อานนท์” หลายคนได้รู้จักเขาผ่านสื่อต่างๆกันมามากแล้ว แต่วันนี้ พามารู้จัก กับแชมป์บาริสต้า ระดับประเทศไทย ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก “พชร ทับทิมชัย” เจ้าของร้าน Lycka cafe จังหวัดกาญจนบุรี
“พชร ทับทิมชัย” เป็นแชมป์บาริสต้า จากเวทีการประกวด CP-Meiji Speed Coffee Art Championship 2021 การแข่งขันประกวดสุดยอดบาริสต้าประเทศไทย เพื่อปูทางไปสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องมีฝีมือทั้งด้านลวดลาย และ รสชาติ การประกวดครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อ ต้นเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการประกวดครั้งที่ 8 มีสุดยอดบาริสต้าเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 64 ราย
โดยการแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นการประชันกันใน 2 รูปแบบทั้ง ฝีมือการสร้างลวดลายโดยการเทลาเต้อาร์ตที่เป็นลวดลายของแชมป์โลก และการประชันฝีมือการทำเครื่องดื่มกาแฟนม ให้ได้รสชาติที่ถูกใจคณะกรรมการ ซึ่งมีดีกรีระดับประเทศ และระดับโลกมาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน ในครั้งนี้ โดยผู้ที่คว้าแชมป์ ในปีนี้ ได้แก่ “พชร ทับทิมชัย” เจ้าของสูตรกาแฟที่มีชื่อว่า Lycka ริคกะ ซึ่งเป็นกาแฟที่เกิดจากการผสม หรือ coffee blend คนไทยเรียกสั้นว่า การเบลนกาแฟ เป็นการนำเมล็ดกาแฟ 2 สายพันธุ์ขึ้นไปมาผสมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่าง อร่อย และซับซ้อนขึ้น และเพื่อสร้างกาแฟให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้านกาแฟนั้นๆ
Lycka café จุดเด่นกาแฟซิกเนเจอร์หาดื่มที่ไหนไม่ได้
สำหรับ Lycka เป็นการเบลนกาแฟ ระหว่างสายพันธุ์เอธิโอเปีย เคนย่า และ สายพันธุ์ไทย จนเกิดเป็นสูตรกาแฟเฉพาะของ “พชร” และเป็นที่มาของชื่อร้าน Lycka café ซึ่งเป็นร้านกาแฟเล็กตั้งอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ลูกค้าหลายคนเดินทางเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ก็มักจะแวะมาชิมกาแฟ Lycka ซึ่งเป็นกาแฟร้อนที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ในราคาแก้วละ 160 บาท
“พชร” เล่าว่า ทาง Lycka café เป็นร้านคาเฟ่ที่ให้ความสำคัญกับรสชาติของกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ดังนั้น กาแฟขายที่ร้านรายได้กว่า 60% มาจากกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ โดยปัจจุบันกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ มีทั้งกาแฟที่ผสม หรือ เบลนขึ้นมาใหม่ และ กาแฟดั้งเดิมที่ทางร้านเราคัดสายพันธุ์จากต่างประเทศมาผ่านกระบวนการคั่วด้วยเครื่องคั่วชนิดพิเศษของทางร้าน ซึ่งกาแฟที่ทางร้านคัดเลือกเข้ามาโดยเฉพาะ เช่น กาแฟเอธิโอเปีย โกเตมารา โคลัมเบีย บราซิล หรือ กาแฟสายพันธุ์ดีๆ จากประเทศไทย ฯลฯ
โดยกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ถือว่าเป็นจุดขายที่ลูกค้าจะหาดื่มจากร้านที่ไหนไม่ได้ ดังนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติแบบนี้ โดยทางร้านจะเสิร์ฟในรูปแบบของกาแฟร้อนเท่านั้น เพราะการเติมน้ำแข็งลงไปทำให้เสียรสชาติกาแฟที่แท้จริง การดื่มกาแฟซิกเนเจอร์ เขาจะนิยมเสิร์ฟเป็นช๊อต กาแฟหนึ่งช๊อต มีปริมาณ 8-10 กรัม เมื่อสกัดออกมาจะได้น้ำกาแฟ 30 ml ภายในระยะเวลา 20-30 วินาที โดยจะมีครีมฟองนมด้านบนกำลังดีไม่หนาหรือบางเกินไป ทางLycka café ขายในราคาช๊อตละ 150-160 บาท
“พชร” บอกว่า ที่ผ่านมาลูกค้าส่วนใหญ่ของเขาจะเป็นคอกาแฟ ต้องการดื่มกาแฟที่รสชาติดี ซึ่งถ้าเรามีกาแฟรสชาติที่ดีและถูกใจ เขาก็จะกลับมาอีกในครั้งต่อๆไป ซึ่งนั่น คือ สิ่งที่เราต้องการ ซึ่งทำให้เราต้องพัฒนาสูตรกาแฟ หรือ เบลนกาแฟ รสชาติใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเราจะพัฒนาสูตรไหนออกมา ปัจจุบัน กาแฟในสูตร Lycka ยังคงเป็นสูตรที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราชื่นชอบ
สำหรับประวัติของ “พชร” ถือว่าเป็นหนึ่งในบาริสต้า สายประกวดที่ผ่านเวทีการประกวดเวทีใหญ่มาหลายครั้ง รวมถึงการเดินทางไปประกวดแข่งขันบาริสต้าในต่างประเทศ แต่การประกวดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้คว้าแชมป์ในรายการแข่งขันระดับประเทศ ความฝันของ “พชร” คือ เขาต้องการเป็นแชมป์ระดับโลก เช่นเดียวกับรุ่นพี่ คือ “ต๋อง” “อานนท์” หนุ่มหล่อที่มีดีกรีแชมป์ การประกวด World LatteArt Championship ในปี 2017 เจ้าของร้านกาแฟชื่อดัง Ristr8to ย่านนิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบาริสต้า ทุกคนก็มีความฝันที่จะก้าวไปสู่เวทีระดับโลกเช่นเดียวกับรุ่นพี่ แต่สิ่งแรกต้องแจ้งเกิดในเวทีระดับประเทศให้ได้ก่อน เพราะการได้เป็นแชมป์ระดับโลก นอกจากเกียรติยศและชื่อเสียงที่จะได้แล้ว ผลพ่วงที่ตามมานั่นคือ การสร้างธุรกิจกาแฟแบบยั่งยืน เหมือนดังเช่น “ต๋อง อานนท์”ในวันนี้ ที่คอกาแฟถ้ามีโอกาสเดินทางไปเชียงใหม่ ก็ต้องแวะไปชิมกาแฟที่ร้านของเค้า แม้จะขายในราคาแก้วละหลายร้อยบาท ไปจนถึงพันบาททุกคนก็ยินดีจ่าย
“พชร” เล่าว่า กว่าเขาจะเดินมาถึงจุดนี้ เขาใช้เวลากับการฝึกฝีมือมาเยอะมาก เพราะการเป็นบาริสต้า ไม่ใช่ทุกคน หรือ ใครจะมาเป็นก็ได้ ทุกคนต้องผ่านการฝึกฝน ต้องผ่านการเรียนรู้ แต่โชคดีที่วันนี้ เรามีช่องทางออนไลน์ ทำให้ทุกคนสามารถเรียนรู้จากช่องทางออนไลน์ได้ ซึ่งตนเองฝึกฝน และเรียนรู้จากช่องทางออนไลน์ เป็นหลัก การมีร้านกาแฟเป็นของเราเองช่วยทำให้เราได้ฝึกฝนฝีมือ และทำให้เรารู้ฟีดแบคของคนอื่นๆ หรือ ลูกค้าด้วยว่าชื่นชอบ ฝีมือการชงกาแฟ หรือ แม้แต่ลวดลายการเทลาเต้อาร์ตของเรามากน้อยขนาดไหน การได้แชมป์ครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้ลูกค้าได้เห็น และมั่นใจกับฝีมือการชงกาแฟของเรามากขึ้น ช่วยสร้างการเติบโตในธุรกิจร้านกาแฟของเรา และการผลักดันให้เราก้าวขึ้นไปสู่เวทีระดับนานาชาติได้ง่ายขึ้น
สานฝันบาริสต้าไทย ผ่านโครงการ CP-Meiji for Barista
นางสาวชาลินี พูนลาภมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และความยั่งยืนของซีพี-เมจิ กล่าวถึงการจัดการแข่งขันประกวด CP-Meiji Speed Coffee Art Championship 2021 ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 ภายใต้ โครงการ CP-Meiji for Barista ซึ่งริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 ได้ทำหน้าที่สร้าง ส่งเสริม และพัฒนาบาริสต้าของไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง บาริสต้าที่ผ่านเวทีแข่งขันและแคมป์ของซีพี-เมจิ ได้ก้าวไปสู่การเป็นแชมป์ระดับประเทศและระดับนานาชาติ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในเวทีกาแฟสากล และช่วยกันแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับบาริสต้ารุ่นใหม่ๆ ซีพี-เมจิจะไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อพัฒนาบาริสต้าและร่วมขับเคลื่อนธุรกิจกาแฟของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืนต่อไป
สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ได้สุดยอดบาริสต้า 4 คนจากผู้เข้าแข่งขัน 128 คนทั่วประเทศ คว้ารางวัลรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท เริ่มต้นการแข่งขันจากรอบออนไลน์ ที่ผู้เข้าแข่งขันสามารถทำการแข่งแบบเรียลไทม์ จากร้านกาแฟของตัวเองที่ใดก็ได้ในประเทศ คัดเหลือบาริสต้า 64 คนที่เข้าสู่รอบออฟไลน์ และประชันฝีมือกันแบบแพ้คัดออก จนได้บาริสต้าที่ดีที่สุด 4 คนสุดท้าย มาโชว์ฝีมือการเทลาเต้อาร์ตลายของแชมป์โลก ลายดีไซเนอร์ที่คิดค้นเองพร้อมเทคนิค etching และการทำเครื่องดื่มกาแฟนม เพื่อให้กรรมการดีกรีระดับประเทศและระดับโลกเป็นผู้ตัดสิน และผู้ที่คว้าตำแหน่งแชมป์ในปีนี้คือ นายพชร ทับทิมชัย รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 , นายสิทธิชัย รุจากุลเฉลิม รองชนะเลิศอันดับ 1, นาย สิทธิพงษ์ ยงศิริ รองชนะเลิศอันดับ 2 และ นายวสุวิท ศรีคัมโพธิ์ รองชนะเลิศอันดับ 3
ติดต่อ โทร.08-3557-6496
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager