บัวลอย ขนมโบราณที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน และเป็นเมนูขนมหวานที่ดูจะเป็นที่ชื่นชอบหลายๆ คน ดูได้จากเศรษฐีพ่อค้าบัวลอยที่มีอยู่กันแทบทุกจังหวัด แต่ วันนี้ เรามีบัวลอยสูตรโบราณจากจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ขายมากว่า 60 ปี มานำเสนอ ร้านนี้มีดี ตรงทายาทรุ่นที่ 3 หนุ่มหล่อ เทรนเนอร์ที่มีดีกรี เป็นถึงนิสิตจุฬาฯ เจอพิษโควิดกลับบ้านมาสานต่อกิจการขายบัวลอยโบราณสูตรอาม่า
สร้างครอบครัวจากบัวลอยสูตรอาม่า มากว่า60ปี
นายวัชพล ทองมูลดี “เฟิร์ส” เจ้าของร้านบัวลอยไข่หวาน หน้าวัดประตูสาร สุพรรณบุรี เล่าว่า ตนเองได้เริ่มต้นมาขายบัวลอย เมื่อตอนช่วงเริ่มมีสถานการณ์โควิดระลอกแรก ตอนนั้น ผมทำงานประจำ คือ เป็นเทรนเนอร์อยู่ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ผมก็ได้จังหวะช่วงนั้น กลับบ้านและมาสานต่อกิจการของครอบครัว ตามที่เคยได้คุยกันไว้ นั่น คือ การขายบัวลอยไข่หวาน สูตรโบราณของอาม่า ที่ทำขายมามากกว่า 60 ปี
สำหรับการมาสานต่อกิจการ บัวลอยไข่หวานอาม่า สูตรโบราณ หน้าวัดประตูสาร ครั้งนี้ “เฟิร์ส” บอกว่า เค้าเป็นรุ่นที่ 3 เพราะก่อนหน้านั้นพ่อกับแม่ รับมรดกการขายบัวลอยต่อจากอาม่า โดยที่สูตรการทำบัวลอยในสมัยที่อาม่าทำขาย จนตกมาถึงตนเองในวันนี้ ยังคงเหมือนเดิม ที่มีเพิ่มขึ้นมาคือ การนำเครื่องไม้ เครื่องมือ เทคโนโลยีมาช่วยให้การทำบัวลอยง่ายขึ้น ไม่ต้องทำมือทุกขั้นตอน เหมือนในสมัยอาม่าขาย
จุดขายทำให้บัวลอยอาม่าประสบความสำเร็จ
สำหรับจุดเด่นของบัวลอยไข่หวานอาม่า วัดประตูสาร หลายคนที่ได้กินจะบอกเหมือนกันถึงรสชาติที่เข้มข้น และสดใหม่ “เฟิร์ส” หนุ่มหล่อเจ้าของร้านทายาทรุ่นที่ 3 บอกว่า เดิมอาม่า ทำสดใหม่เองทุกวัน กะทิคั้นสดๆ และแป้งต้องทำกันสดๆ ผ่านมาถึงวันนี้ ทุกอย่างยังคงสูตรการทำเหมือนดั้งเดิมที่อาม่าทำขาย เป็นเหตุผลที่ทำให้ครอบครัวของเรายังคงขายมาได้นานถึง 60 ปี โดยที่ลูกค้าก็ยังแน่นร้านเหมือนเดิม
“อาม่า และครอบครัวของผม ดูแลครอบครัวมาได้จนมีทุกอย่างในวันนี้ รวมถึงส่งให้ “เฟิร์ส” เรียนจบปริญญาตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้แบบสบายๆ ก็มาจากบัวลอยของอาม่า โดยอาม่าทำบัวลอยขายอยู่หน้าวัดประตูสาร สุพรรณบุรี ตรงนี้มาตั้งแต่ผมยังไม่เกิด เราไม่เคยย้ายไปขายที่ไหนลูกค้าเคยกินตั้งแต่สมัยอาม่าขาย วันนี้ เค้าก็ยังมากินกันอยู่ ลูกค้าไม่ได้ลดลงมีแต่เพิ่มขึ้นตลอด”
สำหรับราคาบัวลอย ในสมัยอาม่าขายเริ่มต้นที่ถ้วย/ถุงละ 10 บาท ใส่ไข่ 12 บาท พอมาถึงรุ่น ที่พ่อกับแม่เฟิร์ส ขายตอนนั้น มีขยับราคาขึ้นมาบ้างตามราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น เป็นถุง/ถ้วยละ 15 บาท 18 บาท จนปัจจุบันขายถ้วย/ถุง 20 บาท ใส่ไข่ 25 บาท เป็นราคาที่พ่อกับแม่ขายมาสักระยะหนึ่ง”
จากขายวันละ 5,000 บาทเพิ่มหลักหมื่น
หลังได้หนุ่มหล่อทายาทสานต่อกิจการ
พอถามถึงรายได้ “วัชรพล” เล่าว่า ปกติลูกค้าบัวลอยไข่หวานอาม่า เยอะมาตั้งแต่สมัยอาม่าขาย ผ่านมายุคที่สอง ที่พ่อกับแม่ขายลูกค้าเยอะเหมือนเดิม แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้จักและกินกันมาตั้งแต่ยุคอาม่า ลูกค้าใหม่ก็มีบ้าง ส่วนใหญ่จะรู้จักบัวลอยของเรามาก่อนหน้านี้แล้ว จากการบอกกันแบบปากต่อปาก และเป็นคนในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี คนต่างจังหวัดถ้ามาสุพรรณ ก็จะแวะมาซื้อบัวลอย ยอดขายวันหนึ่งไม่เกิน5,000 บาท ถึง6,000 บาท”
ทั้งนี้ เมื่อร้านบัวลอย วัดประตูสาร ได้ทายาทรุ่นที่ 3 กลับบ้านมาปักหลักขายอย่างจริงจัง ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ช่วยเหมือนก่อน เค้าได้เริ่มนำเทคโนโลยีที่คนรุ่นใหม่ถนัด เข้ามาใช้เพิ่มยอดขายให้กับกิจการร้านบัวลอยอาม่า โดยมีการแนะนำบัวลอย ผ่านช่องทางโซเชียลฯ หน้าเพจส่วนตัวบ้าง เปิดเพจของทางร้าน รวมถึงการนำไปโปรโมทผ่าน เพจของมหาวิทยาลัย ที่เขาเคยเรียนในฐานะศิษย์เก่า cu marketplace มีคนเอาไปแชร์ต่อๆ กัน ทำให้มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น
โดยทางร้านไม่ได้แค่ขายหน้าร้าน แต่ยังเปิดรับออกงานนอกสถานที่ พอมีคนรู้จักผ่านโซเชียลฯ ก็มีคนมาสั่งไปออกร้านงานต่างๆมากขึ้น และประกอบกับมีผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณ ทำให้จากเคยขายวันละ 5,000 บาทหน้าร้าน เพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดที่เคยขายได้ถึง วันละ 20,000 บาท เพิ่มขึ้นหลายเท่า รายได้ต่อเดือนสูงไปถึงหลักแสนบาท ”
โลกโซเชียลฯ แห่แชร์ติดแฮชแท็กแจ้งเกิดร้านเล็กดังในข้ามคืน
“หลังจากที่ผมกลับมาช่วยขายบัวลอย โชคดีที่ปัจจุบันช่องทางออนไลน์ เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนเข้าถึงมันได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นโอกาสให้ร้านเล็กอย่างผมได้โปรโมทขายสินค้าของตัวเองได้ โดยไม่ต้องลงทุน เราก็สามารถสร้างคนติดตามจำนวนมากได้ เป็นโอกาสที่ร้านเล็กแบบผมจะขายของให้ได้มากๆมีความเป็นไปได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนของอร่อยยังไง ก็ได้แค่บอกกันแบบปากต่อปาก จะทำให้ได้รู้จักทั่วประเทศในเวลาอันรวดเร็วแถบจะเป็นไปไม่ได้เลย”
สำหรับร้านบัวลอยไข่หวานอาม่า สูตรโบราณ เปิดขายทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เริ่มตั้งร้านขายตั้งแต่ 15.30 น ถึง 20.30 น. ร้านบัวลอยร้านนี้ ใช้เวลาขายเพียง 3-4 ชั่วโมงขายหมด ด้วยลูกค้ามีจำนวนมาก ทำให้ต้องมีบัตรคิว ภาพที่ออกมาผ่านสื่อช่องทางโซเชียลฯ คือ คนมารอต่อคิวกันเป็นแถวยาว ทำให้เกิดการบอกต่อในโลกออนไลน์ บวกกับภาพของคนขายที่เป็นหนุ่มหล่อ ที่สาวแอบเอาไปแชร์กัน ก็เลยทำให้สาวๆ ก็อยากจะมาชิมขนมบัวลอย ของร้านนี้ ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ทำให้ ยอดขายบัวลอยเพิ่มขึ้น หลังจากทายาทรุ่นที่ 3 เข้ามาสานต่อกิจการ
เปลี่ยนคำดูถูก มาเป็นแรงผลักดัน
วัชรพล เล่าว่า หลังจากที่ตนเองได้ตัดสินใจมาขายบัวลอย คนในพื้นที่มองว่าเรียนจบมาตั้งสูง ทำไมกลับมาขายบัวลอย แต่ไม่ได้รู้สึกกับคำพูดเหล่านั้น เปลี่ยนคำดูถูกให้เป็นแรงผลักดัน และเราแสดงให้เค้าเห็นว่าการขายบัวลอยไม่ใช่อาชีพที่ใครจะมาดูถูกได้ เพราะมันทำให้เราได้จับเงินแสนเงินล้านได้เหมือนกับอาชีพอื่น ผมก็เลยต้องพยายามและทำให้คนที่เคยดูถูกเราได้เห็นว่า อาชีพขายบัวลอยนี้แหละทำให้เรามีเงินและร่ำรวยได้เหมือนกับคนอื่นๆ
“ก่อนหน้านั้น ครอบครัว พ่อกับแม่ ก็ต้องการให้เรากลับบ้านและมาช่วยขายบัวลอย เพราะพ่อแม่ก็อายุเยอะแล้ว ไม่มีคนช่วย รายได้ตรงนี้มันก็ค่อนข้างเยอะเค้าทั้งสองคนไม่อยากจะเลิก หรือทิ้งไป ผมก็เห็นว่าเป็นอาชีพอิสระ และเราก็เป็นเจ้าของกิจการเอง ที่สำคัญได้กลับมาช่วยแบ่งเบาพ่อกับแม่ให้เค้าทำงานน้อยลง”
วัชรพล เล่าว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนั้น ครอบครัวคิดอยากจะให้เข้ารับราชการ แต่ไม่ได้รับราชการหันไปทำงานเอกชน เป็นเทรนเนอร์ รายได้จากการเป็นเทรนเนอร์ ตอนนั้นก็ยอมรับว่ารายได้ที่ดีเลยที่เดียวสำหรับผม เดือนหนึ่งประมาณ 3หมื่นบาทขึ้น ก็เลยยังไม่อยากจะกลับมาขายบัวลอย ผมได้ทำงานเป็นเทรนเนอร์นานกว่า 10 ปี และด้วยสถานการณ์โควิด-19 ก็เลยได้กลับบ้าน และมาสานต่อกิจการของพ่อกับแม่ ในการขายบัวลอย อย่างที่ครอบครัวต้องการให้ทำ
ติดต่อ FB:บัวลอย วัดประตูสาร
คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
