13 สิงหาคม 2564 - กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) โชว์ผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการ ความรู้เบื้องต้นในการประกอบุรกิจส่งออกจำนวน 140 รุ่น มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการมากกว่า 14,000 ราย โดยในปี 2564 ได้จัดอบรมผู้ประกอบการรุ่นที่ 139 และรุ่นที่ 140 จำนวน 208 ราย ผ่านระบบออนไลน์ อัดแน่นองค์ความรู้และเทคนิคอย่างหลากหลาย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการดำเนินโครงการ “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบุรกิจส่งออก” รุ่นที่ 139 และรุ่นที่ 140 ได้เห็นความตั้งใจของผู้ประกอบการกว่า 200 คน ที่ได้ร่วมโครงการ ช่วยยกระดับสถานะของธุรกิจไปสู่การเป็น “ผู้ส่งออก” นำรายได้เข้าประเทศมากขึ้น
หลักสูตรดังกล่าวว่ามีหลายองค์ความรู้ เช่น การบริหารจัดการธุรกิจไปภายในประเทศเบื้องต้น ไปจนกระทั่งถึงการส่งออก พิธีการศุลกากร ระเบียบ และอีกมากมาย ในปีนี้จะไม่สามารถจัดฝึกอบรมและให้ความรู้ในรูปแบบปกติได้ เนื่องด้วยปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด – 19 แต่ก็เป็นการจัดฝึกอบรมออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรู้จักที่จะปรับตัว และเป็น รูปแบบที่จะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ทั่วทุกภูมิภาค และยังชี้ให้เห็นถึงกฎเกณฑ์และกติกาการค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตามบริบทต่าง ๆ ซึ่งผู้ประกอบการต้องไปศึกษาไปดูว่ามีกฎเกณฑ์กติกาที่เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เรียนรู้และก้าวเข้าสู่โลกสากลได้อย่างมั่นใจ และพาธุรกิจไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) มีความมุ่งมั่นเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการค้าของประเทศ ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก” มาอย่างต่อเนื่องกว่า 43 ปี ดำเนินการอบรมไปแล้ว 140 รุ่น และมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการมากกว่า 14,000 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล และบุคคลทั่วไปที่สนใจด้านการค้าระหว่างประเทศจากทั่วประเทศ
สำหรับในปี 2564 สถาบัน NEA ได้มีการพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัยและตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ในหลักสูตร “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก” จำนวนทั้งหมด 2 รุ่น คือรุ่นที่ 139 และ รุ่นที่ 140 ซึ่งรุ่นที่ 139 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 106 ราย และโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ รุ่นที่ 140 ซึ่งกำหนดจัดในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการที่เป็นผู้ประกอบการนิติบุคคล และบุคคลทั่วไปที่สนใจด้านการค้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 102 ราย
“ สถาบันฯ ได้มอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ อาทิ ใบประกาศนียบัตร การมอบโล่รางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดเขียนแผนธุรกิจ สิทธิในการเข้าร่วมโครงการ SMEs Pro Active และการเชื่อมโยงเครือข่ายทางการค้ากับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในรุ่นต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้สร้างโอกาสให้ผู้ที่ผ่านการนำเสนอแผน 3 ท่านรับสิทธิเข้าร่วมสกู๊ปพิเศษรายการ อายุน้อยร้อยล้านเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ซึ่งได้แก่ รุ่นที่ 139 คุณชานนท์ ศิริวงศ์ บริษัท ไทย นิปปอน รับเบอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงยางอนามัย Playboy คุณจิราภรณ์ ไกลบาป ทุเรียนหมอนทองสดและแปรรูปเกรดพรีเมี่ยม แบรนด์ BIEW FRUIT EXPORT คุณคุณวรพร มุสิกบุตร และคุณวรฤดี มุสิกบุตร บริษัท ควอลิเบบี้ จำกัด เบาะรองนอนสำหรับเด็กทารก แบรนด์ Airy Bedding รุ่นที่ 140 คุณนรินทร์ ตันตราธิษฐาน ผู้ผลิตผลไม้สดแปรรูปแช่เย็นพร้อมทาน ที่สามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้กว่า 8 เท่า คุณสิทธา แสงเงิน บริษัท เต็มเต็ม ฟู๊ด แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตแคบหมูไร้มัน แบรนด์ เต็มเต็ม และคุณอมต ชัยเกรียงไกร บริษัท อมต อินโนเวชั่น จำกัด ผู้ผลิตบำรุงผิว AMT Skincare”
นายชานนท์ ศิริวงศ์ ผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการความรู้เบื้องต้นในการประกอบุรกิจส่งออก รุ่นที่ 139 กล่าวว่าบริษัท ไทย นิปปอน รับเบอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงยางอนามัย Playboy กว่า 180 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันอยู่ในอุตสาหกรรมนำเข้าส่งออกอยู่แล้ว แต่ที่สมัครเข้าร่วมอบรมเพราะต้องการอัพเดทเทรนและความรู้ด้านการส่งออก ซึ่งมองว่ากระทรวงพาณิชย์มีหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งโครงการนี้ช่วยให้เราสามารถเข้าใจในภาพรวมของการส่งออก เป็นหนึ่งในโครงการแนะนำสำหรับทั้งมือใหม่ที่เริ่มต้น รวมถึงคนที่ทำส่งออกอยู่แล้ว และต้องการ update ความรู้ใหม่ๆในแวดวงการส่งออกครับ
นายนรินทร์ ตันตราธิษฐาน ผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการความรู้เบื้องต้นในการประกอบุรกิจส่งออก รุ่นที่ 140 กล่าวว่า ตนเป็นผู้ผลิตผลไม้สดแปรรูปแช่เย็นพร้อมทาน ผ่านเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ที่สามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้กว่า 8 เท่า โดยยังคงความสดใหม่ และได้รสชาติดั้งเดิม ซึ่งสนใจส่งออกไปยังประเทศที่มีความชื่นชอบผลไม้ไทย อย่างญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ จึงสมัครเข้าร่วมอบรม เพราะต้องการทราบพื้นฐานการส่งออก อย่างการเตรียมผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนและข้อกำหนดในที่จำเป็น นอกจะได้ความรู้ตามที่ต้องการแล้ว ยังได้มารู้จักวิธีการวางแผนธุรกิจในภาพรวม ทำให้วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน และเพิ่มเติมเนื้อหาไปในเรื่องของการคำนวนต้นทุนที่แตกต่างจากราคาในประเทศ ซึ่งจะทำให้ไม่ผิดพลาดในในการส่งออกอีกด้วย ขอขอบคุณ ได้จัดการอบรมดีๆ และ share ความรู้ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมก่อนการส่งออก