เพราะว่าตกงานจากโควิด-19 เลยทำให้ต้องนำความรู้ที่เรียนมาต่อยอดเพื่อหารายได้ “Pen Loo” โดนัทสไตล์ญี่ปุ่นที่มาแรงในตอนนี้ จองทุกแพลตฟอร์มออนไลน์และโด่งดังในโลกโซเชียล การันตีความปังด้วยยอดขายวันละ 500 กล่อง ฟันรายได้ 30,000 บาทต่อวัน
นางสาวกมลทิพย์ วงษ์แก้ว เจ้าของธุรกิจโดนัทสไตล์ญี่ปุ่น แบรนด์ Pen Loo เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการเปิดร้านขายโดนัทนั้นเริ่มมาจากในช่วงที่เรียนจบมาใหม่ๆ ตนก็ได้ทำงานในแผนกต้อนรับ (Reception) ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งทำงานดังกล่าวได้ประมาณ 8 เดือน เจอพิษโควิด-19 จึงทำให้โรงแรมต้องลดจำนวนพนักงานลง และตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ต่อมาตนก็ได้ลองทำอาชีพใหม่ๆ เช่น ไลฟ์สดขายเสื้อผ้ากับเพื่อน รับน้ำส้มมาขายตามคอนโด รวมถึงสมัครงานกับบริษัทต่างๆ แต่ก็ยังคงเจอกับปัญหาเดิมซ้ำๆ คือการลดพนักงาน เพราะอยู่ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 กำลังแย่ หลังจากนั้นตนก็คิดหาหนทางเพื่อที่จะมีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้ตนเองแบบมั่นคงและมีรายได้แน่นอน
เดิมทีตนเป็นคนที่ชื่นชอบการดูคอนเท็นต์เกี่ยวกับขนมและอาหารต่างๆ อยู่มาวันหนึ่งตนป่วยไม่สบายและได้ดูวิดีโอบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Youtube และได้เลื่อนไปเจอคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับโดนัท แต่เป็นโดนัทสไตล์อเมริกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วตนเป็นคนไม่ค่อยถนัดการผลิตที่ต้องใช้ฝีมือมากๆ เมื่อเห็นวิดีโอที่มีโดนัทตนก็ตัดสินใจที่จะลองทำโดนัทขาย ซึ่งความคิดในตอนนั้นคิดว่าโดนัทเป็นขนมที่น่าจะขายได้ ซึ่งจะต้องเป็นโดนัทที่ไม่ค่อยมีวางขายในประเทศไทย คำตอบจึงไปจบอยู่ที่โดนัทสไตล์ญี่ปุ่นและน่าจะตอบโจทย์มากที่สุด หลังจากนั้นตนก็ตัดสินใจทำโดนัทสไตล์ญี่ปุ่น โดยมีชื่อแบรนด์ว่า “เป็นรูโดนัท” (Pen Loo) ปัจจุบันเปิดร้านมาได้ประมาณ 8 เดือน
ส่วนตัวแล้วตนได้เรียนจบหลักสูตรภัตตาคารมาจึงทำให้มีความรู้เรื่องการทำอาหารและขนมได้เป็นอย่างดี บวกกับการศึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ และนำมาปรับให้เข้ากับสูตรการทำโดนัทของที่ร้าน ซึ่งจุดเด่นและความพิเศษของตัวโดนัทสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะอยู่ตรงที่การทอดสดใหม่ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากโดนัทสไตล์อเมริกัน เนื้อสัมผัสจะนุ่มมากกว่า รวมถึงถึงมีน้ำตาลไอซ์ซิ่งที่เป็นโฮมเมด โรยหน้าโดนัทเพิ่มความอร่อยอย่างเห็นได้ชัด น้ำตาลไอซ์ซิ่งโฮมเมดของทางร้านนั้นถูกคิดค้นรสชาติและปรับสูตรเองทั้งหมด เรียกได้ว่าไม่ซ้ำคนอื่นอย่างแน่นอน ซึ่งมีทั้งหมด 4 รสชาติ ได้แก่ น้ำตาลไอซ์ซิ่ง ช็อกโกแลต ชาเขียวมัจฉะและมันม่วง โดยทั้ง 4 รสชาตินี้ล้วนเป็นรสชาติที่เป็นพื้นฐานรสชาติที่ลูกค้าจะต้องเลือกซื้ออย่างแน่นอน
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าของทางร้านนั้นมีทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุก็มีเข้ามาสนับสนุนโดนัทของทางร้าน และในส่วนของการทำการตลาดนั้นทางร้านให้ข้อมูลว่า โซเชียล เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลตอบรับที่ดีนั้นมาจากลูกค้าที่มองเห็นสินค้าของทางร้านผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งทางร้านมีเทคนิคการโปรโมทสินค้า คือ การนำเสนอโปรดักส์ให้น่าสนใจ สวยงาม โดยทางร้านจะถ่ายรูปโดนัทให้ดูแล้วน่ากิน ใช้กล้องสดและไม่ปรับแต่งสีมากจนเกินไป เพราะเน้นเรื่องความสมจริงมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงความตั้งใจนำเสนอสินค้าที่สมจริงมากที่สุด
ปัจจุบันโดนัทของทางร้านจะมีราคาเดียวคือกล่องละ 60 บาท ได้ทั้งหมด 5 ชิ้นและสามารถคละรสชาติได้ ซึ่งส่วนมากลูกค้าจะชื่นชอบโดนัทรสชาติน้ำตาลไอซ์ซิ่งและรสช็อกโกแลตมากที่สุดจากทั้งหมด 4 รสชาติ นอกจากนี้โดนัทที่ขายตามท้องตลาดมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งทอดและอบ และโดยส่วนมากจะใช้น้ำมันทอด แต่โดนัทของทางร้านจะใช้เนยในการทอดและจะทำให้โดนัทไม่อมน้ำมัน และมีราคาแพงกว่าน้ำมันในท้องตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งเนยของทางร้านนั้นจะไม่มีกลิ่นหืนที่ไปรบกวนความหอมของตัวแป้งโดนัท
ทั้งนี้ทางร้านเคยขายโดนัทได้มากสุดอยู่ที่ 500 กล่องภายใน 1 วัน รวมออเดอร์รับหิ้วจากลูกค้า 200 กล่อง และหน้าร้าน 300 กล่อง ซึ่งทางร้านจะเปิดขายทุกวันยกเว้นวันอังคาร และในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์จะสร้างยอดขายได้มากกว่าวันปกติ เบ็ดเสร็จแล้วได้ประมาณวันละเกือบ 500 กล่อง ในขณะที่วันธรรมดาได้ประมาณ 200-300 กล่อง ปัจจุบันสามารถสั่งซื้อและทางร้านจัดส่งได้ทั่วประเทศไทย และมีหน้าร้านรวมถึงมีเดลิเวอรี่อย่าง Line Man ในพื้นที่บางแสน จังหวัดชลบุรี
หลังจากที่เปิดร้านมาได้ประมาณ 8 เดือน ผลตอบรับดีเกินคาด เรียกได้ว่าเกือบทำไม่ทันเพราะออเดอร์มีเข้ามาตลอด เวลาทางร้านโพสต์โปรโมทสินค้าลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ก็จะมีลูกค้าเข้ามาให้ความสนใจและมีฟีดแบกที่ดีกลับมาตลอดและต่อเนื่อง นอกจากนี้ความพิเศษที่ดึงดูดลูกค้าได้อีกหนึ่งช่องทาง คือ แป้งโดนัทของทางร้านจะถูกทำขึ้นมาใหม่ทุกวัน ไม่มีการค้างคืน สดใหม่วันต่อวัน เพื่อให้ได้โดนัทที่ใหม่อยู่ตลอดเมื่อถึงมือลูกค้า
สำหรับลูกค้าของทางร้านนั้น 90% จะเป็นนักท่องเที่ยวและอีก 10% จะเป็นลูกค้าในชุมชน รวมถึงยังเป็นโดนัทสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในบางแสนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์จำนวนมากแต่ทางร้านยังไม่พร้อมให้บริการในส่วนนี้ เนื่องจากการขายโดนัทมีขั้นตอนค่อนข้างมาก อาจจะเป็นปัญหาได้ นอกจากนี้ตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศและให้ประชาชนสามารถเดินทางสัญจรไปมาแต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยนั้น เมื่อประชาชนสามารถเดินทางได้ ลูกค้าของทางร้านก็เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเปิดแฟรนไชส์หรือขยายสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งทางร้านได้มองพื้นที่ ที่เป็นหัวเมืองต่างๆ เช่นเดียวกับที่บางแสน ชลบุรี รวมถึงมีการวางแผนต่อยอดโดนัทให้เป็นรูปแบบของการมีดิปซอส เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Penloo Donut Bangsaen-โดนัทสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกบางแสน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *