ชีส เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำหรับนำไปปรุงอาหารหรือเป็นส่วนประกอบในอาหารต่างๆ มากมาย ซึ่งร้าน “Moocheesee” ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ผลิตชีสแต่เป็นชีสไทยโฮมเมด 100% ที่ใช้กระบวนการบ่มแบบธรรมชาติและโบราณ โดยใช้เครื่องอบที่เป็นตู้ไม้ จุดเด่นคือผลิตชีสที่เป็นสูตรไขมันต่ำลดลงถึง 70% โปรตีนสูง ตอบโจทย์คนรักสุขภาพพร้อมทั้งสนับสนุนนมวัวจากฟาร์มเกษตรกรอีกด้วย
นางสาวธนาภรณ์ บูชา เจ้าของร้าน Moocheesee เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์นั้นเริ่มต้นจากการที่ครอบครัวได้มีธุรกิจขายนม โยเกิร์ตและได้มีการจำหน่ายไปยังร้านอาหารต่างๆ ในลักษณะการขายส่ง รวมถึงส่วนตัวเวลากินนมของต่างประเทศแล้วมาเปรียบเทียบกับนมวัวในไทยแล้วเกิดคำถามว่า ทำไมนมวัวไทยถึงไม่มีความมันเท่ากับนมวัวต่างประเทศ หลังจากนั้นจึงทำให้ตนเกิดแนวความคิดในเริ่มต้นทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่สามารถต่อยอดจากนมและในท้องตลาดยังมีจำนวนน้อย ตนจึงได้ลองผิดลองถูกมาหลายครั้งจนได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นชีสไขมันต่ำออกมาซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เริ่มขายออนไลน์อีกด้วย
ทั้งนี้ร้านของตนนั้นเริ่มต้นเปิดตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้วและในช่วงเวลาดังกล่าวการขนส่งเดลิเวอรีกำลังเริ่มเป็นที่สนใจและตนก็ได้เริ่มขายและจัดส่งชีสสูตรไขมันต่ำ โดยช่วงแรกจัดจัดส่งในรูปแบบของกล่องโฟมและน้ำแข็งแห้ง ทำให้ยอดขายสามารถเติบโตได้พอสมควร ด้วยความที่ใช้น้ำแข็งแห้งแพ็คเข้ากับกล่องโฟมจึงทำให้มีน้ำซึมออกมาค่อนข้างเยอะ ทำให้น้ำที่ซึมออกมานั้นไหลไปโดนกับสินค้าชนิดอื่นๆ ที่รวมอยู่กับผลิตภัณฑ์ของตน ทำให้บริษัทขนส่งยกเลิกการจัดส่งสินค้าของทางร้านไป ทำให้ทางร้านหยุดขายออนไลน์ไปและกลับมาขายอีกครั้งในปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
สำหรับชีสสูตรไขมันต่ำของทางร้านนั้นจะมีจุดเด่นตรงที่เป็นชีสธรรมชาติโดยที่ไม่มีสารเคมีเจือปน เช่น สารกันบูด เป็นต้น ทำให้ชีสสูตรไขมันต่ำของทางร้านไปตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพและลูกค้าที่ควบคุมปริมาณแคลอรี่ในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้สินค้าในร้านจะมีทั้ง มอสซาเรลล่าชีส โดยจะมีทั้งหมด 2 สูตร คือ สูตรไขมันต่ำและสูตรไขมันเต็ม โดยสูตรที่เป็นไขมันต่ำจะเป็นที่นิยมมากในกลุ่มลูกค้าที่นอกจากลูกค้าที่รักสุขภาพแล้วยังมีลูกค้ากลุ่มแม่และเด็กที่ให้การสนับสนุนสินค้าของทางร้าน
นอกจากนี้ตั้งแต่กลับมาเริ่มขายใหม่หลังจากห่างหายไปนานหลายปีแต่ก็ยังได้รับผลตอบรับจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี เกินความคาดหมายที่เจ้าของร้านตั้งเป้าไว้ ซึ่งในช่วงแรกยังมาเป็นที่รู้จักมากนักโดยจะมีลูกค้าเก่าที่รู้จักแบรนด์ของทางร้านอยู่แล้ว แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งก็จะเริ่มมีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาให้ความสนใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น
อุปสรรคและปัญหาในการผลิตชีสแบบธรรมชาตินั้นทางร้านเผยว่า เนื่องด้วยชีสของทางร้านเป็นชีสธรรมชาติ 100% จะส่งผลให้อายุการเก็บรักษานั้นค่อนข้างน้อยและเกิดการเน่าเสียได้ง่ายกว่าชีสธรรมดาตัวไปที่เก็บรักษาได้นานหลายวัน ซึ่งทางร้านก็มีข้อแนะนำสำหรับลูกค้าในการบริโภคชีสของทางร้าน ถ้าหากบริโภคไม่หมดก็สามารถเก็บเข้าช่องแช่แข็งของตู้เย็นได้ ซึ่งตัวชีสของทางร้านแบบขูดจะสามารถอยู่ในช่องเย็นได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนช่องแช่แข็งจะอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน โดยทางร้านจะมีชีสแบบก้อนสูตรไขมันต่ำขนาด 250 กรัม ราคา 240 บาท ส่วนแบบขูดจะมีขนาด 500 กรัม ราคา 470 บาท สูตรไขมันเต็ม 250 กรัม ราคา 220 บาท แบบขูด 500 กรัม ราคา 430 บาท รวมถึงชีสเชดด้าร์ 250 กรัม ราคา 260 บาท
