“อ้าวเฮ้ย กุ้งเต้น” ริมหาดวอนนภา บางแสน เป็นที่ถูกปาก ถูกใจกันทั้งหาด เรียกได้ว่าใครมาเที่ยวแถวนี้แล้วไม่ได้มากินกุ้งเต้นคือมาไม่ถึง! จากหนุ่มวิศวะฯ ในโรงงานตัดสินใจลาออกมาขายของ เปิดร้านกุ้งเต้น จากสูตรที่ชอบกินตอนเด็ก ผลตอบรับดีเกินคาดเคยขายได้มากสุดกำไรเกือบหลักหมื่นต่อวัน
นายปรัชญา ควรสุข หรือแคมป์ เจ้าของร้าน “อ้าวเฮ้ย กุ้งเต้น” เล่าว่า ก่อนที่จะมาเปิดร้าน ได้ทำงานอยู่ในโรงงาน ตำแหน่ง วิศวกรรมอุตสาหการ หลังจากที่น้องชายเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เสียชีวิต ได้ตัดสินใจลาออกเพื่อมาสานต่อร้านผลไม้ของน้องชายที่เคยทำขายมาก่อน ขายได้สักพักรายได้ที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอ คิดไว้หลายอย่างว่าจะขายอะไรอีกอย่างเพื่อเสริมรายได้ จึงคิดได้ว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบเมนู “กุ้งเต้น ใส่ปลาร้า" ซึ่งเป็นเมนูที่คุ้นเคยและชื่นชอบเป็นอย่างมากต้นตำรับมาจากจังหวัดสุรินทร์บ้านเกิด
สำหรับสาเหตุที่ต้องลาออกจากตำแหน่ง วิศวกรรมอุตสาหการ เกิดขึ้นมาจากการที่ฉุกคิดได้ว่าช่วงที่น้องชายยังอยู่ตัวเองยังไม่เคยได้ทำอะไรให้น้องชายเลย จึงได้บอกกับตัวเองว่าชีวิตตอนนี้ถ้าต้องการที่จะทำอะไรให้ลงมือทำทันที หากปล่อยเวลาไปจะมาเสียใจทีหลังไม่ได้ ช่วงที่เริ่มต้นก็ขายผลไม้ที่น้องชายเคยขายมาก่อน ก็พอได้ความรู้มาจากน้องบ้างว่า รายได้เป็นอย่างไร ต้องเตรียมของเท่าไหร่ จึงไม่ต้องมาเรียนรู้มาก
ทั้งนี้ร้าน “อ้าวเฮ้ย กุ้งเต้น” เปิดมาได้ 2 ปีแล้ว ผลตอบรับจากลูกค้าในช่วงแรกยังไม่ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเท่าไหร่ อาจจะเพราะยังใหม่มากๆ สำหรับแถวนั้น ในเรื่องของรสชาติก็อาจจะมีส่วน เพราะบริเวณใกล้เคียงไม่ค่อยมีร้านกุ้งเต้นใส่ปลาร้า ส่วนมากจะปรุงแบบธรรมดาแต่ทางร้าน “อ้าวเฮ้ย กุ้งเต้น” ได้เพิ่มความเค็มและนัวปลาร้าเข้าไปอีก เพื่อให้มีความกลมกล่อมมากขึ้นตามสูตรของตัวเอง
“บางวันก็ขายกุ้งหมดบ้าง ไม่หมดบ้าง กุ้งก็เหลือเต็ม แต่ก็ยังดีที่ว่าร้านขายผลไม้ก็ยังอยู่ กุ้งที่เหลือก็เอาไปแปรรูปเป็นกุ้งแห้ง ทำเองจากวิธีทำที่เรียนรู้จากช่องทางออนไลน์ ทำไว้สำหรับปรุงน้ำยำ น้ำจิ้มผลไม้ต่อไป บางส่วนก็ส่งร้านทำกะปิก็มี นอกจากนี้ เมนูกุ้งเต้น เป็นเมนูที่อร่อยติดปากลูกค้าแล้ว ทางร้านยังเพิ่มเมนูหอยนาเข้ามาให้ลูกค้าได้ลอง จนกลายเป็นเมนูที่ลูกค้าถูกปากถูกใจกันเป็นแถว เรียกได้ว่าหากใครมาแล้วไม่ได้ลองเมนูของทางร้านถือว่ามาไม่ถึงหาดวอนครับ”
ในเรื่องของการลงทุนร้านถ้าไม่รวมในส่วนของ มอเตอร์ไซต์ จะอยู่ประมาณ 50,000 บาท ส่วนการลงทุนเปิดหน้าร้านประจำในตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิด เนื่องจากยังชอบความสะดวกสบายในการเตรียมร้าน และเคลื่อนย้ายหน้าร้านอยู่ อย่างที่ตัวเองทำอยู่ตอนนี้คือ เตรียมของที่บ้านเสร็จแล้วก็สามารถขับรถออกมาพร้อมขายได้เลย ลูกค้าส่วนใหญ่ที่รู้จักร้านก็จะเป็นปากต่อปาก ลูกค้าที่มาลองชิมก็จะบอกต่อกันไปเรื่อยๆ บางรายก็ถ่ายวีดีโอลงใน Tiktok ยอดคนดูก็มากขึ้น ลูกค้าก็ตามมามากขึ้น
วัตถุดิบอย่างกุ้งฝอยที่รับมาก็จะรับมาจากหลายๆ แหล่งในออนไลน์ เป็นวัตถุดิบที่เรียกได้ว่าหายาก จำนวนกุ้งฝอยที่รับมาขายต่อวันจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 กิโลกรัม ราคากล่องละ 60 และ 100 บาท วันธรรมดารายได้กำไรจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 ต่อวัน ช่วงเสาร์-อาทิตย์จะขายดีที่สุด กำไรจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 เคยขายได้มากสุดเกือบหลักหมื่นก็มี
“รสชาติของกุ้งเต้น ผมจะปรุงให้รสชาติเป็นแบบเดิมที่เคยกิน บ้านๆ ใส่ปลาร้า เรียกได้ว่าครบรสนัวปลาร้า เปรี้ยว เผ็ด ซึ่งความเผ็ดลูกค้าสามารถเลือกได้หลายระดับแล้วแต่ความชอบ ผสมกับความหอมของข้าวคั่ว ปิดด้วยความหวานของตัวกุ้งเต้น มันก็จะลงตัวกันพอดี”
อีกหนึ่งของความยากในการเปิดร้านขายกุ้งเต้นคือ การควบคุมกุ้งให้สด และอย่างที่ทุกคนรู้ว่าอายุของกุ้งฝอยจะสั้นหากดูแลไม่ดี ตัวเองก็ต้องควบคุมทั้งในเรื่องของน้ำ ค่า pH ออกซิเจนในน้ำของกุ้ง บางทีหลังจากที่ได้กุ้งมาจากพ่อค้าคนกลางแล้ว กุ้งที่เดินทางขนส่งมาก็เหนื่อย ล้าไปแล้ว เวลาที่มาพักไว้กุ้งก็จะตายไปเยอะมาก ในเรื่องนี้จึงถือเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการทำร้านเลยก็ว่าได้
สนใจติดต่อ เฟซบุ๊ก : อ้าวเฮ้ย กุ้งเต้น
* * *คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด * * *