จากความชอบส่วนตัวและหลงใหลในชุดแฟชั่นทำให้สาวม้งอย่าง ปราณี แสนยากุล สนใจที่จะเรียนต่อด้านการตัดเย็บเสื้อผ้า และมาเปิดเป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยมีชื่อแบรนด์ว่า Ying Liu เป็นการนำเอาชุดแฟชั่นผสมผสานเข้ากับความเป็นวัฒนธรรมชนเผ่าม้งรวมไว้ด้วยกันจนกลายเป็นชุดม้งแฟชั่นที่ดูทันสมัยและมีจุดเด่นที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
นางสาวปราณี แสนยากุล เจ้าของธุรกิจชุดม้งแฟชั่น แบรนด์ Ying Liu เล่าว่า จุดเริ่มต้นการสร้างธุรกิจนั้นเริ่มต้นมาจากการที่เคยดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับเดินแฟชั่นโชว์ ที่นางแบบจะใส่ชุดเสื้อผ้าสีสันสวยงาม ตนจึงรู้สึกชื่นชอบ ประจวบกับครอบครัวเปิดร้านขายเสื้อผ้าม้งและตนก็ได้มีโอกาสช่วยขายและซึมซับการตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่บ้านจนกระทั่งจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก็ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนสอนตัดเสื้อเสริมสวยและการออกแบบนิรันดร์รัตน์ สาขาเชียงใหม่ เพื่อนำเอาองค์ความรู้ที่ได้ศึกษามาต่อยอดการผลิตชุดม้งให้แปลกใหม่และทันสมัยมากขึ้น ปัจจุบันเปิดเป็นแบรนด์ชุดม้งแฟชั่นชื่อว่า Ying liu และดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 4 ปี
ทั้งนี้ชุดม้งแฟชั่นของทางร้านนั้นมีจุดเด่นและลักษณะพิเศษตรงที่ทางแบรนด์พยายามออกแบบชุดม้งให้ออกมาไม่ซ้ำกับชุดของไทยหรือประเทศอื่นๆ เนื่องจากชุดม้งโบราณที่ทางชนเผ่าม้งใส่เป็นประจำนั้นกลายเป็นชุดที่จำเจและดูไม่ทันสมัย ทางแบรนด์จึงพยายามออกแบบให้ดูแตกต่างมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นชนเผ่าม้งเอาไว้ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาอย่างช้านาน และเป็นชุดที่สามารถใส่ได้ทุกโอกาส
นอกจากนี้ชุดม้งของทางร้านนั้นจะมีทั้งชุดม้งโบราณและชุดม้งแฟชั่นที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนชนเผ่าม้งและกลุ่มอื่นๆ ที่ชื่นชอบชุดแฟชั่น รวมถึงทางร้านนั้นพยายามเน้นไปที่ชุดราตรีที่ให้กลิ่นอายความเป็นชนเผ่าม้งอีกด้วย ซึ่งเจ้าของแบรนด์จะออกแบบชุดเองเป็นหลักซึ่งจะนำไอเดียมาจากการค้นคว้าต่างๆ มาดัดแปลงและประยุกต์เข้ากับชุด ส่วนมากกลุ่มลูกค้าในช่วงแรกนั้นทางแบรนด์จะเน้นที่ลูกค้าชาวม้งในประเทศไทยเป็นหลัก รวมถึงลูกค้าชาวม้งที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ
สำหรับการทำการตลาดของทางร้านนั้นทางแบรนด์จะเน้นการตลาดแบบชาวบ้าน ก็คือเปิดเป็นร้านขายผ้า โดยในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น วันปีใหม่ ก็จะมีลูกค้าให้ความสนใจมากกว่าวันธรรมดา รวมถึงใน 1 ปี ทางร้านจะผลิตชุดโดยไม่ซ้ำแบบประมาณ 10 ชุด เพื่ออัปเดตแก่กลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยได้รับรู้ ทั้งนี้ในสมัยก่อนชุดม้งจะถูกทำมาจากผ้าใยกัญชงและเป็นการปักมือทั้งหมด แต่ในยุคม้งกลางเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากจำเป็นต้องเร่งในการผลิตและการแข่งขันของราคาเข้ามาเกี่ยว ทำให้จำเป็นต้องลดกำลังคนและวัสดุลง โดยจะใช้ผ้าปักจักรเป็นหลัก และในปัจจุบันจะใช้ผ้าลักษณะคล้ายผ้าทอและผ้าเทปจีนในการผลิตผ้าและชุดม้งต่างๆ เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าการผลิตในยุคอดีต
ทั้งนี้ลูกค้าจะมีทั้งมาซื้อที่เป็นชุดสำเร็จรูปและมาสั่งตัดเย็บใหม่ โดยจะมีการพูดคุยเพื่อให้ได้แบบที่ลงตัว และทางร้านจะเน้นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับการนำเอาวัฒนธรรมผ้าชาวม้งมาดัดแปลงและประยุกต์เข้าด้วยกันจนกลายเป็นชุดแฟชั่นที่สวยงามและไม่เหมือนใคร ซึ่งส่วนมากลูกค้าจะชื่นชอบการสั่งตัดเย็บชุดใหม่มากกว่าซื้อชุดสำเร็จรูปของทางร้านประมาณ 75% ซึ่งใน 1 ชุด ถ้าเป็นงานที่เร่งรีบจะสามารถตัดเย็บแล้วเสร็จภายใน 1 วัน และถ้าเป็นงานที่ไม่เร่งรีบจนเกินไปก็จะอยู่ที่ 3-4 วันเสร็จสิ้น
ในปัจจุบันทางร้านจะมีทั้งชุดผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งช่วงแรกทางร้านจะเน้นที่ชุดผู้หญิงเป็นหลักแต่ในช่วงหลังนั้นเริ่มมีลูกค้าต้องการเป็นชุดผู้ชายเพิ่มขึ้น ทางร้านจึงมีการตัดเย็บเป็นทั้งชุดผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึงมีเป็นชุดเซ็ตคู่อีกด้วย และชุดผู้หญิงส่วนมากจะเน้นเป็นชุดกระโปรงมากกว่าชุดกางเกง และในตอนนี้ทางร้านได้เปิดขายที่เพจเฟซบุ๊ค และมีหน้าร้านในอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ และกำลังดำเนินการวางขายผ่านช่องทางอินสตาแกรม
ความไม่ตั้งใจแต่กลับเป็นที่นิยมและสนใจเพิ่มมากขึ้นจากการลงคลิปวิดีโอผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิงอย่าง TikTok เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า “ไม่ได้ตั้งใจจะขายใน TikTok เพียงแต่เป็นการกระจายข้อมูลชุดม้งแฟชั่นออกสู่สายตาสาธารณะเท่านั้นเอง ไปเห็นคนอื่นเขาทำน่าสนใจดี จึงอยากทำบ้าง รวมถึงเปิดบัญชี TikTok มาเพื่อเข้าไปศึกษาแบรนด์เสื้อผ้าตัดเย็บร้านอื่นๆ เพื่ออัปเดตและหาไอเดียในการผลิตผ้าเท่านั้นเอง แต่พอเราลงคลิปวิดีโอไปแล้วกลับมีคนสนใจและสอบถามเข้ามาจำนวนมาก จนทำให้ในตอนนี้หัววุ่นเหมือนกัน”
สำหรับราคานั้นจะมีตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักหมื่น ซึ่งหลักร้อยเป็นเสื้อ 1 ตัว หรือกางเกง 1 ตัว โดยกางเกงผู้หญิงจะอยู่ที่ราคา 170 บาท ส่วนกางเกงผู้ชายจะอยู่ที่ราคา 300-600 บาท ส่วนราคาหลักหมื่นนั้นจะเป็นชุดราตรีและชุดที่มีรายละเอียดเยอะ และส่วนใหญ่จะใช้ผ้าไหมซาตินและผ้าดัชเชส นอกจากนี้ตั้งแต่เปิดแบรนด์มาจนถึงปัจจุบันมีฟีดแบกจากลูกค้าและผลตอบรับค่อนข้างดี
นอกจากนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างต่อเนื่องอยู่ ณ ขณะนี้นั้นทำให้ทางร้านได้รับผลกระทบทั้งร้าน ซึ่งทางร้านจะได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ชาวม้ง เพราะในช่วงเทศกาลดังกล่าวนั้นคนม้งจะมีการแต่งตัวด้วยชุดม้งสวยงาม และทางร้านก็เปิดเป็นร้านชายชุดม้ง เมื่อมีโควิด-19 เข้ามาและภาครัฐมีมาตรการเว้นระยะห่างและงดจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากนั้น ทำให้งานดังกล่าวไม่ได้จัดขึ้น ทางร้านก็ไม่มีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อชุด นอกจากจะมีลูกค้าที่ต้องการใส่ชุดม้งจริงๆ ในงานแต่งงานหรืองานศพ เป็นต้น และเมื่อได้รับผลกระทบดังกล่าวทางร้านก็หันมาเน้นการขายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการผลักดันชุดม้งแฟชั่นสู่เวทีโลก ทางร้านจึงมีแผนพัฒนาและปรับปรุงชุดม้งแฟชั่นให้สามารถก้าวสู่สายตาคนทั่วโลกได้ และปรับปรุง ออกแบบชุดให้แตกต่าง ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงผสมผสานความเป็นชาวม้งลงบนผืนผ้าเอาไว้
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Ying Liu
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *