ขาย 6 ปี มีสินค้าแค่ 5 ตัว แต่ลูกค้าตรึม! Kaff & Co ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะจากสมุนไพรไทย

ปัญหาผมร่วง ผมบาง มีรังแค เป็นปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะที่หลายคนประสบพบเจอบวกกับสภาพอากาศในประเทศที่ร้อนอบอ้าวทำให้เกิดมลภาวะต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของการสร้างแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งปัญหาหนังศีรษะและเส้นผมนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนหันมาดูแลกันมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ของ Kaff & Co นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทย เช่น มะกรูดและเหง้าขิงที่สามารถช่วยแก้ปัญหาของหนังศีรษะและเส้นผมได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเปิดขายได้ 6 ปี แต่มีสินค้าเพียง 5 ตัว

นางสาวเดือนสว่าง คุณาพันธ์ เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม แบรนด์ Kaff & Co เล่าว่า Kaff & Co เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2014 เดิมทีตนและแฟนหนุ่มทำอาชีพเกี่ยวกับงานออกแบบ อินทีเรีย ดีไซน์ ซึ่งแฟนหนุ่มมีโรคประจำตัวคือโรค SLE (โรคแพ้ภูมิตัวเอง) ซึ่งมีปัญหาเรื่องการผมร่วง ผมบาง เนื่องจากยาที่กินอยู่เป็นประจำ จนวันหนึ่งได้มีโอกาสรู้จักกับญาติที่แนะนำสมุนไพรที่ช่วยดูแลเรื่องเส้นผม เช่น มะกรูด และได้นำไปผสมเข้ากับแชมพูเพื่อนำมาให้ตนและแฟนหนุ่มลองใช้ ซึ่งในตอนแรกยังไม่กล้าใช้แต่อาการผมร่วง ผมบาง หรืออาการแพ้อื่นๆ เริ่มรุนแรงขึ้นจึงตัดสินใจลองใช้แชมพูมะกรูด ผลปรากฏว่าอาการเหล่านั้นเริ่มดีขึ้น เช่น ปัญหารังแคก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการต่างๆ ไม่ได้หายไปแต่เห็นผลไปในทางที่ดี

ทั้งนี้ตนจึงตัดสินใจทำผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทย โดยในช่วงแรกยังคงลังเลในการลงมือทำแบบจริงจัง ซึ่งญาติของตนมีอาชีพเป็นเภสัชกรก็ได้แนะนำให้ทำออกมาให้ได้คุณภาพ ไม่ทำในรูปแบบของครีมกวนหรือต่ำกว่ามาตรฐาน โดยตนได้มีการยื่นเรื่องขอคำแนะนำไปยัง รองศาสตราจารย์ ดร.พาณี ศิริสะอาด อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งก็ได้คำแนะนำและนำร่องการเริ่มต้นสร้างผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา โดยได้รับคำแนะนำว่าถ้าจะทำตัวแชมพูเพียงอย่างเดียวจะเห็นผลในระยะสั้นเนื่องจากทำความสะอาดได้อย่างเดียว ถ้าจะให้เห็นผลในระยะยาวต้องมีผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยคือ เซรั่ม หรือ ทรีทเม้นท์ เมื่อทั้งสองผลิตภัณฑ์ถูกใช้ด้วยกันจะเห็นผลได้ชัดเจนกว่า โดยใช้เวลาในการตั้งต้นร่วมปีกว่าจะเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมา

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์คู่แรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาคือ แชมพูน้ำมันมะกรูดสกัดเย็น และทรีทเม้นท์น้ำมันมะกรูดสกัดเย็น ซึ่งในตอนนี้แบรนด์ Kaff & Co ดำเนินธุรกิจมาได้เข้าปีที่ 6 มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 5 ประเภท ในช่วงแรกของปีผลิตออกมาในขนาด 150 ml พอเริ่มมีลูกค้าประจำทางแบรนด์ก็ได้มีการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 300 ml ทั้งนี้น้ำมันมะกรูดจะมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือมีความมันเงาติดมาซึ่งมีข้อดีคือจะทำให้หนังศีรษะชุ่มชื้นแต่สำหรับคนที่หนังศีรษะมันมากๆ จะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นทางแบรนด์จึงคิดค้นสูตรใหม่คือสารสกัดจากเหง้าขิงที่มีคุณสมบัติเด่นในการกำจัดความมันได้เป็นอย่างดี โดยมีสมุนไพรไทยผสมอยู่ด้วยกันได้แก่ สารสกัดเหง้าขิง มะขามป้อม บีควายและมะกรูดเล็กน้อยเพื่อช่วยในเรื่องของอาการคันอยู่บ้าง

เหตุนี้เองจึงให้เกิดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเป็นคู่ที่ 2 คือ แชมพูสารสกัดเหง้าขิง และน้ำมันมะกรูดสกัดเย็นที่ใช้คู่กับทรีทเม้นท์สูตรเดียวกัน ซึ่งเมื่อลูกค้าได้ทดลองใช้แล้วนั้นผลที่ตามมาคือการชะลอผมหงอกได้พอสมควร รวมไปถึงครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ออร์แกนิคซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมเหมาะสำหรับคนแพ้ง่ายและมีการปรับสูตรให้มีกลิ่นเฉพาะตัวของเนื้อครีม นอกจากนี้วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาผลิตนั้นจะมีการรับซื้อจากคนในหมู่บ้านหรือผู้ขายโดยตรง

Kaff & Co จะมีการแนะนำและให้คำปรึกษาสำหรับลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะเมื่อตัดสินเข้ามาทดลองผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ โดยส่วนมากลูกค้าจะมีปัญหาเรื่องผมร่วง มีรังแค เป็นหลักซึ่งเป็นปัญหาที่ปลายเหตุ ทางแบรนด์เองก็จะแนะนำและให้คำปรึกษาในเรื่องนั้นๆ แก่ลูกค้าเพื่อให้ปรับพฤติกรรม กิจกรรมที่ทำเป็นประจำและการใช้ผลิตภัณฑ์หรือส่งเสริมในเรื่องของการดูแลหนังศีรษะของตนเอง โดยลูกค้าที่เข้ามาปรึกษานั้นมีอายุตั้งแต่เด็กนักเรียนจนถึงคนอายุ 60 ปี

ทั้งนี้ความแตกต่างและจุดเด่นของ Kaff & Co คือการเน้นทำผลิตภัณฑ์โดยมีส่วนผสมของสมุนไพรไทยและมีผลิตภัณฑ์จำนวนน้อยแต่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงปัญหาของลูกค้าได้อย่างเห็นได้ชัดมาตลอด รวมถึงทางแบรนด์เองไม่ได้ขายแค่ผลิตภัณฑ์แต่ยังให้ความเข้าใจและคำแนะนำการจัดการกับปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบเจอในขณะนั้นๆ เมื่อลูกค้ารู้และเข้าใจปัญหาของตัวเองก็จะปรับพฤติกรรมต่างๆ ควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำให้ผลที่ได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้านิยมซื้อมากที่สุด คือ แชมพูมะกรูด รองลงมา คือ ทรีทเม้นท์สูตรสารสกัดเหง้าขิง ที่คนส่วนมากนิยมมากที่สุด และตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมาผลตอบรับและฟีดแบกจากลูกค้านั้นอยู่ในระดับที่ดี ลูกค้าให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ดีและต่อเนื่องและในช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นทางแบรนด์ก็ได้มีการออกงานโชว์สินค้าต่างๆ เพื่อกระจายข้อมูลและสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สำหรับในช่วงโควิด-19 ระบาดนั้นยอดขายผลิตภัณฑ์ตกเล็กน้อยเนื่องจากยอดการซื้อหน้าร้านลดน้อยลงแต่ทางแบรนด์เปิดเว็บไซต์มาก่อนที่จะมีโควิด-19 ทำให้ยอดการซื้อในเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์อื่นๆ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบโดยภาพรวมยังคงได้รับผลกระทบเล็กน้อย ส่วนกำลังการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดนั้นในแต่ละครั้งจะมีจำนวนการผลิตที่น้อยแต่ผลิตบ่อย เนื่องจากผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ ทางแบรนด์จะเน้นที่ความสดใหม่ของตัวผลิตภัณฑ์อาจจะผลิตทุกๆ 3-4 เดือน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์จะมีอายุเก็บรักษาได้ 2 ปี

