xs
xsm
sm
md
lg

พิษโควิดเล่นงาน! จากครูสอนฟุตบอล ผันตัวเปิดร้าน “กาแฟริมทาง DOME Coffee” ดึงเสน่ห์ด้วยรถตู้คลาสสิค ให้ฟีลคาเฟ่สุดชิค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





จากครูสอนฟุตบอลอาชีพโดนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เล่นงาน จนอคาเดมี่ต้องปิดตัวลง ทำให้ต้องหยุดพักงานไปอย่างไม่มีกำหนด ผันตัวเปิดร้านกาแฟริมทาง แบรนด์ DOMECoffee เริ่มต้นจากการลงทุน 4,000 บาทจนสามารถเปิดเป็นรถตู้ฟู้ดทรัคได้ ดึงเสน่ห์ด้วยความคลาสสิค ชูจุดเด่นและรสชาติกาแฟที่เข้มข้นไม่เหมือนใคร พร้อมเสิร์ฟความแตกต่างใหม่ด้วยเมนูสุดแปลก

นายเกียรติคุณ วัดล้อม เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟริมทาง Dome Coffee
นายเกียรติคุณ วัดล้อม เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟริมทาง DOME Coffee เล่าว่า จุดเริ่มต้นการสร้างแบรนด์นั้นเริ่มต้นมาจากการที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นการส่วนตัว ชงดื่มเองและเริ่มหัดทำมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นคนที่ชื่นชอบสไตล์กาแฟริมทางเพราะทำให้รู้สึกเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและมีเสน่ห์น่าค้นหา ปัจจุบันเริ่มต้นธุรกิจมาได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งปกติแล้วตนมีอาชีพเป็นครูสอนฟุตบอล แต่เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องหยุดพักอาชีพดังกล่าวและหันมาสนใจเรื่องการเปิดร้านกาแฟริมทางจากความชอบส่วนตัว


ทั้งนี้ความพิเศษและจุดเด่นของร้านกาแฟริมทางของตนนั้นจะเป็นเรื่องรสชาติกาแฟที่ค่อนข้างมีรสชาติที่เข้มกว่าร้านริมทางทั่วไป โดยจะใช้กาแฟชุมพรและเป็นกาแฟสด ต้มด้วยเครื่องต้มกาแฟ โมก้าพอท ทำให้มีลูกค้าหลากหลายช่วงอายุเข้ามาให้การสนับสนุนกาแฟของทางร้าน นอกจากนี้ ก่อนจะมาเปิดร้านได้นั้นเจ้าของร้านได้มีการเข้าคอร์สเรียนการชงกาแฟและเรียนรู้เอง รวมถึงทดลองดื่มกาแฟจากร้านอื่นเพื่อให้รับรู้รสชาติกาแฟที่หลากหลายมากขึ้นเพราะแต่ละร้านมีรสชาติที่แตกต่างกัน


เสน่ห์ของกาแฟที่ทางร้านมีนั้นจะเป็นเสน่ห์เรื่องรสชาติที่เข้มข้น แต่ก็จะมีกาแฟที่มีรสชาติอ่อนลงมาเพื่อรองรับลูกค้าที่ดื่มกาแฟเข้มไม่ค่อยได้ รวมถึงทางร้านได้มีการสอบถามและสำรวจกับกลุ่มลูกค้าเรื่องรสชาติว่าควรจะปรับปรุงในส่วนไหนบ้างเพราะการรับรสแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้มีฟีดแบกและผลตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดีและลงตัวในที่สุด


สำหรับกลยุทธ์และเทคนิคในการทำการตลาดของทางร้านนั้น จะเน้นเรื่องการโปรโมทผ่านช่องทางโซเชียลออนไลน์ เช่น เพจเฟซบุ๊ก และเข้าร่วมกลุ่มที่เป็นมาร์เก็ต เพลสของแต่ละพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านจะเป็นเมนู อเมริกาโน่ อเมริกาโน่น้ำส้ม และเอสเปรสโซ่เย็น ซึ่งนอกจากเมนูที่เป็นกาแฟแล้วนั้น ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ อีก เช่น ชาร้อนและเย็น โกโก้ และเครื่องดื่มอิตาเลี่ยนโซดา


เดิมทีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ทางร้านเปิดขายเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เริ่มเวลา 07:00-15:00 น. แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไปจะเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:00-16:00 น. ซึ่งใน 1 วันที่เปิดขายสามารถขายได้ประมาณ 35-45 แก้ว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 30-70 บาท และมีเมนูทั้งหมดประมาณ 20 เมนู ก่อนหน้านี้ทางร้านได้เปิดขายริมทางในจังหวัดปทุมธานีและเริ่มเปลี่ยนมาขายในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และที่ขายประจำใกล้บ้าน


ทั้งนี้ 2 เดือนที่ผ่านมา ทางร้านจะขนย้ายอุปกรณ์ใส่รถและตั้งร้านขายริมทาง แต่เมื่อได้ย้ายกลับมาขายแถวบ้านตน ก็ได้มีการซื้อรถตู้มาเพื่อทำเป็นร้าน โดยจะทำให้เป็นฟู้ดทรัค ให้อารมณ์รถตู้คลาสสิค มีที่ให้ลูกค้านั่งรอประมาณ 4-5 ที่นั่ง ซึ่งจะทำให้สามารถเคลื่อนย้ายง่ายกว่าแบบเดิม นอกจากนี้เจ้าของร้านยังมีความกังวลเรื่องผลกระทบจากโควิด-19 พอสมควร แต่ก็ต้องป้องกันและรักษาความปลอดภัย เว้นระยะห่างอยู่ตลอดจึงจะสามารถค้าขายได้อย่างปลอดภัย โดยจะป้องกันทั้งตัวเองและลูกค้าไปพร้อมๆ กัน


สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านมากที่สุดคือเวลาเช้าประมาณ 07:30 – 08:30 น. และ 11:00-13:00 น. ลูกค้าจะนิยมเข้าร้านในช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างเยอะกว่าเวลาอื่น ซึ่งในปัจจุบันทางร้านกำลังเตรียมการเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูฟิวชั่นให้ลูกค้าเลือกได้ เช่น อเมริกาโน่มะพร้าว ชาเขียวน้ำส้ม ซึ่งนอกจากทางร้านจะมีเมนูฟิวชั่นแล้วนั้น ยังมีลูกค้าที่สั่งเมนูแปลกๆ เช่น กาแฟผสมน้ำมะม่วง กาแฟผสมเก็กฮวย


ทั้งนี้ ในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการรับออกงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเริ่มมีคนเข้ามาติดต่อบ้างเล็กน้อย รวมถึงอาจจะมีการเปิดขายแฟรนไชส์ได้เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางและได้เพิ่มเมนูฟิวชั่นเพิ่มขึ้นเพื่อให้ดูแปลกใหม่และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ลูกค้ารู้จักร้านกาแฟริมทางของทางร้านเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ลูกค้าผ่านไปผ่านมาแล้วเห็น ก็จะแวะซื้อและนำเอาไปโพสต์ลงในกลุ่ม ในเพจต่างๆ ทำให้เกิดการบอกเล่าปากต่อปาก ลูกค้าก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


“สำหรับอาชีพครูสอนฟุตบอลนั้น เจ้าของร้านทำอาชีพดังกล่าวมาได้ประมาณ 3-4 ปี โดยเป็นครูสอนประจำที่อคาเดมี่ฟุตบอล รวมถึงเป็นกรรมการตัดสินกีฬา ซึ่งความยากง่ายระหว่างการเป็นครูสอนฟุตบอลกับการขายกาแฟนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตอนเป็นครูสอนนั้นแค่คิดว่าจะสอนอะไรให้กับลูกศิษย์ ซึ่งไม่ได้เจอลูกค้าและไม่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบมากๆ แต่พอเรามาขายกาแฟ เราต้องตื่นเช้าขึ้นมาเตรียมซื้อของ สนุกในการชงกาแฟให้กับลูกค้า”


นอกจากนี้ต้นทุนในการเริ่มเปิดร้านกาแฟริมทางนั้น เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า เริ่มลงทุนประมาณ 4,000 บาทก็สามารถเปิดขายได้ โดยจะมีกาต้มน้ำ 2 ใบ โต๊ะ 1 ตัว ผ้ารองโต๊ะ และกระติกน้ำแข็ง ที่นั่งในตอนนั้นยังไม่มีแต่ก็สามารถขายได้และเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นรถตู้ฟู้ดทรัคจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งการทำเป็นรถตู้นั้นจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เพราะทุกวันนี้โซเชียลเป็นสิ่งที่หลายๆ คนให้ความสนใจ เวลามากินกาแฟก็จะถ่ายรูปและโพสต์ลงในพื้นที่โซเชียลตัวเอง ร้านค้าก็ออกสู่สาธารณชนมากขึ้น การทำเป็นร้านกาแฟรถตู้ริมทางจึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเหล่านี้

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook :
DOME Coffee






* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *



กำลังโหลดความคิดเห็น