(คลิป) เทรนด์อาหารใต้แรงไม่หยุด “โค้ชอู๊ด” สโมสรท่าเรือ งัดอาหารถิ่นเมืองคอน จุดขาย "ข้าวแกงปักษ์ใต้เมืองทอง" คนแน่นร้าน

“สระราวุฒิ ตรีพันธ์” หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนามของ “โค้ชอู๊ด” ที่เคยคุมทีมสโมสร ชื่อดังมาแล้วหลายทีม ไม่ว่าเป็นเอสซีจี เมืองทอง ชัยนาท และ ปัจจุบันโค้ชอู๊ด ได้รับความไว้วางใจจากมาดามแป้งให้มาเป็นผู้ควบคุม “ทีมการท่าเรือ”

ความไม่แน่นอนในอาชีพโค้ช
ที่มาของ “นายอู๊ดข้าวแกงปักษ์ใต้”

ทั้งนี้ ด้วยเส้นทางอาชีพการเป็นโค้ชทีมฟุตบอล ไม่แน่นอน ในช่วงที่โค้ชอู๊ด ทำงานอยู่กับทีมฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ทำให้เขาเลือกที่จะเปิดร้านขายอาหารปักษ์ใต้ควบคู่ไปด้วย เพราะโดยส่วนตัวนอกจากฟุตบอลที่เขาชื่นชอบและหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ก็คงจะมีการทำอาหารเนี่ยแหละที่ “โค้ชอู๊ด” ชื่นชอบไม่แพ้การเล่นฟุตบอล

สระราวุฒิ (โค้ชอู๊ด) เล่าว่า เขาได้เปิดร้านอาหารใต้ ชื่อว่า “นายอู๊ด ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้” ซึ่งร้านแรกเปิดในเมืองทอง เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา สมัยยังทำงานเป็นโค้ชอยู่กับทีมเอสซีจี เมืองทอง ก็ชวนเพื่อนมาเปิดร้านอาหารใต้กัน ร้านแรกเปิดกับเพื่อน 2 คน และพอตอนหลังเพื่อนก็เลิกทำไป ก็เลยให้แม่ที่อยู่นครศรีธรรมราช ขึ้นมาช่วยดูแลร้าน และหลังจากนั้น มีบางช่วงที่ตกงานไม่มีงาน ก็เลยมาเปิดร้านที่สอง ริมถนนแจ้งวัฒนะข้างนอกเมืองทอง เป็นปั้มแก๊สเก่า และที่เลือกเปิดที่นี่เพราะพื้นที่จอดรถได้เยอะ ส่วนร้านแรกก็ยกให้แม่เป็นคนดูแลไป ร้านแห่งที่สองเปิดมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว

หลงรักในการทำอาหารพอๆกับการเล่นฟุตบอล

โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบทำอาหาร สมัยอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ผมอยู่กับย่า ซึ่งย่ามีอาชีพทำขนมจีนขาย ผมได้ช่วยย่าทำตั้งแต่เด็ก ทำให้เราได้วิชาการทำขนมจีนน้ำยา และอาหารใต้จากตรงนั้นมาพอสมควร ส่วนแม่เองทำกับข้าวส่งโรงพยาบาล ครอบครัวเราทำอาหารกันเป็นทุกคน ผมเองก็ได้พื้นฐานการทำอาหารมาจากตรงนั้น เวลามีเวลาว่างก็ชอบทำอาหารอยู่แล้ว

พอได้มาเปิดร้านทำให้เราได้กลับมาทำอาหาร และช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในครอบครัวด้วย เพราะทั้งสองร้านจะให้คนในครอบครัวช่วยๆ กันทำ อย่างร้านที่สอง ก็ได้อามาช่วยขายช่วยทำอาหาร เพราะเวลาว่างของเราไม่แน่นอน ช่วงไหนมีงานโค้ชเข้ามาก็ต้องไปทำ อย่างช่วงนี้ พอได้กลับมาดูแลเป็นโค้ชให้กับทีมการท่าเรือ เวลาดูแลร้านก็จะน้อยลงไป ต่างจากช่วงที่มีสถานการณ์โควิด เวลาว่างเยอะได้มาแสดงฝีมือการทำอาหารเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการทำอาหารของผม หรือ ของอา หรือ ของแม่จะเป็นสูตรเดียวกัน รสชาติไม่ได้แตกต่างกัน

