xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) One Thing รองเท้าแฮนด์เมด Unisex ฝีมือคนไทยสไตล์มินิมอล กำลังตีตลาดต่างประเทศให้สินค้าไทยบินไกลสู่สายตาต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





รองเท้าแฮนด์เมดที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติและผสมผสานเข้ากับวัสดุที่ผลิตรองเท้าอย่างรองเท้าจากร้าน One Thing ที่เป็นรองเท้าฝีมือคนไทยและยังส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีรายได้เสริมอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นรองเท้าสไตล์มินิมอล สีสันน่ารักไม่ฉูดฉาด เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยทั้งผู้หญิงและผู้ชายหรือยูนิเซ็กส์ ก็สามารถใส่ได้อย่างสบายและลงตัว รวมถึงเป็นแบรนด์ที่กำลังตีตลาดต่างประเทศเพื่อให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงสินค้าที่เป็นฝีมือคนไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย

นางสาวกัลยภรณ์ บุญฤทธิ์ เจ้าของร้านรองเท้าแฮนด์เมด แบรนด์ One Thing
นางสาวกัลยภรณ์ บุญฤทธิ์ เจ้าของร้านรองเท้าแฮนด์เมด แบรนด์ One Thing เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์นั้นเริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวที่ตนและหุ้นส่วนมักจะชื่นชอบการแต่งตัว มีสไตล์เป็นของตัวเอง รวมถึงชอบที่จะตามเทรนด์แฟชั่นต่างๆ อยู่เป็นประจำ และให้ความสำคัญกับเรื่องรองเท้า เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบรองเท้าและอยากทำรองเท้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมถึงทำให้เข้ากับเอกลักษณ์ของตัวเองมากที่สุด จึงเป็นสาเหตุและที่มาของการเปิดแบรนด์รองเท้าแฮนด์เมด One Thing นี้ขึ้นมา และปัจจุบันแบรนด์เริ่มเข้าสู่ปีที่ 3


ทั้งนี้ทำไมถึงเลือกเป็นรองเท้าแฮนด์เมดนั้น เจ้าของร้านให้เหตุผลว่า ต้องการให้คนรู้จักที่บ้านได้มีงานทำและเพิ่มรายได้อีกหนึ่งช่องทาง ตนจึงอยากสนับสนุนชาวบ้านหรือคนในชุมชนได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเป็นรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครอีกด้วย ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับสินค้าแฮนด์เมด ตนจึงเลือกทำเป็นรองเท้าเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด


สำหรับวัสดุที่ทางร้านเลือกนำมาผลิตเป็นรองเท้านั้นหลักๆ ในแต่ละรุ่นจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใส่รายละเอียดลงไปในแต่ละประเภท ซึ่งจะเป็นวัสดุธรรมชาติที่เลือกมา เช่น เชือกปอ ที่นำมาถักขึ้นเป็นหน้าผ้ารองเท้า รวมถึงผ้ากระสอบ ซึ่งจะนำมาผสมกับวัสดุที่ผลิตรองเท้าได้ โดยจะเป็นการผสมผสานความเป็นวัสดุธรรมชาติเข้าไปกับวัสดุที่ทำรองเท้า จะให้ความรู้สึกที่ทันสมัยน่าสนใจและเป็นที่จับตามอง


ความพิเศษและจุดเด่นของรองเท้าในร้านนั้น จะเน้นที่ความมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มีความมินิมอล ใส่ง่าย และใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงหรือที่เรียกว่า ยูนิเซ็กส์ (Unisex) ทุกเพศ ทุกวัย และมีราคาที่จับต้องได้ ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้การออกแบบรูปลักษณ์ของรองเท้านั้นทางร้านเป็นผู้ออกแบบเองและบางครั้งก็จะมีช่างที่ออกแบบส่งแบบมาให้กับทางร้านพิจารณาและทำการปรับปรุงแก้ไขแบบ ให้ออกมาตามคอนเส็ปต์ที่ทางร้านวางไว้ ทั้งนี้สำหรับรองเท้าของทางร้านนั้นจะมี 4 ประเภทหลักๆ คือ 1.รองเท้าแตะ 2.รองเท้าสลิปออน 3.รองเท้าสลิปเปอร์ และ 4.รองเท้ารัดส้น ซึ่งรองเท้าสลิปเปอร์จะเป็นตัวที่ลูกค้าให้ความนิยมมากที่สุด


นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าของทางร้านนั้นจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าในวัยเรียนและวัยทำงาน ซึ่งจะอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 18-35 ปี แต่ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ หรือช่วงอายุอื่นๆที่สนใจก็สามารถใส่รองเท้าของทางร้านได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ทั้งนี้ขนาดของรองเท้านั้นจะได้ขนาดตามมาตรฐานที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถใส่ได้ทุกเพศทุกวัย

สำหรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดของทางร้านนั้น ได้มีการสำรวจในแต่ละช่วงเวลาว่ามีกระแสตอบรับเป็นอย่างไร และจะเน้นการรีวิวสินค้าจากที่ลูกค้าของทางร้านใส่จริง ซึ่งทางร้านมองว่าการได้ทดลองใส่สินค้าจริงจะเป็นการตอบโจทย์และทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจในลักษณะของสินค้าได้เป็นอย่างดี เมื่อได้ใส่แล้วก็สามารถรีวิวให้กับคนอื่นๆ หรือลูกค้าใหม่ได้เข้ามาศึกษาและเพิ่มความต้องการได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากลูกค้าผู้หญิงจะให้การตอบรับดีกว่าผู้ชาย โดยลูกค้าผู้หญิงจะอยู่ที่ 70% และผู้ชาย 30% แต่ส่วนมากผู้หญิงจะซื้อเป็นคู่ให้ตัวเองและคนรัก


ทั้งนี้สำหรับการสต็อคสินค้านั้นทางร้านจะมีสต็อคไว้สำหรับรองเท้าที่ขนาดปกติ ส่วนรองเท้าที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เป็นพิเศษ ทางร้านจะผลิตตามพรีออเดอร์ หรือบางตัวที่ต้องผลิตแบบพิเศษโดยใช้วัสดุที่พิเศษขึ้นมาก็จะผลิตตามการพรีออเดอร์ของลูกค้า นอกจากนี้อายุการใช้งานรองท้าของทางแบรนด์นั้น ถ้าหากใช้งานตามปกติก็สามารถใช้ได้ไม่ต่ำกว่า 2 ปี


นอกจากนี้ทางร้านได้มีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ในการโปรโมทสินค้าอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อเพิ่มการรับรู้จากกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ปัจจุบันได้มีการฝากขายตามร้านมัลติแบรนด์ตามห้างสรรพสินค้ามากมาย และขายออนไลน์ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้สำหรับราคารองเท้านั้นจะเริ่มต้นที่ราคา 380 บาท โดยจะเป็นประเภทรองเท้ารัดส้นและรองเท้าแตะเชือกปอ ส่วนสลิปเปอร์และสลิปออนเริ่มต้นที่ 390 บาท ส่วนไซส์ใหญ่ขึ้นไปจะเริ่มที่ 400 บาท


สำหรับผลกระทบที่ได้จากการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันนั้น ทางร้านก็ได้รับผลกระทบพอสมควร ซึ่งก็ได้มีการปรับตัวและเน้นที่การขายออนไลน์ให้ได้มากที่สุด ทางร้านยังโชคดีที่ขายออนไลน์มาก่อนอยู่แล้วทำให้มีฐานลูกค้าอยู่มากพอสมควร จึงช่วยให้สามารถปรับตัวและยังต่อสู้กับอุปสรรคดังกล่าวได้บ้าง ซึ่งในระยะเวลา 1 เดือน ทางร้านสามารถขายรองเท้าได้ไม่ต่ำกว่า 500 คู่ โดยจะต้องดูยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศควบคู่ไปด้วย


ทั้งนี้ทางร้านมีการส่งออกรองเท้าไปยังต่างประเทศ โดยจะเป็นการส่งออกโดยตรง และลูกค้าที่สั่งสินค้าของทางร้านนำไปขายในเว็บไซต์ของลูกค้าเอง ลูกค้าต่างชาติในตอนนี้หลักๆ จะเป็นลูกค้าโซนเอเชีย เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกงและจีน รวมถึงโซนประเทศออสเตรเลียและโซนอเมริกา ซึ่งเริ่มส่งออกไปยังต่างประเทศประมาณปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผลตอบรับโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทางร้านเองก็ได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการนำสินค้าเข้าไปอยู่ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยได้เริ่มทำการตลาดต่างประเทศไปบางส่วนแล้วแต่ก็ยังอยากต่อยอดให้ได้มากที่สุด ซึ่งเจ้าของร้านมองว่ามีความต้องการที่จะนำรองเท้าแฮนด์เมดที่เป็นฝีมือคนไทยเข้าไปอยู่ในสายตาของต่างชาติให้ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงวางแผนแตกไลน์การผลิตรองเท้าให้เป็นในลักษณะรองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬา รวมถึงรองเท้าหนังและรองเท้าส้นสูงที่ยังคงคอนเส็ปต์ความเป็นงานแฮนด์เมดและมินิมอล รวมถึงนำวัสดุจากธรรมชาติเข้ามาผสมสานเหมือนเดิม

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : One Thing Shop
Instagram : Oneth1ngg
Line : @Oneth1ng
















* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *



กำลังโหลดความคิดเห็น