ช่วงวิกฤติโควิด-19 เช่นนี้ต่างก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า เช่นเดียวกับเจ้าของร้าน KK-Skate Rack ที่ตกงานในช่วงนี้ แต่ก็แก้ปัญหาโดยการสร้างเป็นธุรกิจครอบครัว เปิดร้านขายชั้นวางสเก็ตบอร์ดตามกระแสความฮอตฮิตในตอนนี้
ก้อย สว่างศรี เจ้าของร้าน KK-Skate Rack เล่าว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ตนก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ทำงานเป็นพนักงานบัญชี อยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ก็ต้องมาตกงานและขาดแคลนรายได้ จึงคิดหาวิธีที่จะทำอย่างไรให้สามารถสร้างรายได้ขึ้นมา
ประกอบกับช่วงนี้เห็นกลุ่ม ดารา นักร้อง และคนทั่วไป ต่างก็หันมาเล่นสเก็ตบอร์ดกันเป็นจำนวนมาก และคิดว่าผู้เล่นหนึ่งคนน่าจะมีสเก็ตบอร์ดไว้ในครอบครองไม่ต่ำกว่า 2 แผ่นแน่นอน จึงผุดไอเดียชั้นวางสเก็ตบอร์ดขึ้นมา
หลังจากนั้นจึงลองผิดลองถูกในการทำชั้นวางอยู่นาน ทั้งในเรื่องของการปรับสี ปรับแบบ ต้องดูในเรื่องของการวางของแผ่น ให้สามารถวางได้ทุกรุ่น ทุกแบบ และไม่ติดล้อ ประกอบกับเป็นคนที่ไม่ได้มีความรู้มาในด้านนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วด้วยแต่เมื่อลงตัว ชำนาญแล้ว มีสินค้าไว้ในสต๊อกจึงเริ่มเปิดเพจเพื่อลองวางขายสินค้า ซึ่งผลตอบรับก็ค่อนข้างดีมาก ปัจจุบันก็เปิดร้านมาได้ 2 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ชั้นไม้ สำหรับวางสเก็ตบอร์ด ทำมาจากไม้ยางพารา และทาสีเคลือบไม้ให้อีก พร้อมทั้งมีผ้าสักหลาดเพื่อป้องกันการเกิดรอยของแผ่นสเก็ตบอร์ด ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสีได้ มีตั้งแต่ 2 ชั้น ไปจนถึง 8 ชั้น มีทั้งแบบมีหูหิ้วและไม่มีหูหิ้วให้ลูกค้าเลือก รุ่นใหม่ที่ทางร้านเพิ่งออกสู่ตลาดคือรุ่นพกพา 2 ชั้นคือลูกค้าสามารถพกขึ้นรถไปด้วยได้ และราคาจะเริ่มต้นที่ 599 - 2,000 บาท ทางร้านจัดส่งให้ทั่วประเทศ
อีกทั้งธุรกิจนี้ก็ยังถือเป็นธุรกิจครอบครัวอีกด้วย เนื่องจากได้พี่สาว พี่เขย และพ่อของพี่เขยมาช่วยในการทำร้าน KK-Skate Rack ต่างคนก็แบ่งหน้าที่ของตัวเองไป ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านมาภายใน 2 เดือนสามารถรับออเดอร์ได้มากถึง 300 ชั้น ยอดขายก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ในระดับนึง
ในการขายช่วงแรกๆ ตนเข้าไปบุกช่องทางการขายในออนไลน์โดยเฉพาะ วิธีการคือเข้ายังกลุ่มเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขาย สเก็ตบอร์ด เป็นการโพสต์ขายในแบบออร์แกนิค ลงโพสต์ขายเอง ติดต่อลูกค้าเอง และปิดการขายเองเรียบร้อย เรียกได้ว่าทำเองตั้งแต่งานฝีมือไปจนถึงงานขายเลยทีเดียว
สำหรับตลาดผู้ผลิตชั้นวางสเก็ตบอร์ดนั้นเรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน ซึ่งในแต่ละร้านก็จะมีการดีไซน์ รวมไปถึงวัสดุก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ ตนคิดว่าอาจจะเป็นในเรื่องของวัสดุไม้ยางพาราเป็นวัสดุที่แข็งแรง และการจัดส่งที่รวดเร็วในบางชิ้นงาน เนื่องจากงานของทางร้านเป็นงานที่มือทุกขั้นตอน
แต่หลังจากที่เปิดขายมาผลตอบรับก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะทำให้บางครั้งลูกค้าต้องรอสินค้าผลิต แต่ทางร้านก็พยายามจะแก้ปัญหาโดยการเร่งผลิตเพื่อไม่ให้เกิน 3 วันทำการพร้อมส่ง ซึ่งทางร้านก็ไม่ต้องการให้ลูกค้ารอนานๆ เช่นเดียวกัน กำลังการผลิตของทางร้านชั้นเล็กอยู่ที่ 13ชั้น ต่อวัน ซึ่งชั้นใหญ่ก็ใช้เวลาเพิ่มขึ้น
ในอนาคตก็มีวางแผนไว้คร่าวๆ บ้าง แต่ตอนนี้รูปแบบของทางร้านยังสามารถขายได้อยู่จึงยังไม่ต้องปรับอะไรมาก ถึงแม้จะมีคู่แข่งอยู่หลายรายก็ตาม ถ้าหากยอดการขายของสินค้าชะลอลง ทางร้านก็อาจจะต้องปรับในเรื่องของลูกเล่น ปรับสี ปรับรูปแบบให้ต่างไปจากเดิมมากขึ้น
สนใจติดต่อ โทร 09-3235-1111
เฟซบุ๊ก : KK-Skate Rack
* * *คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด * * *
