xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)“ไม้ด่าง” ต้นไม้หลักล้านต่อชีวิต สจ๊วตการบินไทย สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายนิติพันธ์ ลีละสุวัฒนากุล
ในช่วงนี้ อีกหนึ่งกิจการที่เราไม่พูดถึง ก็คงจะตกกระแส นั่น คือ กิจการขายต้นไม้ด่าง คนไทยเริ่มรู้จักไม้ด่างมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่สร้างความฮือฮาอย่างมาก คงเป็นในช่วง 1-2 ปี กระแสมาพร้อมกับสถานการณ์โควิดก็ว่าได้ วันนี้ พามารู้จักกับ สจ๊วตหนุ่มหล่อการบินไทย “เบิร์ด” “นายนิติพันธ์ ลีละสุวัฒนากุล” ผู้พลิกวิกฤตโควิด สร้างโอกาสใหม่ๆ ทำรายได้ไม่ธรรมดา


ก่อนอื่นมาทำความรู้จักไม้ด่างกันก่อน

ต้นไม้ใบด่าง เกิดมาจากปัจจัยตามธรรมชาติ ที่มาจากการกลายพันธุ์ เช่น มอนสเตอร่าด่าง ฟิโลเดนดรอนด่าง พลูด่าง ไทรด่าง หรือชบาด่าง ฯลฯ ในธรรมชาติต้นไม้ส่วนใหญ่จะมีใบสีเขียว การที่ต้นไม้มีใบด่างจะได้สีขาว ครีม เหลือง ชมพู แดง ทำให้สวนมีสีสันสดใสมากยิ่งขึ้น แต่ประเด็นหลักคือ ต้นไม้ด่างนั้นเกิดขึ้นเองได้ยากในธรรมชาติ ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดไม้ด่าง มาจากปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ขาดแสง ขาดสารอาหาร เนื้อเยื่อใบมีอากาศมาก ความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือ เกิดจากโรค ฯลฯ

การตัดแต่งพันธุกรรมก็ถือว่าทำได้ยาก เฉลี่ยได้พันธุ์ไม้ด่างที่สวยแค่ 5% เท่านั้น อีกทั้งยังโตช้าและขยายพันธุ์ยาก ส่วนต้นไม้ด่างบางต้นจะเป็นยีนเด่นที่ขยายพันธุ์ง่ายและโตเร็วก็จะราคาไม่แพง ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมต้นไม้ เช่น เงินไหลมา ออมเพชร พลูด่าง ชบาด่าง บาหยาด่าง หนวดปลาหมึกแคระด่าง เป็นต้น แต่ควรระวังในปัจจุบันในวงการต้นไม้มีการปั่นราคาต้นไม้เหล่านี้ให้มีราคาสูงเกินความเป็นจริงๆ

วามนิยมไม้ด่าง ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย ในต่างประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกา หรือ ในเอเชีย มีการสะสมไม้ด่างหายากเช่นกัน ในเอเชียที่กระแสไม้ด่างมาแรง นอกจากไทยแล้ว เบอร์หนึ่ง คือ เวียดนาม ตามมาด้วย ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย ส่วนในประเทศแถบยุโรป อเมริกา ไม้ด่างเป็นที่นิยมมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นกระแสแรงเหมือนในเอเชียปัจจุบัน


ไม้ด่างอาชีพเสริมสจ๊วตหนุ่มพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

นายนิติพันธ์ “เบิร์ด” เล่าว่า ตนเองได้เข้าสู่วงการเพาะเลี้ยงและขายไม้ด่างมาได้ประมาณ 1 ปี เกิดจากช่วงที่ผ่านมา สายการบินต้องหยุดบิน เพราะสถานการณ์โควิด ทำให้ตนเองขาดรายได้ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายก็ยังคงมีอยู่ ทั้งส่งบ้าน ส่งรถ หรือแม้แต่บัตรเครดิต ในช่วงแรกก่อนจะมาเพาะเลี้ยงไม้ด่างจำหน่าย ตอนนั้น ทำมาหลายไม่ว่าจะเป็นรับของที่สำเพ็งมาขายทางออนไลน์ ซึ่งรายได้ก็แค่พอเลี้ยงตัวเอง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายและหนี้สิน

จนกระทั่งได้มารู้จักกับไม้ด่าง จากการแนะนำของรุ่นพี่ที่ทำงานสายการบินเหมือนกัน ซึ่งเพาะเลี้ยงมาก่อน ตอนนั้น ต้องยอมรับว่า เราไม่มีทุนมากพอจะไปซื้อไม้ด่างมาเลี้ยง เพราะต้นหนึ่งราคาหลักหมื่น รุ่นพี่แบ่งให้มาเลี้ยง และค่อยๆเลี้ยงแต่ยังไม่ได้ขาย จนพี่สาวซึ่งมีสวนเพาะต้นไม้ขาย ส่งไม้ใบเขียวมาให้ลองขายราคาหลักร้อย ตอนนั้น เราไม่ได้รู้จักต้นไม้ดีพอ รู้สึกว่า ต้นไม้ราคาหลักร้อยเลยเหรอและจะมีคนซื้อไหม ปรากฏว่าขายได้ ขายดีด้วย

“พอลูกค้าเยอะขึ้น ผมรับต้นเศรษฐีเงินหนา จากหน้าสวนมาขายเพิ่ม สิบต้น ห้าสิบต้น ร้อยต้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีลูกค้าต่างประเทศติดต่อมาด้วย รวมๆ แล้วขายได้พันกว่าต้น” คุณเบิร์ด เล่า


เริ่มต้นธุรกิจไม้ด่างทุน 20,000บาท ทำรายได้หลักล้านบาท

หลังจากนั้น เริ่มขยับมาขายไม้ด่าง เพราะเริ่มมีทุน ลงทุนครั้งแรกประมาณ 20,000 บาท ขายได้หลายหมื่นบาทเพราะไม้ด่าง คิดราคาเป็นใบ ตอนเราซื้อมามี 2 ใบ เลี้ยงไปใบเพิ่มขึ้น 2 ใบ ถ้าเป็นใบด่าง ราคาแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์แพงสุดใบละหลักแสนบาท ทำให้เราเริ่มมีรายได้จากการจำหน่ายไม้ด่าง พอมีทุนเริ่มไปหาไม้ด่างแบบอื่นๆ ที่เป็นกระแสอยู่ในช่วงนั้น

ทั้งนี้ ผมโชคดีที่เริ่มเร็วกว่าคนอื่นๆ ก็เลยได้ต้นไม้ด่างที่ไม่แพงมากเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งบางสายพันธุ์ตอนนี้ราคาหลักแสน หลักล้าน โดยผมได้เริ่มขายมาได้ประมาณ 1ปี เคยขายได้ราคาสูงสุดหลักล้านบาท ปัจจุบันมีรายได้ไม่แน่นอน แต่อยู่ในหลักแสนบาทเกือบทุกเดือน

สำหรับสายพันธุ์ที่ สจ๊วตหนุ่ม เพาะเลี้ยงในปัจจุบัน ซึ่งเค้าจะเลือกสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม เช่น Syngonium red spot tricolor , Philodendron Jose buono , Monstera Thai constellation ,Syngonium milk confetti ,Syngonium panda ,Monstera mint


“ไม้ด่างที่ผมเพาะเลี้ยง บางต้นก็ขายบางต้นผมเก็บไว้ ต้นที่ผมเพาะเองได้ก็จำหน่ายออกไป เพื่อนำมาเป็นทุน ที่ผมยังไม่ได้ขายออกไปทั้งหมด เพราะต้องเวลา รอให้มันแตกใบใหม่ออกมาเพิ่ม คนที่เพาะเลี้ยงไม้ด่าง สิ่งหนึ่งที่ได้มากว่าธุรกิจ นั่นคือ การได้ลุ้นว่า ใบที่ออกมาใหม่ ด่างไหม และเป็นสีอะไร ซึ่งการเลี้ยงไม้ด่าง เหมือนฝากเงินไว้กับธนาคาร ถ้าออกใบเพิ่มจะได้เงินเพิ่ม การนำเงินไปฝากไว้ในธนาคารออกดอกออกผลไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ตราบใดที่กระแสยังไม่ตก”


ไม้ด่างขายช่องทางออนไลน์เกือบ 100%

สำหรับในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย ไม้ด่างขายกันในออนไลน์เท่านั้น ไม่มีวางขายตามร้านต้นไม้ เพราะด้วยราคาค่อนข้างสูง คนเลี้ยงเก็บไว้ที่บ้าน ดูแลอย่างดี เพราะต้องเข้าใจว่า ไม้ด่างเกิดจากความผิดปกติตามธรรมชาติ การเลี้ยงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความรู้พอสมควร ผมจะแนะนำลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องไปศึกษามาให้ดีก่อน เพราะต้นหนึ่งหลักพัน หลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสน หลักล้าน คนที่ไม่มีความรู้คงไม่มีใครกล้าซื้อไปเลี้ยงอย่างแน่นอน เพราะถ้าเลี้ยงไม่รอดทางผู้ขายก็ไม่ได้รับผิดชอบ แม้จะราคาหลักแสน หลักล้านก็ตาม 

ส่วนลูกค้าไม้ด่าง จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก กลุ่มนักสะสม และกลุ่มที่สอง เทรดเดอร์ ซื้อมาขายไป ซึ่งทั้งสองกลุ่มปนๆ กันไป บางคนก็เป็นทั้งนักสะสมและเป็นเทรดเดอร์ด้วย พอซื้อไปสะสม พอแตกใบ หรือมีหลายต้น ขยายพันธุ์เองได้ ก็นำออกมาขาย เพื่อหาซื้อสายพันธุ์ใหม่ กลุ่มลูกค้ามีทุกช่วงอายุ เช่นกัน 


ผันตัวเป็นทั้งผู้นำเข้า และส่งออกไม้ด่าง

“ผมโชคดี อย่างหนึ่ง คือ ผมพูดได้หลายภาษา ทำใหผมได้ลูกค้าต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา มีลูกค้า ฮ่องกง ไต้หวัน จีน และลูกค้ายุโรป ประกอบกับ เพื่อนของผมทำชิปปิ้ง นำเข้าและส่งออก พอมาทำต้นไม้ เพื่อนก็เลยชวนให้นำเข้าต้นไม้จากต่างประเทศมาขายนักสะสมในประเทศไทย และ ส่งออกต้นไม้ของเราไปขายต่างประเทศ

สำหรับราคาไม้ด่างในต่างประเทศ ราคาสูงกว่าในประเทศไทย เช่น ต้นไม้ที่ผมเพาะได้ ชื่อ Syngonium milk confetti เป็นสายพันธุ์นำเข้าจากเยอรมัน และนำมาเพาะขยายพันธุ์เอง ขายราคาเริ่มต้น 4,000 บาท เป็นสายพันธุ์ที่สามารถเพาะเนื้อเยื่อได้ ราคาไม่แพงมาก ซึ่งจะมีลูกค้าทั้งคนไทยและต่างประเทศ สั่งอย่างน้อย 10 ต้น ผมก็ได้แล้ว 40,000 บาท เป็นรายได้ที่ช่วยต่อชีวิตได้ดีมาก ในช่วงที่เราขาดรายได้ จากสถานการณ์โควิด-19 บางครั้งทำให้เรามีรายได้มากกว่า การทำงานประจำเสียอีก


แจ้งเกิดเศรษฐีหน้าใหม่ในช่วงโควิด

นายนิติพันธ์ เล่าว่า ในส่วนของรายได้จากการขายไม้ด่าง เป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน แต่เวลาได้ค่อนข้างเยอะมาก บางเดือนสามารถทำรายได้ให้ถึงหกหลัก เจ็ดหลัก อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นแค่อาชีพเสริมในตอนนี้ เพราะถ้าสถานการณ์กลับมาปกติ ผมก็จะยังคงกลับไปเป็นสจ๊วตการบินไทยต่อไป ซึ่งการขายต้นไม้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลามาก พอเรารู้วิธี การดูแลก็จะง่าย สามารถเอาเวลาว่างหลังจากหยุดบิน มาดูแลต้นไม้ หรือ ขายต้นไม้ได้ ทำให้เรามีรายได้สองทาง ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และหนี้สินให้หมดเร็วยิ่งขึ้น

“เบิร์ด” ยังได้เล่าถึง กระแสของไม้ด่างว่า ทำให้หลายคนร่ำรวยมีเงิน ซื้อบ้าน ซื้อรถกันมาแล้ว ตอนแรกผมไม่เชื่อแต่วันนี้ พอได้มาอยู่ในวงการนี้ ทำให้เราได้เห็นว่า เขาทำได้จริง หลายสวนปลูกไม้ด่างอย่างจริงจัง เวลาตัดไม้ด่างครั้งหนึ่ง มีรายได้หลักล้าน เพราะถ้ามีหนึ่งต้น ตัดออกไปเพาะชำได้หลายต้นมาก ลูกค้าซื้อที่สวนตัดเพาะชำไปขายต่อ ราคาจากสวนต้นละหลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น ส่วนใหญ่ส่งเฉพาะตลาดต่างประเทศอย่างเดียว เพราะราคาดีกว่า ขายในประเทศ


ราคาไม้ด่างวันนี้ อิงราคาในแพลตฟอร์มอีเบย์

อย่างไรก็ตาม เดิมทีไม้ด่างในประเทศไทย ราคาไม่แพงมากเหมือนอย่างทุกวันนี้ ทำให้ต่างประเทศนิยมมาซื้อไม้ด่างในประเทศไทย แต่วันนี้ ราคาไม้ด่างในประเทศไทย ราคาถีบตัวสูงขึ้นไปมาก ต่างประเทศเริ่มมองหาแหล่งซื้อประเทศเวียดนาม หรือ อินเดีย อินโดนีเซีย ฯลฯ แต่บางสายพันธุ์ ต้องซื้อได้เฉพาะในประเทศไทย เท่านั้น เพราะด้วยคนไทยทำไม้ด่างมานาน ก็จะมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญมากกว่า ซึ่งปัจจุบันราคาไม้ด่างจะอิงราคาในแพลตฟอร์มอีเบย์




หน้าใหม่ต้องระวังการปั่นราคา

สำหรับหน้าใหม่ที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจไม้ด่าง สิ่งที่ต้องระวัง คือ การปั่นราคา เพราะบางครั้งอาจจะไม่ใช่ต้นไม้ที่ราคาแพงจริง แต่ก็นำมาปั่นราคาจนราคาถีบตัวสูงขึ้นไปหลักหลายพัน หรือ หลักหมื่น สุดท้าย เพียงแค่วันเดียวกลับมาขายกันในราคาหลักร้อยก็มี มือใหม่ก็จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ และศึกษาเป็นอย่างดี ก่อนตัดสินใจ ลงมาในธุรกิจนี้

สนใจ ติดต่อ IG: cop.plants


คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น