พาณิชย์ พาจุดไอเดีย “บริบูรณ์ฟาร์ม” เกษตรกรผู้ปั้นแบรนด์ “อะโวคาโด” สัญชาติไทยในตลาดโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดทำ โครงการ Young Exporter from Local to Global หรือ YELG เพื่อยกระดับ และพัฒนาแบรนด์สินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก โดยครั้งนี้ มีผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ในการผลักดันแบรนด์ สินค้า “อะโวคาโด” จนฮอตฮิตติดตลาดสุขภาพ สามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย และเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศในหลายประเทศ

ฐิติรัตน์ ศักดาปรีชา กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ “บริบูรณ์ฟาร์ม” เกษตรกรผู้แปรรูปอะโวคาโดครบวงจร เล่าว่า ที่มาของธุรกิจ เกิดมาจากปัญหาสุขภาพตนเองถูกตัดมดลูก ต้องรับประทานฮอร์โมนจากเคมีทดแทนติดต่อกันนานถึง 15 ปี แพทย์จึงสั่งให้หยุดใช้ เนื่องจากจะมีผลกระทบข้างเคียง ตนจึงจำเป็นต้องหาฮอร์โมนจากธรรมชาติมาทดแทน และได้ทดลองรับประทานพืช ผัก ผลไม้หลายชนิดแต่ไม่ตอบโจทย์ จนได้ศึกษางานวิจัยอะโวคาโดและพบว่าอะโวคาโดคือสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ จึงทดลองซื้อมารับประทาน แต่ด้วยราคาที่แพงจึงหันมาทดลองปลูกเองที่ อำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งพบว่า ผลผลิตออกมามีคุณภาพดีเทียบเท่าต่างประเทศเนื่องจากอยู่ในพื้นที่บริเวณที่เหมาะสม

และหลังจากที่ได้ผลอะโวคาโดที่มีคุณภาพแล้ว ทางบริษัทจึงได้เริ่มทำการวิจัย พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในการสกัดน้ำมันอะโวคาโด แต่ระหว่างทำวิจัยผลิตภัณฑ์ ได้ใช้ผลิตภัณฑ์อะโวคาโดของตัวเองมาใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งเต้านม จึงทำให้สุขภาพพลิกฟื้นกลับมาดีอีกครั้ง จึงต้องการส่งมอบคุณค่า และคุณประโยชน์ของอะโวคาโดให้กับผู้บริโภคได้มีสุขภาพดี จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการมาทำธุรกิจนี้

บริษัทให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรม Innovation มาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยจะเน้นเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น น้ำมันอะโวคาโดสกัดเย็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันอะโวคาโด ซอฟเจล (Avocado Softgel) ครีมผงอะโวคาโด (Avocado Oil Powder) และผลิตภัณฑ์อะโวคาโดพิวเร่ (Avocado Puree) และน้ำมันอะโวคาโด ซอฟเจล ที่บริบูรณ์ฟาร์มเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยที่มีงานวิจัยรองรับ และได้รับความนิยมจากผู้รักสุขภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ตอบโจทย์ ช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ส่งผลให้ลดไขมันเลว (LDL) เพื่อป้องกันการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ฐิติรัตน์ เล่าต่อว่า บริบูรณ์ฟาร์มดำเนินธุรกิจแปรรูปอะโวคาโดแบบครบวงจรเจ้าแรกในประเทศไทย ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้ความใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การเลือกพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว ที่เป็นแหล่งโอโซน อันดับ 7 ของโลก รวมทั้งใช้วิธีการปลูกด้วยวิถีธรรมชาติ เกษตรปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

หลังจากที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการปลูกอะโวคาโดให้เป็นไปตามมาตรฐานและมีคุณภาพดีแล้ว ทำให้บริษัทสนใจเรื่องการส่งผลิตภัณฑ์ออกไปขายยังต่างประเทศเอง จากเดิมที่ต้องส่งขายผ่านคนกลาง ดังนั้นจึงได้เริ่มเข้าร่วมโครงการ YELG กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โครงการมีส่วนช่วยให้บริษัทมองเห็นโอกาส และได้ความรู้เกี่ยวกับการส่งออกอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสมในการส่งออก การคิดราคาต้นทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการผู้บริโภคในแต่ละประเทศ และทำให้มองตลาดได้กว้างนอกเหนือจากในประเทศไทย

นอกเหนือไปจากการทำธุรกิจเพื่อสุขภาพแล้ว บริบูรณ์ฟาร์มยังเน้นการเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอะโวคาโด โดยได้จัดตั้งวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกอะโวคาโด อำเภอวังน้ำเขียวขึ้น และเรามีส่วนร่วมในการรับซื้ออะโวคาโดที่มีคุณภาพจากเกษตรกร อำเภอพบพระ จ.ตาก และดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ โดยเกษตรกรลดการใช้ปุ๋ย ยาเคมี ลดการเผาเศษพืช ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ลดการทำลายหน้าดิน เพื่อสร้างความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม และให้เยาวชนได้เริ่มเรียนรู้การปลูกอะโวคาโดและการแปรรูปอะโวคาโด และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และมีรายได้

ฐิติรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า มูลค่าตลาดอะโวคาโดทั่วโลกมีความต้องการกว่า 400,000 ล้านบาท/ปี ประเทศที่นำเข้าอันดับ 1 คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการคาดการณ์ตลาดอะโวคาโดทั่วโลกจะขยายตัว 2 เท่า ในช่วง 5 ปี อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาประเทศไทยนำเข้าอะโวคาโดผลสดจากต่างประเทศ ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี มูลค่าตลาดอาหารเสริมและวิตามินในประเทศไทย มีมูลค่ารวมปี 2564 ประมาณ 36,375 ล้านบาท และมีการขยายตัวสะสม 9% ต่อปี ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ตลาดสุขภาพจึงมีความต้องการและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง