“calligrapher” หรือ “นักออกแบบตัวอักษรผ่านลายมือ” เป็นอาชีพที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อนว่า เป็นงานศิลปะที่ขายได้ เว็บไซต์ cnalifestyle.channelnewsasia ได้นำเสนอ อาชีพของหนุ่มชาวสิงคโปร์ คนหนึ่ง มีชื่อว่า “คลาเรนซ์ วี” เจ้าของ บริษัทคราฟท์ แวรีส์ (Craft Varies) ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จจากการคิดที่แตกต่าง
คลาเรนซ์ เล่าว่า ตนเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน เหมือนกันว่า จะเข้ามาทำอาชีพนี้ ซึ่งเขาจำได้ว่าตอนยังเด็ก เวลาพ่อกับแม่ ส่งไปเรียนพิเศษวิชาศิลปะแต่แทนที่จะสร้างงานศิลปะของตัวเอง เขากลับจบลงด้วยการเดินไปรอบๆ ห้องเรียนเพื่อ "ตรวจสอบ" งานของเพื่อนร่วมชั้น จนครู ต้องขอยกเลิกการสอนเขาและคืนเงินให้ผู้ปกครอง
และจุดเปลี่ยนที่ทำให้ คลาเรนซ์ เข้ามาสนใจงานศิลปะ เกิดขึ้นเมื่อเขาได้มาเรียนที่ Temasek Design School สาขาการสื่อสารด้วยภาพ (Visual Communication) เขาก็เริ่มสนใจการใช้รูปแบบตัวอักษรในการถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ และตัวตนของคน ซึ่งเขาเองจำไม่ได้ว่าหลงรักมันเมื่อไหร่ แต่รู้สึกทึ่งกับรูปแบบตัวอักษร แม้จะเป็นตัวอักษรง่ายๆ อย่างคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่สามารถออกแบบ และถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ ของแต่ละคนได้
หลังจากนั้น "คลาเรนซ์" หลงรักการออกแบบตัวอักษร เขาได้ใช้เวลาไปกับการฝึกฝน วันหนึ่งหลายชั่วโมง "คลาเรนซ์" บอกว่า อาจารย์ Paul Antonio ที่เคยสอนเขาในวัยเด็ก เคยบอกว่า การฝึกฝนที่ดีจะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เขารู้สึกว่าเขาจะต้องเข้มงวดกับการฝึกฝนของตัวเอง แต่ต้องทำอย่างไม่ไร้จุดหมาย “คลาเรนซ์” ก็เลย เลือกเดินทางไปฝึกงานด้านนี้ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นเวลา 2 เดือน
หลังจากนั้นเขาก็ฝึกฝนเรื่อยมา รวมถึงการออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อเรียนรู้จากศิลปินคนอื่น เขาจริงจังถึงขนาดลงเรียนคอร์ส Sign Painting หรือการวาดป้ายอักษรที่ซานฟรานซิสโกจนได้เรียนรู้เทคนิคการใช้พู่กัน ก่อนที่ เขาย้ายไปฝึกฝนที่อังกฤษกับ “เดวิด สมิธ” ผู้เป็นตัวพ่อด้านนี้ ทำให้สามารถรังสรรค์ตัวอักษรลงบนวัสดุพื้นผิวต่างๆ เช่น แก้ว หรือกระจกได้
สำหรับที่ ซานฟรานซิสโก เขาได้พบกับงานจิตรกรรมป้าย ขณะทำการวิจัยเกี่ยวกับอักษรมือ ตอนนั้นเขาได้ฝึกเขียนอักษรมือ มาสองสามปีแล้ว และกำลังอยากลองอะไรใหม่ๆ เมื่อสารคดี Sign Painters ออกมา เขาจึงได้เห็นถึงสัญญาณ เด่นชัดขึ้นว่า เขากำลังเดินมาถูกทางแล้ว โดยเขากระตื้อรื้อร้นอย่างมากที่จะติดต่อสตูดิโอแห่งหนึ่งในสารคดีและลงทะเบียนเรียนหลักสูตร
ในส่วนของการฝึกในสหราชอาณาจักร เขาได้เห็นปกอัลบั้มที่ David Smith ปรมาจารย์ด้านการเขียนลายเซ็น ซึ่งทำให้กับ John Mayer's Born & Raised สมิธ มีชื่อเสียงในด้านการเขียนป้ายด้วยความสามารถของเขาในการสร้างป้ายกระจก ผมสนใจอย่างมากที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการนำตัวอักษรมาประยุกต์ใช้กับแก้ว ผมจึงได้ตัดสินใจกับเรียนกับเขา
"หลังจากที่ ผมได้เดินหน้าที่ทำอาชีพนี้ ทั้งที่เรารู้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เข้าใจดีถึงความเสี่ยงที่มาพร้อมกับอาชีพเฉพาะนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพนี้ ผมตัดสินใจที่จะไม่พึ่งพาเงินจากพ่อแม่ และรู้สึกขอบคุณพวกเขาเองก็ไม่กดดันให้ฉันหางานตามปกติ และการเดินทางด้วยตนเองเหล่านี้สอนให้ผมใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและประหยัดซื้อหาแต่สิ่งที่จำเป็น"
เมื่อกลับมาปักหลักที่สิงคโปร์ "คลาเรนซ์" ก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรชัดเจน เขาได้แต่ฝึกฝนเรื่องการวาดการเขียนตัวอักษรทุกวันอย่างดำดิ่ง ไม่นาน ลูกค้ารายแรกก็มาเคาะประตูหลังจากเห็นผลงานที่เขาลงในอินสตาแกรมและโซเชียลมีเดีย "คลาเรนซ์" จึงเปิด Craft Varies และรับงานเรื่อยมาเป็นเวลาร่วม 10 ปีแล้ว
บริการของ Craft Varies คือการออกแบบลายมือเพื่อประทับลงวัสดุต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า อาทิ การจารึกข้อความบนซองหนังใส่หนังสือเดินทางแบรนด์โกยาร์ด การเขียนคำอวยพรในการ์ด การเขียนข้อความบนขวดแชมเปญเพื่อเป็นของขวัญ การเขียนถ้อยคำลงบนผ้าห่อสินค้า ไปจนถึงการเขียนเมนู หรือป้ายต่างๆ ภายหลัง Craft Varies ก็ได้ร่วมงานกับแบรนด์สินค้าหรูมากมายหลายแบรนด์ รวมถึงเบอร์เบอร์รี่ แบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากอังกฤษ
สำหรับอาชีพการเป็น calligrapher หรือนักออกแบบตัวอักษรผ่านลายมือ หลายคนมักเข้าใจว่าเกี่ยวกับการเขียนอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วมีความแม่นยำเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนั้น บางคนก็คิดว่า calligraphy เป็นแค่การเขียนตัวอักษรสวยงาม ซึ่งหากแปลตามตัวตามรากศัพท์ภาษากรีกก็อาจจะใช่ แต่หลักการการทำงานจะใกล้เคียงกับ typeface หรือการออกแบบกลุ่มตัวอักษรแบบต่างๆ และเป้าหมายของตัวอักษรเหล่านี้คือการนำเสนอในสิ่งที่ต้องการสื่อไปถึงผู้รับหากเป็นของขวัญที่มอบให้กันก็จะเป็นของล้ำค่าที่ผู้รับต้องการ
“ลูกค้ามาหาเราเมื่อพวกเขาต้องการสร้างชิ้นงานที่ไม่เหมือนใคร เราเชี่ยวชาญในการปรับแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการวาดใบเสนอราคาบนซองใส่หนังสือเดินทางของ Goyard หรือการแกะสลักข้อความส่วนตัวบนขวดแชมเปญสำหรับวันครบรอบอันยิ่งใหญ่ของคู่รัก และบริการคัดลายมือ เพื่อใช้ในโอกาสต่างๆ ตั้งแต่คำเชิญไปจนถึงป้ายหรือเมนูอาหารค่ำ คือสิ่งที่ลูกค้าจำนวนมากมาหาเรา การเติบโตของเราเป็นแบบธรรมชาติ มีแบรนด์หรูหลายแบรนด์ที่ได้ร่วมงานกับเรา เป็นความโชคดีที่ทำให้เราได้เรียนรู้ และได้ฝึกฝนเทคนิคต่างๆ ”
คลาเรนซ์ บอกว่า สำหรับการทำงานของเขาไม่ได้มีสไตล์ ที่เห็นปุ๊บจะรู้เลยว่าเป็นลายเซ็นต์ของเขา เนื่องจากเขาทำงานโดยอิงจากความต้องการของลูกค้าหรือแบรนด์ที่ว่าจ้างมากกว่า ดังนั้น เวลารับงานเขาจึงต้องศึกษาบุคลิกของผู้ว่าจ้างก่อนเพื่อให้งานออกมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าแม้จะอยู่ในวงการนี้มานาน แต่คลาเรนซ์ก็ไม่เคยหยุดฝึกฝนเลยสักวัน ยิ่งฝึกมาก งานก็จะยิ่งออกมาดี
โดยทั่วไป เขาใช้เวลาฝึกเขียนฝึกวาด 1-6 ชั่วโมงต่อวันขึ้นอยู่กับตารางกิจกรรมในแต่ละวัน แม้จะมีฐานลูกค้าในสิงคโปร์อยู่แล้ว แต่สำหรับความฝันของเขาในอนาคต คือการไปปารีสและก่อตั้ง Craft Varies ที่ Paris Fashion Week และเขียนจดหมายถึงแบรนด์ต่างๆ ที่นั่น อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุด ของเค้า คือ เวลาการทำงานหรือนอกเวลาทำงานเท่ากัน เพราะเค้ารู้สึกขอบคุณที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ งานไม่เป็นงาน มันเหมือนชีวิตมากกว่า
ที่มา: www.cnalifestyle.channelnewsasia.com
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด