ROLLING ROASTERS ร้านกาแฟที่ต้องบอกว่าเปิดอีกโลกการดื่มกาแฟ สำหรับคอกาแฟ และคนรักและหลงใหลเครื่องดื่มชนิดนี้ เพราะทุกอย่างถูกรังสรรค์ ขึ้นมาจากความรักของผู้หญิงเก่งคนนี้ “แอน” “รสรินทร์ ติยะวราพรรณ”
ความสำเร็จร้านกาแฟตอบโจทย์ คนรักกาแฟ
"รสรินทร์" เปิด ROLLING ROASTERS ขึ้นมา โดยไม่ได้มองว่าในแง่ของธุรกิจว่าจะได้ทุนคืนเมื่อไหร่ หรือต้องขายกาแฟแก้วละเท่าไหร่ แต่เป้าหมายของเธอ คือ การเดินตามความฝัน ในการจะมีร้านกาแฟสักร้านที่ครบทุกอย่าง ไม่ใช่แค่บรรยากาศของร้าน แต่ต้องตอบโจทย์แวดวงคนรักกาแฟ เหมือนกับครอบครัวของเธอ ที่ยังไม่สามารถหาเรื่องราวกาแฟแบบนี้ ได้จากที่ร้านไหนในเมืองไทย
“รสรินทร์” เล่าถึง ROLLING ROASTERS ว่า “ตนเองได้เปิดร้านกาแฟในชื่อของ ROLLING ROASTERS มาได้สัก 3 เดือน ก่อนหน้านั้นร่วมกับหุ้นส่วนก่อนแยกทางกัน มาทำร้านกาแฟได้ประมาณ 8 เดือน เป้าหมายของการทำร้านกาแฟในครั้งนี้ คือ ต้องการที่จะให้ ร้านกาแฟแห่งนี้ เป็นเหมือนศูนย์การเรียนรู้ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับแวดวงคนที่รักกาแฟ ซึ่งประสบการณ์ด้านกาแฟที่นำมาถ่ายทอดในร้านแห่งนี้ ทั้งหมดมาจากพี่ชาย ซึ่งเค้าชื่นชอบและหลงรักการดื่มกาแฟเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงสนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของกาแฟ เพื่อนำความรู้ต่างๆ มาปรับเพื่อให้ได้กาแฟที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา”
“ส่วนตัว "แอน" เอง นั้นเป็นนักลงทุน หลายคนมองว่าทำไมยอมทุ่มงบมากขนาดนี้ เพื่อเปิดร้านกาแฟ เพียงสาขาเดียว แต่หลังจาก "แอน" ได้ศึกษาเรื่องราวของกาแฟ ทำให้เราทราบว่า คนไทยดื่มกาแฟกันมาก และตลาดกาแฟระดับบน ไม่ได้มีให้เลือกมากนัก ทำให้เรามองเห็นช่องว่างทางการตลาด ตัดสินใจเปิดร้านแห่งนี้ และมั่นใจว่า ถ้าเราทำอะไรด้วยความรักไม่ได้คาดหวังผลทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว เราก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน”
เปิดโลกใหม่ของดื่มกาแฟที่ไม่จบแค่ราคา
วัดจากยอดขายวันละพันแก้ว
สำหรับความพิเศษของ ROLLING ROASTERS คือ เป็นร้านกาแฟที่มีจุดขายตรงที่การคัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากหลายประเทศ ที่มีความพิเศษ ซึ่งการมีเมล็ดกาแฟที่มีความพิเศษแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ทีมบาริสต้าที่มาช่วยปรุงรสชาติของกาแฟให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งทาง “คุณแอน” คัดเลือกมาเป็นพิเศษถึง 16 คน และมีสายพันธุ์เมล็ดกาแฟ 20 สายพันธุ์ ในแต่ละวันก่อนเปิดร้าน เราและทีมบาริสต้า จะต้องนำกาแฟที่การผ่านเบรนด์มาทดสอบ ถ้ารสชาติไหน “คุณแอน” และพี่ชาย ได้ชิมแล้วไม่ผ่านก็จะไม่ได้นำออกมาขาย
นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้ามารับบริการที่ ROLLING ROASTERS สามารถพูดคุย เรื่องราวของกาแฟ กับทีมบาริสต้าที่คอยให้บริการ ซึ่งคอยตอบทุกคำถามที่ต้องการจะรู้ เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนรักกาแฟ เป็นจุดขายที่ทำให้คอกาแฟหลายคนที่เคยเดินทางมากินกาแฟที่ร้านแห่งนี้ ก็จะกลับมาอีกเพื่อจะได้ลิ้มลองรสชาติของกาแฟที่แตกต่างกันไปในแต่ละวันที่ได้มาดื่มกาแฟ
สำหรับในส่วนของราคา ต้องบอกเลยว่า จากบริการของทีมบาริสต้ามืออาชีพ บวกกับการคัดเลือกเมล็ดกาแฟสายพันธุ์คุณภาพที่ดีที่สุด อย่างนี้ ราคาก็ต้องไม่ธรรมดา ซึ่ง "คุณแอน" บอกว่า ราคาเป็นไปตามคุณภาพวัตถุดิบ โดยกาแฟของร้านนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 100 บาท และแพงสุด 450 บาท ถึง 500 บาทต่อแก้ว ซึ่งลูกค้าชื่นชอบกาแฟ หรือ คอกาแฟกับราคาขนาดนี้ ต้องบอกว่า ไม่ได้แพงสำหรับเค้า ในแต่ละวันคอกาแฟที่มาร้านนี้ จ่ายเฉลี่ยแก้วละ 250 บาท ถึง 300 บาท ส่วนราคา 450-500 บาท ก็จะมีในสัดส่วน ที่ลดลงไป
“ราคาของเรา จะตั้งจากคุณภาพของวัตถุดิบ และเทคโนโลยี รวมถึงเทคนิคต่างๆ ทุกอย่างเป็นราคาที่สมเหตุ สมผล หลายคนที่เป็นคอกาแฟ ยินดีที่จ่ายเพื่อให้ได้ดื่มกาแฟที่ดีที่สุด ซึ่งวัดได้จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ก่อนหน้าที่เจอสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ช่วงที่เปิดร้านใหม่ ตอนนั้น วันหนึ่งสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1,000 แก้ว และเป็นลูกค้าประจำถึง 60%”
“แต่หลังจากปิดร้าน เพราะสถานการณ์โควิด เปิดบริการไดร์ฟทรู ยอดขายตกลงไปเหมือนธุรกิจอื่นๆ แต่อยู่ในระดับที่เราพอใจ เพราะวันหนึ่งมีลูกค้าขับรถเข้ามาใช้ซื้อกาแฟ วันหนึ่งหลายร้อยแก้ว ลูกค้าหลายคนเรียกร้องอยากให้เราเปิดร้าน แต่เพื่อความปลอดภัยของน้องบาริสต้า และทีมงาน ก็เลือกที่จะให้บริการแบบไดร์ฟทรูไปก่อน แม้รัฐบาลจะประกาศให้นั่งกินในร้านได้แล้วก็ตาม แต่เราคงขอดูสถานการณ์ก่อนอีกสัก 2 อาทิตย์”
ทำไม คนถึงรู้จักร้านนี้ ในเวลาอันรวดเร็ว
“รสรินทร์” เล่าว่า ทำไมคนรู้จัก ROLLING ROASTERS ในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ โดยได้น้องชายซึ่งเป็นนักการตลาด ช่วยทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ และพอมีคนรู้จักเกิดการบอกต่อ คนแวดวงกาแฟ ที่มองหากาแฟคุณภาพ วันนี้ ร้านนี้ กลายเป็นตัวเลือก ไม่กี่แห่งในประเทศไทยขณะนี้
“การทำงานของเราเป็นการทำงานกันภายในครอบครัว พี่ชายเก่งเรื่องกาแฟ ส่วนแอนเป็นนักลงทุน ในแง่ของนักลงทุนมองหาโอกาส โดยเฉพาะในช่วงโควิด หลายคนไม่กล้าลงทุน หรือ ในทางตรงกันข้าม มีร้านกาแฟที่เลิกกิจการไปในช่วงโควิดก็มีเป็นจำนวนมาก “แอน” ก็เลยตัดใจในช่วงโควิด ลงทุนเปิดร้านกาแฟ ที่เจาะตลาดแมสเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแบรนด์ ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม นี้
“โดยวางแผน เปิดทั้งหมด 10 สาขา ความพิเศษร้านกาแฟแห่งใหม่นี้ แม้จะเป็นตลาดแมสแต่เรายังคงคุณภาพ และเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำกาแฟหลากหลายชนิดให้ลูกค้าได้เลือก โดยเรามีกาแฟให้ได้เลือกภายในร้าน มากถึง 4-5 สายพันธุ์ พร้อมทีมงานบาริสต้า ที่มาคอยให้บริการเช่นเดียวกันกับ ROLLING ROASTERS ซึ่งเราจะให้สิ่งที่ดีที่สุดในราคาระดับแมส ที่ลูกค้าอาจจะหาจากที่ร้านกาแฟที่อื่นๆ ไม่ได้ ”
อย่างไรก็ดี ในส่วนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของ ROLLING ROASTERS ส่วนใหญ่จะมาดื่มกาแฟที่มีความพิเศษ มากถึง 80-90% ความพิเศษของกาแฟที่มีให้คอกาแฟ และไม่ใช่คอกาแฟ พอได้มาลิ้มลอง และติดใจ ทำให้ส่วนของเครื่องดื่มอื่นๆ หรือ เบเกอรี่ จะมียอดขายเพียงไม่เกิน 10-20% เท่านั้น แต่ทางร้านเราก็ให้ความสำคัญเช่นกัน แม้จะเป็นเพียงแค่ 20% โดยเฉพาะเบเกอรี่ จะเน้นความสดใหม่ ทำแบบสดใหม่วันต่อวันเท่านั้น ในช่วงโควิด ที่เราให้บริการแบบไดร์ฟทรู เบเกอรี่ ก็เลยทำน้อยมาก เพราะลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะสั่งกาแฟ
ในส่วนของเมล็ดกาแฟ เนื่องจากในปัจจุบัน มีตัวแทนนำเข้าเมล็ดกาแฟในประเทศไทย ซึ่งตัวแทนเหล่านี้ พอมีกาแฟที่พิเศษใหม่จะมานำเสนอ และเราก็จะคัดเลือกที่อีกหนึ่ง ถ้าเรานำมาเบรนด์ ในเทคนิคพิเศษของเราแล้วได้รสชาติ ผ่านเกณฑ์เราถึงจะสั่งซื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า จากประเทศในแถบตะวันออกกลาง
ROLLING ROASTERS ร้านกาแฟของนักลงทุน รายนี้ ถูกจับตามอง ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ เพราะด้วยความพิเศษของกาแฟ ที่คนในแวดวงกาแฟ ต้องไปลิ้มลองสักครั้ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟที่มีลูกค้าประจำที่คอกาแฟ ยอมจ่ายเงินหลักหลายร้อยบาท เพื่อดื่มกาแฟหนึ่งแก้ว แม้ในช่วงโควิด ที่ต้องปิดไม่ให้นั่งกินที่ร้าน แต่สำหรับขาประจำก็ยังต้องแวะมาซื้อกาแฟร้านนี้ แม้ไม่ได้นั่งดื่มกินที่ร้านก็ตาม
สนใจติดต่อ FB: ROLLING ROASTERS
คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
