xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) หนีโควิดมาเลี้ยงไก่! สาวออฟฟิศสุดน่ารักใช้เวลาว่างทำ “ฟาร์มไก่ไข่-เลี้ยงกบ” สร้างรายได้เสริมช่วง WFH

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





ทำความรู้จักกับ “มด-ปุญญิศา อั่วทู” สาวพนักงานออฟฟิศสุดน่ารักที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกงานเปิดฟาร์มไก่ไข่และเลี้ยงกบเป็นอาชีพเสริมและสร้างรายได้ในช่วงเวิร์คฟรอมโฮม โดยเริ่มจากการอยากรู้อยากลองว่าการเลี้ยงไก่นั้นมีขั้นตอนและวิธีดูแลอย่างไรให้ได้ผลผลิตที่ดี พร้อมทั้งเลี้ยงไก่อย่างไรให้เป็นฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดีที่มีความสุขทั้งคนและไก่


นางสาวปุญญิศา อั่วทู เจ้าของฟาร์มไก่ไข่ เล่าว่า จุดเริ่มต้นการทำฟาร์มไก่ไข่และกบนั้น เริ่มต้นมาจากการที่ต้องเวิร์คฟรอมโฮมทำงานที่บ้านในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนัก เพื่อลดอัตราการติดเชื้อลงได้ ในช่วงที่ตนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านตรงกับช่วงที่มีเคอร์ฟิวทำให้ไปไหนมาไหนค่อนข้างไม่สะดวก จำเป็นต้องอยู่บ้านนานกว่าปกติ ทำให้ตนเกิดแนวคิดที่จะหาอาชีพเสริมและรายได้เพิ่มเติมที่ไม่กระทบกับงานประจำและอาชีพเสริมที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือ การเลี้ยงกบและทำฟาร์มไก่ไข่ในพื้นที่บริเวณสวนหลังบ้านของตัวเองประมาณ 2 งาน โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันประมาณเกือบ 1 ปี ซึ่งตนได้เลี้ยงกบมาก่อนทำฟาร์มไก่ตั้งแต่ปี 2562 แต่ฟาร์มไก่เพิ่งเริ่มเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง


ทั้งนี้แรงบันดาลใจในการทำฟาร์มไก่นั้น เจ้าของฟาร์มให้ข้อมูลว่า ตนได้ไปซื้อไก่ที่ขายตามตลาดอยู่บ่อยครั้งและมีความคิดผุดขึ้นมาว่าในช่วงโควิด-19 นั้นไข่ไก่ค่อนข้างขายดี บวกกับตัวเองเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว เจ้าของฟาร์มไก่ยังเล่าให้ฟังอีกว่าตั้งแต่เล็กจนโตตนยังไม่เคยเห็นกระบวนการเลี้ยงไก่ว่าเป็นอย่างไรกว่าจะออกมาเป็นไข่ไก่ 1 ฟองต้องมีขั้นตอนการเลี้ยงอย่างไรบ้าง จึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงไก่ไข่ เพราะคิดว่ายังไงก็ขายได้ แต่ถึงขายไม่ได้ก็เอาไว้กินในครอบครัวได้ ปัจจุบันฟาร์มไก่ไข่ของตนนั้นเป็นระบบเปิด เลี้ยงเชิงไก่ไข่อารมณ์ดี และมีไก่สาวทั้งหมด 120 ตัว พันธุ์ไก่ไข่ไฮบริด


นอกจากนี้ฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดีนั้นไม่มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ แต่จะไปซื้อไก่สาวมาพร้อมกันทั้งหมด 120 ตัว และนำมาเลี้ยงดูแลจนให้ผลผลิตได้ เหตุผลที่เลือกเป็นไก่สาวแทนที่จะเริ่มต้นเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กเพราะว่าการเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กนั้น กว่าจะโตและสามารถให้ผลผลิตได้ค่อนข้างมีต้นทุนที่สูง บวกกับเจ้าของฟาร์มตั้งใจจะให้เป็นอาชีพเสริม จึงเลือกเอาไก่ไข่ในช่วงที่เป็นไก่สาวเพื่อที่จะได้ผลผลิตค่อนข้างเร็วและคืนทุนได้ทันท่วงที


ไก่ไข่นั้นไม่จำเป็นต้องผสมพันธุ์กับไก่เพศผู้ เนื่องจากสามารถออกไข่ได้ด้วยตัวเอง โดยจะออกไข่ได้ทุกวันและไข่ก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามอายุของไก่ไข่ และไม่สามารถเพาะเป็นตัวได้ ซึ่งไก่สาวจะมีอายุประมาณ 20 สัปดาห์จึงจะสามารถออกไข่ได้ นอกจากนี้ระยะการฟักไข่ของไก่ไข่แต่ละตัวนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ต่อการฟักไข่ 1 ครั้ง และวนเวียนกันไปจนครบ 120 ตัว แต่จะฟักไข่ไม่พร้อมกัน กล่าวคือผลัดกันฟักไข่นั่นเอง


ทั้งนี้เทคนิคและกลยุทธ์ในการทำฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดีนั้นเจ้าของฟาร์มให้ข้อมูลว่า ต้องเอาใจใส่ดูแลไก่เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สถานที่ต่างๆ เพื่อให้ไก่ได้มีพื้นที่สำหรับเดินเล่น โดยจะใช้สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่ดังกล่าว สำหรับอาหารที่นอกจากอาหารหลักแล้วนั้น ยังมีอาหารเสริมอย่างสมุนไพรต่างๆ ที่ไก่ไข่สามารถกินได้ เจ้าของฟาร์มก็จะนำมาบำรุงไก่ของตนให้มีสุขภาพดี และตั้งแต่เลี้ยงไก่มาก็ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกวัน จากเดิมในวันแรกให้ผลผลิตแค่ 1 ฟอง วันต่อมาเพิ่มเป็น 2 หรือ 3 ฟองต่อเนื่องใน 1 ตัว ซึ่งทำให้ใน 1 วันสามารถเก็บไข่ได้ 1-2 แผงจากทั้งหมด 120 ตัว


สำหรับผลตอบรับจากลูกค้านั้นดีเกินคาด มีสั่งจองตั้งแต่ไก่ยังมาไม่ถึงฟาร์ม และเป็นลูกค้าที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันกับเจ้าของฟาร์ม เช่น แม่ค้าที่ต้องการไข่สดเพื่อนำไปทำขนมขาย ร้านค้าต่างๆ ซึ่งจะขายในราคาที่ถูกกว่าราคาไข่ไก่ทั่วไปประมาณ 10-15 บาทต่อ 1 แผง เพราะว่าตนต้องการส่งต่อผลผลิตดีๆ สู่ผู้บริโภคภายในชุมชนโดยไม่ได้เน้นกำไรมากนัก หรือเรียกได้ว่าเป็นความสุขเล็กๆ ของตัวเจ้าของฟาร์มเอง นอกจากนี้ในช่วงแรกไข่ไก่จะมีขนาดเบอร์ 5-6 แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเบอร์ 4,3 และเบอร์ 2 เป็นต้น แต่ตอนนี้ทางฟาร์มยังขายแบบคละเบอร์วนราคาแผงละ 80 บาท


ในการดูแลไก่ไข่นั้นไม่กระทบต่องานประจำที่ทำ โดยเจ้าของฟาร์มจะมีเวลา 3 ช่วง คือ เช้า เที่ยงและเย็น ในการให้น้ำ ให้อาหาร พาออกไปเดินเล่นในช่วงพักเที่ยง และดูแลเรื่องต่างๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 30 นาที ในช่วงวันธรรมดา แต่ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์นั้นจะใช้เวลาเกือบทั้งวันในการดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำความสะอาดเล้าไก่ และเรื่องต่างๆ เป็นต้น


นอกจากนี้ เทคนิคการดูแลเมื่อไก่มีการป่วยหรือไม่สบายนั้น เจ้าของฟาร์มไก่ไข่ให้ข้อมูลว่า “เป็นเรื่องปกติที่สัตว์จะป่วย ซึ่งเมื่อไก่มีอาการซึม ไม่ร่าเริง ไม่กินอาหาร แยกตัวออกมาอยู่ตัวเดียวจากฝูง แสดงว่าไก่ตัวนั้นอาจจะป่วย เมื่อรู้ดังนั้นตนก็จะจับไก่ตัวที่ป่วยเอามารักษาด้วยการกินสมุนไพรหรือยาต่างๆ ที่ช่วยอาการป่วยได้ ซึ่งตั้งแต่เลี้ยงมาเกือบปี 120 ตัว ยังไม่มีตัวไหนตายเลยค่ะ แต่จะเจอป่วยอยู่ประมาณ 3-4 ตัว และถ้าไก่มีอาการเครียด นอนหลับไม่สนิท อาหารการกินไม่ดี การดูแลไม่ดี พื้นที่อาศัยไม่สะอาดก็จะส่งผลต่อการฟักไข่ได้ ถ้าหากไก่มีสุขภาพที่ดีก็จะได้ผลิตผลิตที่เยอะตามมา ซึ่งหนูจะเปิดเพลงให้น้องฟังอยู่ตลอดค่ะเพื่อให้น้องอารมณ์ดี”


ในส่วนของยอดขายในแต่ละวันถ้าหักลบต้นทุนไปแล้วจะสามารถได้กำไรจากการขายไข่ไก่อยู่ประมาณ 100 กว่าบาท 1 เดือนก็ประมาณ 3,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่ไม่ได้สูงมาก แต่เจ้าของฟาร์มเผยว่า “ถึงแม้จะเป็นกำไรที่ไม่ได้สูงแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เพราะความตั้งใจคือทำเป็นอาชีพเสริม กำไรได้มาก็นำมาจุนเจือเรื่องต่างๆ ได้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ มันก็สามารถแบ่งเบาภาระลงไปได้ รวมถึงไม่ได้เกินแรงที่เราจะทำได้ เพราะเราหาเวลาว่างมาทำและเป็นประสบการณ์จากการเลี้ยงไก่ เพราะตอนแรกเราไม่รู้ว่าจะต้องเลี้ยงยังไง และมีคนบอกว่าต้นทุนสูงนะแต่กำไรน้อย แต่เราคิดว่าอย่างน้อยก็ได้ลอง ทำให้ได้รู้ขั้นตอนการเลี้ยงดู ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”


สำหรับความยากง่ายในการทำงานประจำและการทำฟาร์มไก่นั้น ความยากง่ายแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ความเอาใจใส่ ในงานที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งหน้าที่ของทั้งสองงานแน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่การเอาใจใส่นั้นเป็นสิ่งที่ตนทำอยู่เป็นประจำและทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งานประจำและฟาร์มไก่ออกมาดีในทุกๆ วัน


นอกจากนี้สำหรับการเลี้ยงกบนั้น ตนเลี้ยงมาหลายรุ่นแล้ว โดยเริ่มเลี้ยงในบ่อที่มีผ้ายางรองเอาไว้ แต่ปัญหาคือต้องเปลี่ยนน้ำค่อนข้างบ่อย ทำให้ตนเหนื่อยจึงเปลี่ยนมาเป็นแบบบ่อดินและมีระบบน้ำหยด เลี้ยงแบบธรรมชาติ สามารถกระโดดขึ้นมาจากน้ำได้ ปลูกพืชและเลี้ยงปลาเพื่อดูดซึมสิ่งสกปรกจากมูลของกบได้ การเลี้ยงแบบธรรมชาติจะทำให้สุขภาพร่างกายของกบแข็งแรง และทำให้เนื้อกบอร่อย ซึ่งปัจจุบันมีกบทั้งหมดประมาณ 800 ตัว จำนวน 1 บ่อ ขายตัวละ 20 บาท กิโลกรัมละ 80 บาท ประมาณ 3-4 ตัว เลี้ยงประมาณ 3 เดือนก็สามารถนำไปขายได้ ซึ่งทางฟาร์มจะขายในลักษณะของการขายปลีกให้กับร้านค้า ร้านอาหาร ชาวบ้านในชุมชน


อย่างไรก็ตามกบและไก่ไข่นั้น เจ้าของฟาร์มไปรับซื้อมาจากต่างที่ สำหรับกบไปรับซื้อมาจากแหล่งขายกบในพื้นที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ส่วนไก่ไข่นั้นจะสั่งซื้อจากจังหวัดชลบุรี และในอนาคตทางฟาร์มได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถบรรจุไข่และกบเพื่อส่งไปยังต่างจังหวัด เพราะมีลูกค้าสอบถามเข้ามาจำนวนมาก รวมถึงพัฒนาแพคเกจจิ้งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อให้เกิดการจดจำอีกด้วย

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : Punyisa Aowto
TikTok : Punyisa aowto















* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น