สร้างจุดขายด้วยเมนูพื้นถิ่นภาคใต้หากินยาก

สำหรับเมนูอาหารของ “ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ นายอู๊ด” แตกต่างจากร้านอาหารปักษ์ใต้ร้านอื่นๆอยู่บ้าง ก็ตรงที่เขาจะมีการนำอาหารใต้แท้ๆ แบบดั้งเดิมที่เป็นอาหารพื้นถิ่น ของจังหวัดนครศรีธรรมราช นำมาปรุงขายในร้านด้วย เช่น ไฮไลท์ของร้าน คือ แกงส้มกบ แกงส้มลูกปลาหมอ ปลากด ต้มหนาง หมู หนางเนื้อ เป็นต้น

ส่วนเมนูปกติของทางร้าน เหมือนแกงใต้ทั่วๆไป เช่น ไตปลา คั่วกลิ้ง ผัดฉ่าปลาช่อน แกงคั่วปลาดุก น้ำยาปู น้ำยาปลา ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้ คือ น้ำพริก ผักสดที่เสิร์ฟลูกค้าจุดขายของร้านอาหารใต้ เช่นเดียวกับร้านข้าวแกงใต้ ทั่วๆไป โดยมีรายการอาหารให้ลูกค้าเลือกวันละ 30 อย่าง หมุนเวียนกันไป แต่ที่มียื่นพื้นและไม่ได้เปลี่ยนมากกว่า 10 เมนู

อาหารปักษ์ใต้ มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“โค้ชอู๊ด” ยังบอกอีกว่า อาหารใต้ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด จะมีความแตกต่างกันในแต่ละจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง รสชาติใกล้เคียงกัน กินอาหารรสจัดกว่า จังหวัดในแถบ สงขลา นราธิวาส ยะลา กินรสชาติไม่เหมือนกันเลย แม้แต่ตัวพริกแกงเอง ซึ่งพริกแกงของร้านเราจะต้องสั่งตรงมาจากนครศรีธรรมราช เราจะไม่ใช้พริกแกงของที่อื่นๆ เพราะอาหารใต้พริกแกงส่วนสำคัญ ที่ให้รสชาติอาหารแตกต่าง

ทั้งนี้ ปัจจุบันจะเห็นว่าร้านอาหารข้าวแกงใต้ได้รับความนิยมในกลุ่มของคนเมืองหลวง และในหลายๆ จังหวัด ดูได้จากจำนวนร้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เปิดอยู่เป็นจำนวนมากนั้น “โค้ชอู๊ด” มองว่า คงมาจากรสชาติที่เข้มข้นและจัดจ้าน ทำให้คนภาคอื่นๆ หรือ คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบ ซึ่งร้านของโค้ชเองก็พยายามจะคงความเป็นอาหารใต้ที่จัดจ้านเอาไว้ แต่ที่มีปรับ คือ รสชาติที่เผ็ดร้อน น้อยลง เพราะคนกรุงเทพฯ จะกินเผ็ดได้ไม่เท่ากับเรา ในตอนแรกไม่ได้ปรับเลย ลูกค้าหลายคนกินไม่ไหว ก็เลยต้องปรับความเผ็ดลงมา แต่อย่างอื่นๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม

ยอดขายหลักหมื่นบาทต่อวัน
สำหรับยอดขายของ “นายอู๊ด ข้าวแกงปักษ์ใต้” ของ โค้ชอู๊ด รายนี้ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะมียอดขายบางวันสูงถึง 15,000 บาท ราคาขายต่อจานๆละ 50 บาท ซึ่งขายหมดแถบทุกวัน โดยเริ่มขายกันตั้งแต่เปิดร้าน 7 โมงเช้า และขายหมดปิดร้านประมาณบ่าย 3 โมง ลูกค้าประจำจะแวะเวียนมากินกันตลอด โดยเฉพาะพนักงานที่ทำงานในย่านนั้น และคนขับรถแท็กซี่ แต่พอหลังจากได้ออกรายการโทรทัศน์ Who is my chef โต๊ะนี้มีจองของ เวิร์คพ้อยท์ จะมีหลายคนเดินทางมาไกลๆ เพื่อจะมากินแกงส้มกบ ที่ออกในรายการบ้าง

