xs
xsm
sm
md
lg

จางจางเปา “ขนมปังสกปรก” ขนมที่กินแล้วเลอะเทอะที่สุด! มีต้นกำเนิดจากไต้หวันแต่ถูกพัฒนาด้วยฝีมือคนไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำความรู้จักกับ จางจางเปา หรือ ขนมปังสกปรก ที่มีต้นกำเนิดมาจากไต้หวัน โดยได้ร้าน เบเกอรี่ By 539 องศา - 甜点 มาดัดแปลงสูตรให้ถูกปากคนไทยมากที่สุด ซึ่งขนมปังสกปรกนั้นมีจุดเด่นที่กินแล้วจะต้องเลอะมือหรือปากทุกครั้งที่กิน และเป็นที่มาของชื่อว่าขนมปังสกปรก ปัจจุบันร้านขายขนมปังสกปรกตั้งยู่ที่ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาฝั่งปางช้าง ไอเดียดีๆ ที่นำเสนอแก่ลุกค้าทำให้ลูกค้าสนใจและนิยมซื้อขนมปังเป็นอย่างมาก

นางสาวชลวิชา อารีย์วงศ์สกุล เจ้าของร้านขนมปังสกปรก เบเกอรี่ By 539 องศา
นางสาวชลวิชา อารีย์วงศ์สกุล เจ้าของร้านขนมปังสกปรก เบเกอรี่ By 539 องศา - 甜点 เล่าว่า ส่วนตัวตนได้มีโอกาสไปศึกษาที่ไต้หวันและได้มีเพื่อนแนะนำให้ลองทำขนมปังสกปรกดู เนื่องจากขนมดังกล่าวโด่งดังเป็นอย่างมากในไต้หวัน เดิมทีขนมปังสกปรกเริ่มต้นโด่งดังที่ประเทศเกาหลีและได้กลายเป็นไวรัลไปในกลุ่มคนมากขึ้นรวมถึงในไต้หวันที่ได้รับความนิยมและสนใจเป็นอย่างมาก แต่ในช่วงเวลานั้นในประเทศไทยกำลังนิยมขนมปังประเภทอื่น เช่น เค้กไข่ ตนจึงตัดสินใจขายเค้กไข่ในช่วงนั้นแต่พอผ่านไปสักพักลูกค้าก็เริ่มลดความสนใจลง หลังจากยอดขายตกก็เริ่มคิดหาวิธีใหม่จนนึกขึ้นได้ว่าเคยมีเพื่อนแนะนำให้ลองขายขนมปังสกปรกดูและในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีคนขายมากนัก


ทั้งนี้หลังจากตัดสินใจจะเริ่มขายขนมปังสกปรกแล้วนั้นปัญหาที่ตามก็คือวัตถุดิบในประเทศไทยยังไม่ตอบโจทย์และไม่สามารถผลิตออกมาให้เหมือนต้นตำรับได้ จึงได้มีการไปเรียนรู้การทำขนมปังสกปรกโดยให้ญาติในครอบครัวที่เรียนจบทางด้านการทำขนมหรือเบเกอรี่โดยเฉพาะไปเรียน หลังจากที่เรียนและได้สูตรกลับมาก็นำมาพัฒนาและทดลองทำกันในครอบครัวผลปรากฏว่าวัตถุดิบที่เป็นแป้งยังไม่ตอบโจทย์เหมือนเดิม ตนและครอบครัวจึงตัดสินใจนำเข้าแป้งจากไต้หวันเพื่อที่จะให้ได้เนื้อสัมผัสที่คล้ายกับต้นฉบับมากที่สุด


ทำไมถึงมีชื่อว่า ขนมปังสกปรก ในภาษาจีนนั้นขนมปังสกปรกมีชื่อว่า จางจางเปา ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยคือ ขนมปังสกปรก บวกกับลักษณะของตัวขนมปังที่เวลากินแล้วจะเกิดการเลอะ เนื่องจากตัวขนมปังจะมีส่วนประกอบประเภท ซอสหรือไส้และผงโรยหน้าขนม ทำให้ในการกินแต่ละครั้งอาจจะเกิดการเลอะได้ จึงเป็นที่มาของชื่อว่า ขนมปังสกปรก นอกจากนี้ร้านเบเกอรี่ By 539 องศา นั้นดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 5-6 เดือน


นอกจากนี้สูตรการทำขนมนั้นหลังจากที่ได้สูตรมาแล้วตนและครอบครัวก็ได้มีการมาดัดแปลงสูตรให้ดูน่าสนใจขึ้น เช่น ซอสและไส้ขนมปัง ปกติแล้วคนไทยมักจะชื่นชอบขนมที่มีรสชาติหวาน เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน ซึ่งการดัดแปลงสูตรขนมนี้ก็สำคัญเป็นอย่างมาก เดิมทีตัวขนมปังดังกล่าวในต่างประเทศจะนิยมเป็นเนื้อขนมปังคล้ายแป้งพายหรือครัวซ็องต์ ส่วนไส้ขนมก็จะมีรสชาติที่เข้มข้นมาก เช่น ช็อกโกแลตในต่างประเทศจะมีรสชาติที่ขมและเข้มข้นมากกว่าในประเทศไทย ทางร้านจึงปรังปรุงสูตรและรสชาติให้เหมาะและตอบโจทย์คนไทยมากยิ่งขึ้น ส่วนผงชาเขียวและผงสตรอเบอรี่จะเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน ซึ่งรสช็อกโกแลตจะเป็นสูตรดั้งเดิม


ปัจจุบันในประเทศไทยอาจจะมีขนมลักษณะที่คล้ายกับของที่ทางร้านขายแต่จะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในเรื่องของเนื้อขนมปังและไส้ แต่ลักษณะหน้าตาขนมก็คล้ายกัน ทำให้จุดเด่นและความแตกต่างที่ทางร้านมีนั้นคือการที่เวลาทำขนมแต่ละครั้งการรีดแป้งขนมส่วนใหญ่จะใช้เครื่องทำ แต่ทางร้านจะใช้มือรีดเพราะว่าเป็นขนมปังโฮมเมด ทำเองทุกขั้นตอน รวมถึงรสชาติและความแปลกใหม่ที่มีน้อยในประเทศไทยในตอนนี้อีกด้วย สำหรับกำลังการผลิตขนมปังสกปรกนั้นใน 1 วันสามารถผลิตได้ประมาณ 200-300 ชิ้น และเปิดร้านทุกวันและส่วนใหญ่จะผลิตตามออเดอร์ เนื่องจากขนมปังสกปรกจำเป็นต้องใช้เวลาทำค่อนข้างนาน


สำหรับการทำการตลาดนั้นเริ่มแรกทางร้านได้มีการโปรโมทเพจเฟซบุ๊กทำให้มีลูกค้าเห็นและสนใจมากยิ่งขึ้นรวมถึงมีเพจรีวิวต่างๆ เข้ามาให้ความสนใจเป็นอย่างดี นอกจากนี้ในช่วงที่โปรโมทสินค้าโดยการซื้อโฆษณานั้นกลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและวัยทำงานอายุเฉลี่ยประมาณ 25-30 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ขนมปังสกปรกของทางร้านในตอนนี้มีทั้งหมด 4 รสชาติ คือ ช็อกโกแลต นม ชาเขียว และสตรอเบอรี่ ซึ่งส่วนมาก 50% ลูกค้าจะนิยมซื้อช็อกโกแลตมากกว่ารสชาติอื่นๆ และเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน รวมถึงมีขนาดเท่า 2 ฝ่ามือ น้ำหนัก 300-350 กรัมต่อชิ้น รสช็อกโกแลตและรสนมชิ้นละ 89 บาท ส่วนสตรอเบอรี่และชาเขียวจะอยู่ที่ชิ้นละ 99 บาท


ช่วงที่เปิดร้านแรกๆ ลูกค้าจะนิยมเข้ามาซื้อหน้าร้านจำนวนมากแต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ทำให้ลูกค้านิยมสั่งซื้อออนไลน์กันมากขึ้น รวมถึงทางร้านก็ได้มีการส่งต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นทำให้ลูกค้าหันมารสั่งซื้อออนไลน์มากกว่าเดินเข้ามาหน้าร้าน ทั้งนี้สำหรับการสั่งซื้อออนไลน์หรือส่งต่างจังหวัดนั้นขนมปังสกปรกสามารถเก็บรักษาได้ในอุณหภูมิปกติได้ประมาณ 3-5 วัน และทางร้านก็แนะนำให้เก็บรักษาเข้าตู้เย็นหรือก่อนนำมารับประทานก็ควรอุ่นร้อนเพื่อให้ไส้ขนมเป็นลาวาขึ้นอยู่กับตัวลูกค้าว่าชื่นชอบแบบไหนมากกว่ากัน


อย่างไรก็ตามหลังจากที่เปิดร้านมาได้ประมาณ 6 เดือนนั้นในช่วงแรกได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด แต่ก็มีขึ้นมีลงตามความนิยมของลูกค้า ซึ่งทางร้านก็แก้ปัญหาโดยการเพิ่มรสชาติของขนมปังมาอีก 1 รสชาติคือ รสสตรอเบอรี่และทำให้ลูกค้าหันมาสนใจอีกครั้ง และทำให้ยอดขายส่งต่างจังหวัดและหน้าร้านเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งในตอนนี้หน้าร้านได้ปิดชั่วคราวเนื่องจากต้องป้องกันจามมาตรการของภาครัฐแต่ลูกค้าก็ยังสามารถสั่งออเดอร์และมารับที่หน้าร้านได้โดยจะไม่มีการวางขายหน้าร้านลูกค้าต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน ถึงจะสามารถเข้ามารับขนมได้ นอกจากนี้ในอนาคตได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเพิ่มรสชาติขนมปังให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น


ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : เบเกอรี่ By 539 องศา - 甜点
โทร. 094-6634124

ร้านตั้งอยู่ในตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝั่งปางช้าง


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *



กำลังโหลดความคิดเห็น