xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)Pok Pok ปรับไอเดียรถพุ่มพวง มาขายอาหาร จัดร้านดังๆเสิร์ฟถึงที่แบบไม่คิดค่าส่ง ผ่านแอปพลิเคชั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายนัฐพงษ์ จารวิจิต (ซ้าย)  และ นายประทีป ดลสุจิต (ขวา)
สถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจรับส่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นทางเลือกในช่วงที่หลายๆคนต้องทำงานอยู่บ้าน หรือ กักตัวอยู่กับบ้าน แต่วันนี้ รถส่งอาหาร ของเราต่างจาก รถส่งอาหารทั่วไป เพราะ ผู้ประกอบการสตาร์ทอัป คนไทย ได้คิดค้น การส่งอาหาร ที่บวกเอาความดั้งเดิม ของรถพุ่มพวง กับ รถป๊อกป๊อก ขายบะหมี่ เกี้ยว มาเข้าไว้ด้วยกัน ออกมาเป็น รถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ Pok Pok


ที่มาของ Pok Pok รถขายอาหารเคลื่อนที่

นายนัฐพงษ์ จารวิจิต ผู้ก่อตั้ง รถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ ป๊อก ป๊อก Pok Pok เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่มาทำรถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ Pok Pok มาจากในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ตนเองต้องใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่เป็นประจำ ซึ่งการเรียกใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่การให้บริการ เพราะด้วยค่าจัดส่งคิดตามระยะทาง ทำให้เราเรียกใช้บริการแค่ในพื้นที ซึ่งห่างจากที่พักไม่เกิน 3-5 กิโลเมตร ซึ่งการกินอาหารแบบนั้นบ่อย ก็รู้สึกเบื่อ อยากกินอาหารในย่านที่มีร้านอาหารดังๆ และอร่อยๆ ซึ่งไกลจากบ้านของเรามาก ต้องเสียค่าบริการแพงมาก อาจจะต้องจ่ายค่าขนส่งเป็นร้อยบาท แพงเกินไปกว่ากำลังที่เราจะจ่ายได้ ในแต่ละมื้อ

ด้วยเหตุนี้เอง ผมและเพื่อน “ประทีป ดลสุจิต” Cofounder ร่วมกันคิดไอเดียของ “รถป๊อกป๊อก( Pok Pok)” นี้ขึ้นมา ซึ่งที่มาของไอเดียรถป๊อก ป๊อก มาจากทุกวันผมจะเห็นรถพุ่มพวง มาขายของในหมู่บ้าน แต่รถพุ่มพวงที่มาให้บริการเราถึงหน้าบ้าน ขายเฉพาะวัตถุดิบไม่ตอบโจทย์คนเมืองในยุคปัจจุบัน ที่ส่วนใหญ่ต้องการอาหารสำเร็จรูปเหมือนผม เพราะไม่ถนัดและไม่ชอบทำอาหารเอง แต่ในรถพุ่มพวงไม่มีอาหารมาขาย ส่วนชื่อ Pok Pok มาจากรถขายบะหมี่เกี้ยว ที่เวลาเข้ามาในหมู่บ้านก็จะเคาะเรียกลูกค้าเป็นเสียงป๊อก ป๊อก ก็เลยออกมาเป็น “แอปพลิเคชั่น Pok Pok รถขายอาหารเคลื่อนที่”


ไอเดียมาจากรถพุ่มพวง จากส่งวัตถุดิบมาเป็นส่งอาหาร

ทั้งนี้ นำไอเดียรูปแบบของรถพุ่มพวงมาปรับเป็นรถขายอาหารเคลื่อนที่ โดยออกแบบภายใน และภายนอกรถให้ดูทันสมัยคล้ายกับการออกแบบรถฟู้ดทรัคส์ ภายในประกอบด้วย ตู้เย็น เตาอุ่นร้อน เพื่อได้เก็บอาหาร และอุ่นร้อนให้ลูกค้าสามารถนำไปรับประทานได้เลย และคุณภาพของอาหารไม่เสียในระหว่างการเดินทาง โดยแหล่งอาหารที่นำมาขายบนรถPok Pok ในแต่ละวัน แตกต่างกันออกไป ในช่วงแรกเลือกอาหารในย่านที่มีอาหารที่ขึ้นชื่อจำหน่าย และหลายคนอยากกิน เช่น อาหารย่านตลาดพลู เยาวราช โชคชัย 4 เป็นต้น ซึ่งย่านไหนดังๆ และมีร้านอร่อย เราก็จะไปซื้อหมุนเวียนมาขายในรถป๊อกป๊อก

ส่วนการให้บริการ เลือกจุดที่มีลูกค้า คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ออฟฟิศ สำนักงาน ในช่วงแรกมีรถเพียง 1 คันก่อน เพื่อทดลองวิ่ง และดูกระแสการตอบรับของลูกค้า ก่อน โดยขับให้บริการอยู่แถวย่านสุขุมวิท บางนา เพราะย่านนั้นจะมีคอนโดมิเนียมหรู อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งป๊อก ป๊อก วิ่งให้บริการมาได้ประมาณ 2 เดือน ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดีมาก ลูกค้าเกือบ 70% เป็นลูกค้าประจำ


บริการทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราเติบโตมาจากการเป็นสตาร์ทอัป แม้การทำรถป๊อก ป๊อก เป็นการให้บริการในแบบออฟไลน์ แต่เพื่อเพิ่มความสะดวกตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่น จึงมีบริการทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ ซึ่งปัญหาที่พบจากรถที่มาขายอาหารหน้าบ้านแบบออฟไลน์ คือ ลงมาเรียกไม่ทัน หรือ อยู่บนคอนโด การลงมาเรียกรถขายอาหารที่ผ่านหน้าคอนโด ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ได้เปิดบริการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น ลูกค้าสามารถสั่งอาหารที่ต้องการกินได้ เราก็จะนำไปส่งให้ แต่ต้องเป็นย่านที่รถป๊อก ป๊อกของเรา ขับผ่านในเส้นทางนั้น

โดยในส่วนของออฟไลน์ คือ รถจะตระเวนออกไปขายเหมือนรถพุ่มพวง ลูกค้าเห็นรถป๊อกป๊อกวิ่งผ่านก็เรียกซื้อได้เลย ซึ่งลูกค้าออฟไลน์จะไม่ทราบว่าต่ละวันเราจะนำอาหารจากย่านไหนมาขาย แต่ถ้าอยากรู้ว่า วันนี้ เราจะมีอาหารจากย่านดังแถวไหนมา และรถจะวิ่งผ่านย่านที่เราอยู่ตอนกี่โมง ลูกค้าก็สามารถเข้าไปดูผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล และแอปพลิเคชั่น Pok Pok ของเราได้


ขาย 4 ชั่วโมง รายได้ 7 พันบาทต่อวันต่อรถหนึ่งคัน

ทั้งนี้ รถป๊อก ป๊อก ไม่ใช่เดลิเวอรี่ ต่เราให้บริการเหมือนรถเมลล์ คือ วิ่งไปตามจุดต่าง ๆ ลูกค้าสามารถดักรอ เพื่อซื้ออาหารของเราได้ และเมื่ออาหารหมด ขากลับเราไปขายย่านไหน ก็จะไปรับอาหารร้านดังในย่านนั้น วิ่งกลับมาขาย ดังนั้น ขาไปและขากลับ ก็จะมีอาหารให้ลูกค้าได้เลือกไม่หมือนกัน ซึ่งไม่ได้มีแค่อาหารคาว แต่มีอาหารหวานด้วย ที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่นำรถป๊อกป๊อก ออกขายเป็นช่วง ตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป ช่วงบ่ายก็หมดแล้ว ใช้เวลาขายประมาณ 3-4 ชั่วโมง รายได้วันหนึ่งประมาณ 7,000 บาท  ถ้าในอนาคต ขยายระยะเวลามาขายช่วงเช้าด้วย แต่ตอนนี้ด้วยข้อจำกัดของ ร้านอาหารที่เราไปรับอาหารมาขาย เปิดร้านสาย ทำให้เราขายได้แค่ ช่วงเที่ยง เป็นต้นไปเท่านั้น 


จัดอาหารร้านดังๆ เน้นราคาไม่เกินร้อยบาท

ในส่วนของราคาอาหารในรถป๊อก ป๊อก “นัฐพงษ์” เล่าว่า เนื่องจากในเบื้องต้น การสั่งอาหารมาขาย ทางเราสั่งซื้ออาหารเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป ราคาอาหารที่ทางร้านขายให้กับเราจะคิดเหมือนกับการขายหน้าร้าน แต่พอไปซื้อบ่อย ๆ สั่งจำนวนเยอะทางร้านก็มีส่วนลดลงมาให้บ้าง แต่ก็ไม่มาก เพราะอาหารที่เราไปซื้อส่วนใหญ่ร้านดัง เขาไม่ต้องขายเราเขาก็ขายได้อยู่แล้ว  ซึ่งราคาอาหารในรถ Pok Pok เราจะบวกเพิ่ม 10 บาท ถึง 15 บาท ต่อชุด จากราคาหน้าร้าน เช่น อาหารราคาหน้าร้าน 50 บาท บวก 15 บาท ขาย 65 บาท โดยไม่คิดค่าจัดส่ง และไม่ได้คิดค่า GP กับทางร้านแต่อย่างใด อาหารที่ทางเราจัดมาขายในรถป๊อกป๊อก จะแบ่งเป็นอาหารคาว 75 % ที่เหลือเป็นอาหารหวาน และเครื่องดื่ม

“ส่วนของอาหารที่เราจัดมาขายในรถป๊อกป๊อก แม้ผมจะเลือกอาหารจากร้านดังๆ ในย่านนั้นๆ แต่ผมพยายามทำราคาให้ไม่สูงมาก โดยจะไม่เกิน 65-70 บาทต่อชุด เพราะโดยส่วนตัวผมไม่ต้องการให้ลูกค้าต้องกินอาหารแพงถึงราคาเป็นหลักร้อย ส่วนหนึ่งมาจากผมนึกถึงตัวเอง เวลากินอาหารในราคาชุดละเป็นร้อย ผมจะรู้สึกว่าไม่คุ้มกับเงินที่เราจ่ายไป ดังนั้น พอผมมาขายอาหาร ก็ต้องการให้ลูกค้าได้อาหารในราคาที่สมเหตุสมผลด้วย โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด เข้าใจว่าทุกคนก็ต้องประหยัดเงินในกระเป๋า”


เปิด 2 เดือน ผลตอบรับดีเกินคาดขยาย 4 เส้นทาง พร้อมเปิดแฟรนไชส์

นัฐพงษ์ เล่าว่า หลังจากเปิดให้บริการมาได้ 2 เดือน ลูกค้าส่วนใหญ่รู้จักเราจากการที่เห็น ป๊อก ป๊อกของเราวิ่งผ่าน และดูช่องทางติดต่อ ที่เขียนติดไว้ข้างรถ และติดต่อเข้ามาเพื่อให้ป๊อก ป๊อก นำอาหารไปขายในพื้นที่อื่นๆบ้าง ตอนนี้มีรถเพียงคันเดียว แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ มีแผนที่จะขยายช่องทางการให้บริการเพิ่มอีก  ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแต่งรถ คาดว่าใกล้ๆ นี้เปิดให้บริการเพิ่มอีก 3 คัน 3 เส้นทาง ทำให้เรามีรถให้บริการทั้งหมด 4 คัน วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน

ในส่วนแผนในอนาคต เนื่องจากมีคนสอบถามเข้ามาจำนวนมาก มีแผนที่จะขยาย รถป๊อก ป๊อกในรูปแบบของแฟรนไชส์ โดยคร่าวๆ จะมี 2 รูปแบบ คือ ถ้าผู้ซื้อแฟรนไชส์มีรถอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายประมาณ 2-3 แสนบาท ในการตกแต่งรถ และอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเราในฐานะสตาร์ทอัป ช่วยด้านการตลาด ผ่านช่องทางออนไลน์แอปพลิเคชั่น และวางแผน บริหารจัดการเรื่องการจัดหาอาหาร 


“ก่อนจะมาทำรถป๊อกป๊อก ผมและเพื่อนอยู่ในวงการสตาร์ทอัป โดยเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม ชื่อว่า ลิลูน่า (Liluna) ทางเดียวกันไปด้วยกัน แต่พอเจอสถานการณ์โควิดระบาด คงไม่มีใครกล้าเดินทางกับคนไม่รู้จัก ทำให้กระทบธุรกิจลิลูน่า แบบเป็นศูนย์ทำให้เราต้องหาช่องทางหารายได้แบบอื่นๆ และในวิกฤติมีโอกาส เห็นว่าธุรกิจเดลิเวอรี่ขยายตัว จึงใช้เวลาราว 4 เดือน พัฒนาโมเดลรถขายอาหารเคลื่อนที่ ป๊อก ป๊อก ขึ้นมา เปิดได้ 2 เดือน ผลตอบรับออกมาดีเกินคาด สื่อให้ความสนใจ และ มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย” นัฐพงษ์ กล่าวในที่สุด

ติดต่อ โทร. 086-352-6870



คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น