กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ร่วมมือข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้ Work From Home (WFH) ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 16 เม.ย. - 30 เม.ย. 64 มั่นใจไม่กระทบต่องานบริการประชาชน
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระจายไปเกือบทุกจังหวัด ในการนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ จึงขอความร่วมมือให้หัวหน้าส่วนราชการกำชับข้าราชการในสังกัดให้ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล โดยการสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และล้างมืออย่างเคร่งครัดในทุกกิจกรรม ส่วนบุคคลที่เคยเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อดังล่าว ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการกักกันตนเอง (self quarantine) อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ และปฏิบัติตามมาตรการในสถานที่ทำงาน และขอให้เพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงาน Work from Home โดยให้มีผลถึง 30 เมษายน 2564 เพื่อลดการสัมผัสในที่ทำงานหรือสถานศึกษา และลดความคับคั่งในการเดินทางกลับจากต่างจังหวัดหลังเทศกาลสงกรานต์
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ได้ดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด (ส่วนกลาง) ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (WFH) อย่างเต็มขีดความสามารถ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะผ่อนคลาย โดยในการดำเนินงานจะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ อาทิ การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอคอล แอพพลิเคชั่นไลน์ หรืออีเมล์ มาเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานเพื่อไม่ให้มีข้อติดขัดหรือเกิดปัญหากับการบริการประชาชน โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในหน่วยงานติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯ และข่าวสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประกาศหรือคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข ประกาศหรือคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมาตรการที่กำหนด โดยเคร่งครัด