จากไกด์นำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ต้องพักงานไปแบบไม่มีกำหนดเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทำให้ต้องเพิ่มช่องทางทำมาหากินอีก 1 ช่องทาง นั่นคือการเปิดร้านลิฟซีน Burger ซึ่งขายเบอร์เกอร์ในราคา 19 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงและจับต้องได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีโครงการปันรอยยิ้มให้น้อง ช่วยเหลือเด็กพิการและคนชราอีกด้วย
ชนิกานต์ เส็นดากัน เจ้าของร้าน ลิฟซีน Burger 19 บาท เล่าว่า จุดเริ่มต้นการทำร้านเบอร์เกอร์ 19 บาทขึ้นมานั้น เริ่มต้นจากการที่เดิมทีตนมีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยวแต่ต้องมาพักงานแบบไม่มีกำหนดเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จึงจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มบวกกับตนได้ทำโครงการ ปันรอยยิ้มให้น้อง ช่วยเหลือเด็กกำพร้า คนชรา ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวตนได้ทำก่อนหน้าที่มาขายเบอร์เกอร์ จึงเป็นที่มาของการเริ่มสร้างธุรกิจขายเบอร์เกอร์ในราคา 19 บาท เพราะเป็นราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย และถ้าหากลูกค้าเข้ามาซื้อแล้วได้รับเงินทอน 1 บาทลูกค้าก็จะบริจาคสมทบเข้ากับโครงการอีกด้วย ปัจจุบันร้าน ลิฟซีน Burger เปิดมาได้ประมาณ 4 เดือน
ทั้งนี้ความแตกต่างระหว่างเบอร์เกอร์ของตนกับของคนอื่นนั้น ตนเผยว่าความต่างจะอยู่ที่ตัวของซอสซึ่งจะมีรสชาติที่ไม่เหมือนคนอื่น ตนได้ทดลองสูตรที่ทั้งผิดและถูกจนได้เป็นสูตรที่ลงตัวที่สามารถนำมาขายได้ ในส่วนของการทำการตลาดนั้นในช่วงเปิดร้านแรกๆ ได้มีการโปรโมทร้านผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ โซเชียลต่างๆ เพราะในยุคปัจจุบันช่องทางออนไลน์เป็นที่นิยมสำหรับการโปรโมทสินค้า รวมถึงได้มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น เมื่อลูกค้าซื้อเบอร์เกอร์ของทางร้านก็จะแถมเครื่องดื่มให้ หลังจากลูกค้าได้กินก็เกิดการบอกต่อ เนื่องด้วยรสชาติที่อร่อยและราคาที่จับต้องได้ของสินค้า จึงเกิดการบอกต่อเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้วัตถุดิบที่เลือกนำมาปรุงแต่งนั้นเป็นวัตถุดิบที่ดี สะอาด ปลอดภัย ไม่เพียงแค่ขายให้กับลูกค้า แต่ตนและคนในครอบครัวก็ทำกินเองเช่นเดียวกัน ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาสนับสนุนส่วนมากจะเป็นลูกค้าในพื้นที่และอำเภอใกล้เคียง สำหรับเมนูของทางร้านที่นอกจากตัวเบอร์เกอร์แล้วนั้นยังมี ลูกชิ้นปิ้ง ขนมปังปิ้งเตาถ่าน โจ๊ก ข้าวต้ม เครื่องดื่มต่างๆ ส่วนเบอร์ก็จะมีเบอร์เกอร์ ไก่ เนื้อ ไข่ ซึ่งราคา 19 บาทนั้นเป็นราคามาตรฐานของทางร้านแต่ถ้าหากใครสั่งซื้อเพิ่ม เช่น สั่งเบอร์เกอร์เนื้อห่อไข่ก็จะได้ในราคา 30 บาท หรือ เบอร์เกอร์เนื้อเพิ่มพิเศษเนื้อเข้าไปอีกก็จะอยู่ที่ราคา 40 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวก็ยังสามารถเข้าถึงลูกค้าและลูกค้าก็ยังจับต้องง่ายอีกด้วย
สำหรับผลตอบรับจากลูกค้าตั้งแต่เปิดร้านมาเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าผลตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าที่เคยมาซื้อไปแล้วก็กลับมาซื้อซ้ำ แต่ในตอนนี้ทางร้านมีเพียงหน้าร้าน ยังไม่มีการขายแบบเดลิเวอรี่เพราะว่าเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ และยังไม่สะดวกในการขายแบบเดลิเวอรี่ รวมถึงผู้ช่วยในร้านก็มีงานอย่างอื่นทำ และลูกหลานต้องไปโรงเรียน กว่าจะกลับก็ช่วงเย็นถึงจะเข้ามาช่วยงานที่ร้านได้ ทั้งนี้ร้านลิฟซีน Burger เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16:30-22:00 น. วันอาทิตย์หยุด โดยใน 1 วันสามารถขายเบอร์เกอร์ได้ประมาณ 100 ชิ้น และในส่วนการรับงานจัดเลี้ยงตามโรงเรียนหรือหน่วยงานก็จะมีสั่งเข้ามางานละ 100 – 150 ชิ้น ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านมามีลูกค้าสั่งเบอร์เกอร์งานจัดเลี้ยงได้ประมาณ 10 งาน
ทั้งนี้ปัจจุบันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ทางร้านได้มีการวางแผนรับมือในส่วนของลูกค้าที่ไม่สะดวกมานั่งกินที่ร้าน โดยที่ทางร้านจะมีบริการส่งถึงที่ รวมถึงเพิ่มโปรโมชั่นเมนูต่างๆ ให้ลูกค้า ซึ่งในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจเบอร์เกอร์ 19 บาทให้ไปในทิศทางของการขยายสาขา เพิ่มสินค้าตัวใหม่ที่เป็นแบรนด์ตัวเองและจัดขายในท้องตลาดต่อไป
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : ลิฟซีน Burger
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