เปิดให้ผู้สนใจมารับไปตักขายต่อ

ส่วนแผนในอนาคต โค้ชอู๊ด บอกว่า ด้วยเวลาการทำงานที่ไม่แน่นอน ประกอบกับอาชีพหลักของเขายังคงเป็นโค้ช ทำให้ตอนนี้เราก็คงไม่คิดว่าจะขยายเพิ่มสาขาร้าน เพราะแค่ทำทุกวันนี้ก็เหนื่อยมากแล้ว แต่ด้วยความที่มีหลายคนสนใจต้องการจะขายอาหารปักษ์ใต้แท้ๆ ที่เป็นสูตรของเหมือนกับร้านของเราเข้ามาเป็นจำนวนมาก

“ผมก็เลยเกิดไอเดียว่า เราคงไม่ได้ขายแฟรนไชส์ หรือ สอนสูตรการทำอาหารให้ แต่เราจะทำในลักษณะส่งอาหาร และถ้าใครสนใจก็รับไปตักขายต่อเอง ซึ่งเขาจะนำไปขายในรูปแบบไหนเราไม่ได้จำกัด จะใช้ชื่อเรา หรือใช้ชื่อตัวเองก็แล้วแต่เขา แต่ที่มองๆไว้ และเห็นว่ายังมีคนทำน้อย การทำในลักษณะฟู้ดทรัคส์ อาจจะมีรถสักคัน และมารับแกงจากที่ร้านของเราไปตระเวนขาย หรือ จอดที่ตามออฟฟิศ ตั้งโต๊ะเล็กให้ลูกค้านั่งกิน อันนี้เป็นแผนที่วางไว้ ถ้าใครสนใจก็ลองติดต่อมาพูดคุยกันได้”

ประวัติเส้นทางของ โค้ชมืออาชีพคนนี้

สำหรับประวัติของ “สระราวุฒิ ตรีพันธ์” หรือ โค้ชอู๊ด ปัจจุบันอายุ 40 ปี เป็นชาวนครศรีธรรมราช เคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยมาก่อน สร้างชื่อเมื่อครั้งเป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งกับมาเลเซีย และได้เหรียญทองซีเกม เมื่อปี 2001 ซึ่งการแข่งขันในครั้งนั้น เขาได้เป็นกองหน้าและเป็นผู้ทำประตูให้ทีมชาติไทยชนะเสือเหลืองมาเลเซีย คว้าเหรียญทองซีเกมส์

ส่วนเส้นทางการเป็นโค้ชอาชีพของเขา เริ่มขึ้นจากอะคาเดมีเมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนไปทำหน้าที่เป็นกุนซือทั้งชุดใหญ่ ชุดเล็กหลายๆ สโมสร เช่น นนทบุรี เอฟซี ,ศุลกากร ยูไนเต็ด,ชัยนาท เอฟซี , บางกอก เอฟซี และ เอสซีจี เมืองทอง และล่าสุด ได้รับหน้าที่เป็นโค้ชในการดูแล ทีมการท่าเรือ ของมาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”

ในส่วนการเปิดร้านอาหารในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจากความไม่แน่นอนในอาชีพโค้ช “โค้ชอู๊ด” บอกว่า การเป็นโค้ช ต้องขึ้นอยู่กับผลงาน และถ้าผลงานของเราไม่ดี ก็จะไม่มีคนจ้าง โอกาสตกงานก็มีสูง ซึ่งผมเองมีครอบครัวที่ต้องดูแลหลายชีวิต พอได้มาทำร้านอาหาร ก็มีรายได้เข้ามาทุกวัน อาจจะไม่ได้มากเท่าอาชีพการเป็นโค้ช เพราะค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็ช่วยสร้างรายได้ให้กับเราและคนในครอบครัว ถ้าเราไม่มีงานในอนาคต

ติดต่อ FB: นายอู๊ด999 ข้าวแกงปักษ์ใต้-เมืองทอง