ทั้งนี้สูตรการทำชีสธรรมชาติของทางร้านจะใช้น้ำนมดิบเท่านั้นในการผลิต โดยได้มีการรับน้ำนมดิบจากฟาร์มโคนมของเกษตรกรในชุมชนที่รวมน้ำนมจากคนเลี้ยงวัวในชุมชนมา สาเหตุที่เลือกใช้นมดิบจากฟาร์มเกษตรกรนั้นเนื่องจากต้องการช่วยเหลือเกษตรกรอีกหนึ่งช่องทาง รวมถึงในการผลิตชีสจำเป็นต้องใช้น้ำนมจำนวนมาก
สำหรับกระบวนการบ่มชีสนั้นจะเป็นการบ่มแบบโบราณดั้งเดิม คือ การนวดมือและขึ้นรูป หลังจากนั้นก็นำเข้าตู้อบที่เป็นไม้ ทั้งนี้การนวดเพื่อขึ้นรูปนั้นทางร้านจะนวดจนกว่าจะได้เนื้อสัมผัสที่เหนียว นุ่ม ที่สุด โดยมีขั้นตอนที่ค่อนข้างใช้เวลาในการทำมากพอสมควร เพราะกว่าจะออกมาเป็นสูตรไขมันต่ำต้องใช้เวลานานมากเนื่องจากเอาไขมันออกไปประมาณ 70% จะทำให้ความอร่อยถูกลดลง ซึ่งทำให้ต้องทดลองอยู่หลายครั้งเพื่อที่จะได้รสชาติที่อร่อย โดยใช้เวลาในการทดลองนานถึง 1 ปี
ทั้งนี้ลูกค้าในกลุ่มแม่และเด็กจะชื่นชอบชีสสูตรไขมันเต็มปกติมากกว่าไขมันต่ำ เนื่องจากจะมีสารอาหาร วิตามินต่างๆ ครบถ้วนกว่า ส่วนลูกค้าที่รักสุขภาพ ควบคุมแคลอรี่จะชื่นชอบสูตรไขมันต่ำมากกว่าสูตรไขมันเต็ม เพราะตอบโจทย์ในการบริโภคชีส โดยชีสสูตรไขมันต่ำนั้นถ้า 100 กรัม ไขมันจะอยู่ที่ 14 กรัม จากปกติจะอยู่ที่ 30-33 กรัม
กำลังการผลิตในตอนนี้ยังถือว่าค่อนข้างน้อยเพราะต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมากและค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรในการผลิตใน 1 สัปดาห์สามารถผลิตได้สูงสุดประมาณ 50 กิโลกรัม ใช้เวลาในการทำประมาณ 2 เดือนครึ่งต่อชีส 1 ก้อน แต่ลูกค้าไม่ได้รอสินค้านานถึง 2 เดือน เนื่องจากทางร้านสามารถผลิตออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการลูกค้าได้ โดยทางร้านจะรับออเดอร์เพื่อรับคิวลูกค้าและผลิตแบบสดใหม่เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจและได้รับชีสที่สดใหม่มากที่สุด
นอกจากนี้ในปัจจุบันที่กลับมาขายออนไลน์นั้นจะใช้บริการขนส่งห้องเย็นเนื่องจากจะไม่ทำให้สินค้าเกิดการเสียหายและยังคงความสดใหม่อยู่จนถึงมือลูกค้า ซึ่งลูกค้าส่วนมากที่สั่งซื้อสินค้าจะเป็นลูกค้าในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก ส่วนต่างจังหวัดจะมีประมาณ 20-30% ทั้งนี้ทางร้านได้มีการโปรโมทสินค้าผ่านเพจอินสตาแกรมและมีเอนฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้าเพื่อกระจายข้อมูลของสินค้าให้ออกสู่สายตากลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น และลูกค้าเกิดการบอกต่อเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ส่งผลกระทบกับธุรกิจในเรื่องของการขายส่งให้กับร้านอาหารต้องปิดตัวลงทำให้ยอดขายหายไปในช่วงก่อนที่จะกลับมาขายออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันได้เน้นที่การขายออนไลน์เป็นหลัก ทำให้ยอดขายสามารถเติบโตและดีขึ้น นอกจากนี้ทางร้านยังมีโปรชั่นต่างๆให้กับลูกค้า เช่น ลดค่าขนส่งลงจาก 120 บาท เป็น 60 บาทสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดเริ่มต้นที่ 130-150 บาท
อย่างไรก็ตามทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเจาะกลุ่มลูกค้าร้านอาหารให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงขยายการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น เช่น ช็อปปี้ ลาซาด้า และในตอนนี้ทางร้านกำลังเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องหารของลูกค้า เพราะว่าทางร้านยังเป็นมือใหม่สำหรับตลาดออนไลน์และต้องสร้างฐานลูกค้าให้มั่นคงเพื่อที่จะขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีการทดลองแตกไลน์การผลิตรูปแบบใหม่แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา รวมถึงวางสินค้าขายตามร้านสุขภาพ
ติดต่อเพิ่มเติม
Instagram : moocheesee
Facebook : MooCheese ชีสไขมันต่ำ โปรตีนสูง
Line : @moocheesee
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *