เปิดร้านในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดในช่วงแรกไม่พบเจออุปสรรคใดๆ กลับกลายขายดีด้วยซ้ำเปิดขาย 6 วันแรกสามารถขายได้ 4,000-5,000 จาน กำไรเดือนแรกเกือบ 70,000 บาท แต่เมื่อโควิด-19 เริ่มเข้าสู่ระลอก 2 และ 3 ทำให้ยอดขายตกลงมาค่อนข้างมาก รวมถึงรัฐบาลมีมาตรการให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านแทนยกเลิกการนั่งกินที่ร้านชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทำให้ร้านข้าวแกง “อิปุ๋ยโคตรข้าวแกงบุฟเฟ่ต์” ต้องปรับตัวและหาหนทางในการสู้วิกฤตครั้งนี้ให้สามารถเติบโตได้
นางสาวนาวิกา วังกุ่มระเบียบ เจ้าของร้าน อิปุ๋ยโคตรข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการเปิดร้านข้าวแกงบุฟเฟ่ต์นั้นเริ่มต้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงแรก ซึ่งก่อนที่จะมาเปิดร้านข้าวแกงตนได้ขายห่อหมกทะเลย่างมาก่อนแล้วทำให้รู้สึกว่าตลาดจะต้องโดนปิดไป ทำให้ตนได้ปรึกษากับคนในครอบครัวเพื่อหาทางออกสำหรับวิกฤตในครั้งนี้ หลังจากติดต่อขอเช่าพื้นที่ร้านได้ก็ตัดสินใจจะเปิดร้านข้าวแกง เนื่องจากตนมีความเชี่ยวชาญในการทำกับข้าวและชื่นชอบการกินข้าวแกงเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้เกิดเป็นร้านข้าวแกงบุฟเฟ่ต์จนถึงทุกวันนี้
เปิดร้านข้าวแกงในช่วงโควิด-19 ระบาดนั้นเจ้าของร้านเผยว่าตั้งแต่เปิดร้านมาในช่วงแรกนั้นไม่เจออุปสรรคใดๆ ที่ทำให้ยอดขายตกถึงแม้จะเปิดในช่วงที่มีไวรัสระบาดก็ตาม จนกระทั้งระบาดในรอบ 2 ทำให้ธุรกิจเกิดการชะลอตัวลงบ้าง จากเดิมที่เคยทำกับข้าวประมาณ 20 อย่าง ลดลงให้เหลือประมาณ 12-13 อย่าง เนื่องจากยอดขายลดลงและล่าสุดที่กำลังระบาดระลอก 3 ในตอนนี้รัฐบาลก็ได้มีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโดยออกมาตรการให้มีการซื้อกับข้าวกลับบ้านไม่ให้นั่งกินที่ร้าน ทำให้ทางร้านได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ทางร้านจำเป็นต้องปิดร้านไปประมาณครึ่งเดือนและรอดูสถานการณ์โดยจะเริ่มเปิดอีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ในช่วงระบาดรอบ 2 นั้นยอดขายจาก 100% ลดลงเหลือ 30% ลากยาวจนมาถึงรอบ 3 ทำให้ทางร้านต้องระมัดระวังและรอดูสถานการณ์เพื่อเตรียมมือรับกับวิกฤตในครั้งนี้ต่อไป ทั้งนี้ในการเปิดร้านอีกรอบนั้นจะเป็นการเปิดร้านและให้ลูกค้าซื้อกลับบ้าน ไม่ได้มีการนั่งกินภายในร้านตามข้อกำหนดของรัฐบาล
หลังจากต้องเปิดร้านและให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านแทนทางร้านจะเปิดให้บริการขายข้าวแกงตั้งแต่เวลา 07:00 – 14:30 น. มีเมนูทั้งหมดไม่เกิน 10 อย่าง และหลังจากนั้นจะมีการขายหมูปลาร้าเสริมเข้ามาเพื่อสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทาง รวมถึงเข้าร่วมกับแอปพลิเคชั่นรับส่งอาหารอย่าง LINE MAN เพื่อรองรับลูกค้าออนไลน์ นอกจากนี้สูตรหมูปลาร้าเจ้าของร้านเป็นคนคิดค้นสูตรขึ้นมาเองและลงมือทำเองทุกขั้นตอน เหตุผลที่เลือกขายหมูปลาร้าเสริมกับข้าวแกงคือก่อนหน้าจะเปิดร้านข้าวแกงตนก็ได้มีการขายหมูปลาร้ามาก่อนแล้วทำให้ง่ายต่อการนำมาผลิตและขายเพิ่มเติมอีกครั้ง
นอกจากนี้ในส่วนของราคาข้าวแกงบุฟเฟ่ต์นั้นมีราคาคนละ 49 บาท เหตุผลที่เลือกราคานี้ เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ ในช่วงแรกที่เตรียมตัวเปิดร้านนั้นในย่านที่เช่าร้านจะมีโรงงานและบริษัทจำนวนมากทำให้มีพนักงานบริษัทและลูกค้าที่ทำงานในโรงงานค่อนข้างมาก ราคานี้จึงเป็นราคาที่เหมาะสมและลูกค้าสามารถเข้าถึงและจับต้องได้และสามารถกินทุกอย่างในร้านได้ แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่มีฐานเงินเดือนสูงมากินมากกว่าพนักงานออฟฟิศและลูกจ้างในโรงงาน เนื่องจากเศรษฐกิจในตอนนี้ค่อนข้างแย่ทำให้ผู้คนระวังในการจับจ่ายซื้อของมากยิ่งขึ้น รวมถึงร้านข้าวแกงของตนก็ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอีกด้วย
ทั้งนี้ผลตอบรับในช่วงเปิดร้านแรกๆ นั้นเกิดคาดพอสมควรอยู่ในระดับที่ดีมาก ซึ่งเจ้าของร้านเผยว่าผลตอบรับดีเกินคาดตั้งแต่เปิดร้านได้ 6 วันและตนก็ได้โปรโมทเพจเฟซบุ๊กเพื่อดึงดูดลูกค้าให้รู้จักเพิ่มมากยิ่งขึ้นทำให้มีคนรู้จักเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้วันแรกที่เปิดร้านนั้นสามารถขายได้ประมาณ 4,000-5,000 จาน และเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องบวกกับขายกับข้าวถุงและข้าวกล่อง จนทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ได้กำไรในเดือนแรกเกือบ 70,000 บาท
ในช่วงแรกที่เปิดร้านร้านเปิดตั้งแต่เวลา 07:00-19:00 น. แต่เมื่อทำไปสักพักร่างกายเริ่มไม่ไหวเพราะลูกค้าเยอะ ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดใหม่จากเดิมปิด 19:00 น. เป็น 17:00 น. และเวลาปิดล่าสุดคือ 14:30 น. และรับลูกน้องเข้ามาช่วยงานเพิ่มเติม นอกจากนี้จุดเด่นและความแตกต่างของข้าวแกงนั้นจะเน้นในเรื่องของวัตถุดิบจะใช้วัตถุดิบที่ดีทำให้เหมือนกับทำกินเองที่บ้าน ลูกค้าจะได้พึงพอใจในข้าวแกงของที่ร้าน นอกจากนี้ถ้าเป็นวันเสาร์ลูกค้าจะเข้าร้านตั้งแต่ 08:00 น.ไปจนถึงช่วงบ่าย แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาลูกค้าจะเข้าร้านประมาณ 10:00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่กำลังจะมาถึงนี้หรือถ้าหากสถานการณ์กลับสู่ปกติแล้วนั้นทางร้านอาจจะปรับราคาขึ้นเป็น 69 บาท แต่จะเพิ่มเมนูใหม่เข้ามาเป็นอาหารทะเล ข้าวแกงที่มีส่วนผสมหลักเป็นของทะเลจึงจำเป็นต้องเพิ่มราคาขึ้น รวมถึงของกินเล่นและไอศกรีม เหตุผลที่เพิ่มอาหารทะเลเข้ามานั้นเพื่อรองรับลูกค้าที่มีความชื่นชอบอาหารทะเลและเพิ่มเมนูอาหารให้ลูกค้าได้เลือกกินได้ตามความต้องการเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุดคือเมนู ไข่พะโล้ ตั้งแต่เปิดร้านมาวันแรกจนถึงวันนี้ไข่พะโล้เป็นเมนูที่ต้องทำทุกวันเพราะลูกค้าชื่นชอบเป็นอย่างมาก
“ตัวปุ๋ยเองไมได้ตั้งเป้าอะไรไว้เลย แค่ทำใจอย่างเดียวยอมรับว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นก็ต้องประคองธุรกิจให้อยู่ต่อให้ได้ ให้ลูกน้องอยู่ได้ ให้ตัวเราอยู่ได้ ไม่ต้องควักเงินทุนจำนวนมาก เพราะว่าตอนนี้ที่หยุดร้านไปครึ่งเดือนลูกน้องก็ขาดรายได้ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันอะไรที่พอทำได้ สร้างรายได้ได้นั้นก็ทำไปก่อน เพราะก่อนหน้าที่เราจะขายข้าวแกงเราก็ขายของออนไลน์ ขายของกินออนไลน์อยู่แล้ว เราก็แค่เอาสิ่งเหล่านั้นกลับเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนที่ร้านเราก็ต้องลองเปิดไปก่อนและดูสถานการณ์ด้วยว่าจะเป็นไปอย่างไรเพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ ซึ่งปุ๋ยเชื่อว่าลูกค้าจะต้องกลับมาซื้อข้าวแกงของที่ร้าน รวมถึงปุ๋ยจะต้องวางแผนให้เป็นบุฟเฟ่ต์ที่สามารถซื้อกลับบ้านได้”
นอกจากนี้เหตุผลที่ทำให้เจ้าของร้านมาเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ข้าวแกงนั้นส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบกินข้าวแกงและชอบกินหลายอย่าง เวลาไปซื้อก็จะซื้อได้จานละ 1-2 อย่าง ก็ 40-50 บาท ซึ่งเมื่อต้องการกับข้าวเพิ่มก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก ทำให้รู้สึกว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่ได้ข้าวจานเดียวจนบางทีทำให้กินแล้วไม่อิ่ม ทำให้เกิดแนวความคิดที่จะทำข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ให้ลูกค้าดีกว่า ทั้งนี้ถ้าหากลูกค้ากินแล้วเหลือทางร้านก็มีข้อกำหนดปรับเงิน 2 เท่าต่อหัว แต่ส่วนมากใน 100 คนจะกินเหลือยู่แค่ 2-3 คน เท่านั้น ส่วนมากจะกินหมดเท่าที่ตนเองกินอิ่ม
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : อิปุ๋ยโคตรข้าวแกงบุฟเฟ่ต์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