ทั้งนี้ Kaff & Co ยังมีพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ เช่น หลวงพระบางประเทศลาว อินโดนีเซีย พม่า ฮ่องกง รัสเซีย และดูไบ ซึ่งจะเป็นลักษณะของร้านขายยาและเป็นคู่ค้าที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์และติดต่อทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งเริ่มมีพาร์ทเนอร์ได้ประมาณ 3-4 ปี ๆ นอกจากนี้ความคาดหวังต่อแบรนด์ในตอนนี้เจ้าของแบรนด์ให้ข้อมูลว่า มีความต้องการที่จะดูแลและบรรเทาปัญหาที่ลูกค้ามี ซึ่งในอนาคตก็ได้มีการต่อยอดจากการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแล้วก็จะเพิ่มเกี่ยวกับการดูแลผิวตามมา รวมถึงเป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงเมื่อพบเจอปัญหานั้นๆ อีกด้วย นอกจากนี้แชมพูมะกรูด ขนาด 150 ml นั้นเริ่มต้นที่ราคา 250 บาท ส่วนตัวที่ราคาสูงที่สุดคือ ทรีทเม้นท์เหง้าขิงที่หยดหนังศีรษะ 690 บาท

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนสินค้าของทางแบรนด์จะเป็นลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก ส่วนลูกค้าผู้ชายก็มีจำนวนเยอะพอสมควร เนื่องจาก Kaff & Co ได้รับรางวัลแชมพูและครีมนวดสำหรับผู้ชายมาด้วยเพื่อการันตีว่าสินค้าของแบรนด์สามารถตอบโจทย์ลูกค้าผู้ชายได้ ทำให้มีฐานลูกค้าผู้ชายจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่ตัวผลิตภัณฑ์จะไม่มีแยกว่าสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายซึ่งทางแบรนด์จะมีการให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาลูกค้าผู้ชายควบคู่เพิ่มไปด้วย โดยลูกค้าผู้ชายจะมีประมาณ 20% ต่อลูกค้าผู้หญิง

“Kaff & Co มาได้ไกลเกินความคาดหวังมากในตอนแรกไม่คิดว่าจะมาไกลได้ขนาดนี้ จนถึงวันนี้มันตอบโจทย์ตัวมันเองมากๆ จากผลลัพธ์ที่ลูกค้าสนับสนุนเรา เรามีข้อมูลลูกค้าที่ซื้อสินค้าเราตั้งแต่ปีแรกจนถึงตอนนี้ก็ยังซื้ออยู่ การเติบโตของฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้นแค่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกพึงพอใจแล้ว ถ้าให้มองแบรนด์ในระยะยาวเราก็มีความต้องการที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นสินค้าที่ลูกค้านึกถึงตอนที่มีปัญหา มีสินค้าเราติดบ้านไว้อุ่นใจกว่า ให้เราเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่พบเจอปัญหาเหล่านั้นและอาจจะต่อยอดไปในรูปแบบการดูแลเรื่องผิวพรรณอีกด้วย”

ติดต่อเพิ่มเติม

Website :https://www.kaffandco.com/th
Facebook : Kaff&Co.
Line : @kaffandco