ร่างกายไม่สมบูรณ์แต่หัวใจแข็งแกร่ง เรื่องราวของนายทิน บุญมี หรือ ต้น เจ้าของธุรกิจ “แซนวิชต้นบัว” ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นขอทานตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แต่ชีวิตกลับผกผันด้วยความเมตตาจากผู้ใหญ่ใจดี และสัญญากับตนเองว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น โดยการเริ่มขายน้ำส้มคั้น การเป็นลูกจ้างคนอื่น จนกระทั่งมีธุรกิจเป็นของตัวเองและสามารถดำรงชีพได้ด้วยตนเองพร้อมครอบครัวจนถึงทุกวันนี้
นายทิน บุญมี หรือ ต้น เจ้าของธุรกิจแซนวิชต้นบัว เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจแซนวิชต้นบัวนั้นเริ่มมาจากการที่ตนนั้นมีอาชีพขอทานมาก่อน โดยเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และในระหว่างที่ทำอาชีพนี้ก็มีพระรูปหนึ่งที่ตนนั้นเรียกว่าหลวงตา ได้ชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วัดในช่วงอายุประมาณ 9 ขวบ เพราะก่อนหน้านี้ตนยังไม่มีบ้านและจะอาศัยนอนตามสะพานลอย หลังจากนั้นก็ทำอาชีพนี้มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โดยจะมีจุดพักตามบริเวณปั๊มน้ำมัน สะพานลอย ตลาดนัดต่างๆ
ทั้งนี้เมื่ออายุได้ประมาณ 23 ย่าง 24 ปี ก็เริ่มเปลี่ยนสถานที่โดยจะเปลี่ยนมาเป็นตามไฟแดงแถวถนนเกษตร-นวมินทร์ จนกระทั่งเจอผู้ใหญ่ใจดีที่ชื่อว่า “เจี๊ยบ” ที่ทุกครั้งที่ผ่านไฟแดงดังกล่าวก็มักจะช่วยเหลือเป็นเงินจำนวนหนึ่ง
จนกระทั่งมีวันหนึ่งผู้ใหญ่ใจดีคนดังกล่าวก็ขับรถมาหาเองและได้มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น ซึ่งเนื้อหาที่พูดคุยกันนั้นจะพูดในเชิงการถามสารทุกข์สุขดิบ ที่มาการทำอาชีพขอทานนั้นมีความเป็นมาอย่างไร เพราะในอาชีพขอทานนั้นบางครั้งอาจจะมีการทำเป็นธุรกิจ เช่น มีคนนำมาปล่อยไว้แล้วมารับกลับ แต่ของตนนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมา ตนเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันต่อเนื่องและคนที่ชื่อเจี๊ยบหรือที่ตนนั้นเรียกว่า พี่เจี๊ยบ ก็ได้ถามคำถามกับตนว่าเคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงและทำอาชีพอื่นบ้างหรือไม่ ตนจึงตอบกลับไปว่า
“คิดอยากจะเปลี่ยนเหมือนกัน แต่อาชีพขอทานนั้นบางวันได้เยอะก็มีข้าวกินที่อิ่มท้องแต่วันไหนที่ได้น้อยหรือไม่ได้เลยก็จะเก็บผักมากินแทน จากนั้นพี่เจี๊ยบก็ถามผมกลับมาใหม่อีกครั้งว่า ขายของเนี่ยใช้เงินเท่าไหร่ ผมจึงตอบไปว่าประมาณ 2,000 บาทครับ พี่เจี๊ยบก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า ถ้าให้ทุนสักก้อนจะเลิกทำไหม ผมก็ให้คำสัญญาไปว่าผมจะเลิก หลังจากนั้นพี่เจี๊ยบก็ให้ทุนผมมาประมาณ 2,500 บาท โดยให้เหตุผลว่าขอจ่ายเป็นค่าตัวที่มานั่งคุยกัน” และนับตั้งแต่วันนั้นตนก็ไม่ได้กลับไปนั่งขอทานอีกเลย ซึ่งนำเงินจำนวนดังกล่าวไปรับน้ำส้มคั้นมาขายและขายมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 3 ปี
หลังจากขายน้ำส้มได้ประมาณ 3 ปี ก็เริ่มเปลี่ยนอาชีพ โดยเริ่มจากการเป็นลูกจ้างขายแซนวิชให้กับเจ้าของร้านเกือบ 1 ปี จนตนเริ่มรู้สึกว่ารายได้ลดลงจากเดือนละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 9,000 จนกระทั่งเหลือ 6,000 บาท เพราะโดนลดเงินเดือนลงตนจึงสู้ไม่ไหวเพราะมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้เงิน รวมถึงในตอนนั้นลูกยังเล็กหลังจากนั้นตนก็ออกจากการเป็นลูกค้าขายแซนวิช โดยมีเงินติดตัวเพียง 500 บาทหลังจากใช้จ่ายค่าเช่าบ้านและสิ่งของที่จำเป็นไปแล้วนั้น ทำให้ตนรู้สึกกังวลและคิดหาหนทางต่อสู้อีกครั้ง
จนในที่สุดตนก็นำเอาเงินจำนวน 500 บาทนั้นซื้อวัตถุดิบมาทำแซนวิชขายเป็นของตัวเอง โดยเริ่มจากการทำแซนวิชไข่ดาว และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นร้านแซนวิชต้นบัวจนถึงปัจจุบันนี้ จากนั้นก็เริ่มพัฒนาและปรับปรุงสูตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยการสอบถามลูกค้าที่ซื้อแซนวิชของตนไปนั้นมีรสชาติอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าต่อมรับรสของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ในช่วงแรกที่ขายแซนวิชนั้นตนยอมรับว่าเป็นช่วงที่ท้ออยู่เหมือนกัน เพราะลูกค้าหลายคนก็ชอบรสชาติไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นตนจึงพยายามพัฒนาสูตรแซนวิชให้ได้รสชาติที่ลงตัวมากที่สุดและปัจจุบันขายมาได้ประมาณ 11 ปี และเริ่มมีลูกศิษย์เข้ามาเรียนรู้การทำแซนวิชกับตนอีกด้วย
นอกจากนี้ในปัจจุบันแซนวิชต้นบัวนั้นมีทั้งหมดประมาณ 10 กว่าไส้ และส่วนมากลูกค้าจะชื่นชอบแซนวิชไส้โบราณเป็นหลักและเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านอีกด้วย ทั้งนี้ในเวลา 1 วันสามารถผลิตขายได้ประมาณเกือบ 100 ชิ้น ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นก็ลดการผลิตลงเหลือวันละประมาณ 70-80 ชิ้น
ปัจจุบันขายทั้งหน้าร้าน ไฟแดงถนนเกษตร-นวมินทร์ ตอม่อ 251 และเดลิเวอรี่ เช่น แอปพลิเคชั่น Line Man และในตอนนี้ก็มีแบรนด์ขนมปังชื่อดังเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์และจับมือร่วมธุรกิจเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้แซนวิชต้นบัวมีราคาเริ่มต้นที่ 25-30 บาทต่อชิ้น
ทั้งนี้จุดเด่นหลักๆ ของแซนวิชต้นบัวคือ ความสด ใหม่ และสะอาด ซึ่งทางร้านจะเน้นที่ 3 อย่างนี้เป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีมีคุณภาพกลับไป นอกจากนี้แซนวิชต้นบัวยังได้รับมาตรฐาน อย. อีกด้วย รวมถึงแซนวิชต้นบัวนั้นสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิห้องได้ประมาณ 2 วันและในตู้เย็นประมาณ 7 วัน
อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจในอนาคตนั้นทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดให้ไปในทิศทางของการเปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการ โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการและดูสถานการณ์ของโรคโควิด-19 นี้ และพัฒนาปรับปรุงสูตรเพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัวมากที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : แซนวิชต้นบัว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *