xs
xsm
sm
md
lg

“บุญเติม” ส่งไม้ต่อ “เต่าบิน” ตู้กดกาแฟสดอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ฝีมือคนไทย ยอดขายสุดปัง 200 แก้วต่อ 1 ตู้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





“เต่าบิน” ต่อยอดมาจากบุญเติมที่หลายๆ คนรู้จักในนามของตู้เติมเงินบุญเติม และได้พัฒนามาเป็นตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง จากฝีมือคนไทยที่ทดลองและคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน เน้นความสะอาดเป็นหลัก รสชาติอร่อยและราคาจับต้องได้ ปัจจุบันเปิดมาได้ 2 ปี สถิติยอดขายสูงสุด 200 กว่าแก้วต่อ 1 ตู้ใน 1 วัน และวางให้บริการทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 200 ตู้


นางสาว วทันยา อมตานนท์ Chief Product Officer แบรนด์ เต่าบิน เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการทำตู้กดชา-กาแฟ อัตโนมัติ 24 ชั่วโมงนั้นเดิมทีเป็นบริษัทที่ผลิตตู้หยอดเหรียญ ตู้น้ำกระป๋อง ตู้เติมเงินบุญเติม รวมถึงตู้อื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด และตู้กดชา-กาแฟ “เต่าบิน” นั้น เป็นตู้กดน้ำอัตโนมัติและเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่คิดค้นด้วยคนไทย ซึ่งในอดีตการทำตู้น้ำกระป๋องนั้นเมื่อทำไปได้ระยะหนึ่งยอดขายไม่ได้มากเท่าที่ควร ทำให้ทางแบรนด์นำเข้าตู้น้ำชงจากประเทศจีนเข้ามา ซึ่งการนำเข้าตู้น้ำชงเข้ามาและเริ่มทำการตลาดนั้น ผลตอบรับค่อนข้างดี แต่ก็ยังคงมีปัญหาหรืออุปสรรคในเรื่องของตู้ที่มีการดีไซน์ออกมาไม่เสถียรเท่าที่ควร ทำให้ทางแบรนด์ตัดสินใจพัฒนาตู้กดน้ำขึ้นมาเอง เพราะมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากผลตอบรับที่ได้จากลูกค้า


โดยตู้เต่าบินถูกคิดค้นและผลิตขึ้นจากฝีมือคนไทยเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ที่มาของชื่อ “เต่าบิน” นั้นมาจากการความคิดของทางแบรนด์ว่าสมควรนำชื่อนี้มาตั้งเพราะเป็นชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ จำง่าย โดยผู้ก่อตั้งบริษัทฯ มีชื่อเล่นว่า “เต่า” และมีงานอดิเรกคือการ “ขับเครื่องบิน” เมื่อนำมารวมกันก็จะได้ชื่อว่าเต่าบิน จึงเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ รวมถึงสอดคล้องในลักษณะของตู้เนื่องจากลูกค้าต้องรอเครื่องดื่มจากตู้ที่กำลังทำงาน และเมื่อได้รับและดื่มเครื่องดื่มของทางแบรนด์แล้วนั้นจะได้รับรสชาติที่อร่อยและถูกปาก ปัจจุบันตู้น้ำเต่าบินดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 2 ปี


นอกจากนี้ในปัจจุบันทางแบรนด์ได้มีการจดสิทธิบัตรไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งกลไกการทำงานของตู้เต่าบินจะมีเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนหลายขั้นตอน ซึ่งตู้กดเครื่องดื่มทั่วไปเป็นเครื่องดื่มที่ถูกชงไว้ก่อนแล้วจึงนำมาเสิร์ฟใส่แก้วให้กับลูกค้า ข้อเสียคือถ้าหากอยู่ในสถานที่หรือสภาพอากาศที่ไม่มีความชื้นจะทำให้ไม่เกิดปัญหา แต่พออยู่ในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศชื้นสูงมากทำให้เกิดปัญหาด้านการมีเชื้อราในเครื่องดื่ม รวมถึงมีกลไกการทำงานค่อนข้างน้อยไม่ละเอียด เลือกท็อปปิ้งไม่ได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้ทางแบรนด์คิดค้นและต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนี้ เต่าบิน จะชงเครื่องดื่มในแก้วทุกๆ แก้ว โดยการทำงานในลักษณะนี้จะลดการเกิดเชื้อราได้ รวมถึงสามารถเลือกท็อปปิ้งได้หลากหลายอีกด้วย


นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องความสะอาด และทางแบรนด์ใช้น้ำที่เป็นน้ำแบบ R.O. (Reverse Osmosis) ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตน้ำโดยใช้แรงดันสูง ฉีดน้ำให้ซึมผ่านตัวฟอกคุณภาพสูง มีระบบกรองต่างๆ ก่อนที่จะนำไปชง และหลังชงอุปกรณ์จะถูกทำความสะอาดด้วยน้ำเดือดทุกครั้ง ซึ่งทำทุกขั้นตอนภายในตู้เดียว ไม่มีการนำออกมาข้างนอกเพื่อลดการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกต่างๆ รวมถึงตู้เต่าบินมีการทำน้ำแข็งและทำโซดาด้วยตัวเองภายในตู้ เพราะทางแบรนด์เน้นเรื่องความสะอาดและคุณภาพของเครื่องดื่มให้มากที่สุด


ทั้งนี้เมนูทั้งหมดของทางแบรนด์นั้น โดยรวมแล้วจะมีทั้งหมดประมาณ 170 เมนูต่อ 1 ตู้ ซึ่งแต่ละตู้จะมีเมนูที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของลูกค้าและสถานที่ที่ถูกจัดวางตู้เต่าบินเอาไว้ เพราะในแต่ละสถานที่พฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มของลูกค้าจะแตกต่างกันออกไป เช่น กาแฟ ทางแบรนด์เน้นเรื่องความสดใหม่ ถ้าหากสต็อคไว้นานๆ อาจจะทำให้เหม็นหืนและไม่สดใหม่ นอกจากนี้เมนูซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์คือเมนู กาแฟ รองลงมาจะเป็นเมนูปั่น เช่น โอริโอ้ปั่นภูเขาไฟ รวมถึงโปรตีนเชค เพราะว่าค่อนข้างหายากสำหรับตู้น้ำอัตโนมัติ พอทางแบรนด์มีเมนูนี้ขึ้นมา ลูกค้าจึงสนใจและนิยมซื้อกันมากขึ้น ส่วนเมนูที่ขายดีที่สุดคือเมนู โกโก้เย็น ที่ลูกค้าให้ความนิยมค่อนข้างมาก


สำหรับแบรนด์เต่าบินในตอนนี้ได้มีการทำการตลาดแบบออร์แกนิค 100% เป็นการวางตู้ในสถานที่ต่างๆ และเป็นการโฆษณาไปในตัว อาศัยโพสต์โปรโมทแบรนด์ในช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียโดยที่ไม่ได้ซื้อโฆษณา รวมถึงลูกค้ารีวิวสินค้าให้อีก 1 ช่องทาง ทั้งนี้ความพิเศษของตู้เต่าบินคือมีราคาเครื่องดื่มตั้งแต่ 15 บาทขึ้นไป เพราะฉะนั้นลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นราคาที่จับต้องได้


เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ ทำให้ทางแบรนด์ได้มีการวางตู้ตามสถานที่ต่างๆ เช่น คอนโด เพราะลูกค้าเวิร์ค ฟรอม โฮม การนำตู้เต่าบินไปวางในสถานที่ดังกล่าวจึงตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น แต่ก็มีวางในสถานที่อื่นๆ อีก เช่น โรงงาน โรงพยาบาล รวมถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS ต่างๆ รวมทั้งหมดประมาณ 200 กว่าตู้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนต่างจังหวัดมีวางบ้างเล็กน้อย


หลังจากเปิดแบรนด์มาได้ 2 ปี ผลตอบรับหรือฟีดแบกจากลูกค้าค่อนข้างดี แทบจะไม่มีฟีดแบกที่มีปัญหา โดยมีลูกค้าบอกต่อปากต่อปากหรือแชร์ไปตามโซเชียลต่างๆ จำนวนมาก ลูกค้ามองเห็นมากขึ้นก็ได้รับผลตอบรับที่ดีกลับคืนมา นอกจากนี้ตู้กดน้ำเต่าบินเป็นตู้กดน้ำอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง เหตุผลที่ทำเป็น 24 ชั่วโมงนั้นมาจากการดำเนินชีวิตของหลายๆ คนที่ไม่ได้ปิดสวิตช์ภายในเวลาราชการ หรือตามคาเฟ่ทั่วไป แต่เป็นการใช้ชีวิตแบบ 24 ชั่วโมง ทำให้ทางแบรนด์ต้องการอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ โดยการเป็นที่พักพิงให้กับลูกค้าหลายๆ คนที่ต้องใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมงหรือในช่วงเวลาที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ ทั่วไป


ปัจจุบันใน 1 วันทางแบรนด์สามารถขายเครื่องดื่มได้ประมาณ 50 แก้วต่อ 1 ตู้ และสถิติยอดขายที่เคยขายได้มากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าแก้วต่อ 1 ตู้ใน 1 วัน ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลและโรงงานเป็นส่วนใหญ่ ส่วน BTS ในตอนนี้มีประมาณ 4 พื้นที่ ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สยาม อโศก และศาลาแดง นอกจากนี้สูตรการชงเครื่องดื่มในเมนูต่างๆ ก่อนจะเสิร์ฟให้ลูกค้าทางแบรนด์จะมีการทดลองดื่มกันเองก่อนและได้มีที่ปรึกษาด้านเครื่องดื่มที่เป็นบาริสตร้าโดยเฉพาะ ซึ่งทางแบรนด์จะให้ความสำคัญเรื่องรสชาติมากที่สุด โดยเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟให้กับกลุ่มลูกค้า สำหรับการขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์ ทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่ามีลูกค้าติดต่อสอบถามเข้ามาจำนวนมากในเรื่องดังกล่าว แต่ทางแบรนด์ในตอนนี้ยังไม่มีการเปิดขยายรูปแบบแฟรนไชส์ ยังคงใช้วิธีเดิมเหมือนกับตู้บุญเติม นั่นก็คือ ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่


สถิติการใช้บริการตู้เต่าบินของลูกค้านั้น เริ่มใช้บริการตั้งแต่เวลา 08:00-00:00 น. เรียกได้ว่าใช้บริการทั้งวันเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษอีกหนึ่งอย่างสำหรับตู้น้ำเต่าบิน คือ เน้นเรื่องที่หลายๆ คนมองข้ามในตอนนี้ เช่น เรื่องสุขภาพ กล่าวคือ ลูกค้าสามารถเลือกเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาลได้ หรือเครื่องดื่มในกลุ่มโปรตีนเชค รวมถึงวัตถุดิบที่เป็น นม ทางแบรนด์จะไม่ใช้ครีมเทียมแต่จะใช้นมผงที่เป็นนมสดแท้ 100% รวมไปถึงการลดภาวะโลกร้อน โดยทางตู้เต่าบินจะมีบริการกดรับหรือไม่รับหลอดและฝาแก้ว ซึ่งเป็นการลดขยะและลดโลกร้อนอีกหนึ่งช่องทาง ส่วนเรื่องแก้วนั้นจะเป็นแก้วที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% และมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างแข็ง ล้างง่าย


อย่างไรก็ตามในอนาคตทางแบรนด์ได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการขยายออกสู่ต่างประเทศ เพราะมีลูกค้าให้ความสนใจและติดต่อเข้ามาจำนวนมาก


ติดต่อเพิ่มเติม


Facebook : TAO BIN เต่าบิน










* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น