xs
xsm
sm
md
lg

ประกาศรายชื่อ ร้านเด็ดดาวมิชลิน ประจำปี 2564

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มิชลิน ประกาศรายชื่อร้านอาหารที่คว้ารางวัล ‘ดาวมิชลิน’ (MICHELIN Star) รวมทั้งผู้ได้รับ 3 รางวัลใหม่ที่เพิ่มเข้ามาครั้งแรกในปีนี้ ได้แก่ MICHELIN Green Star รางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารซึ่งใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน, MICHELIN Guide Young Chef Award รางวัลที่มอบให้กับเชฟรุ่นใหม่ที่โดดเด่น และ MICHELIN Guide Service Award รางวัลสำหรับบุคลากรผู้ให้บริการยอดเยี่ยม

เกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2564 มีร้านอาหารเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับการเลื่อนระดับจาก 1 ดาวมิชลิน เป็น 2 ดาวมิชลิน นั่นคือ Chef’s Table (เชฟส์เทเบิล) ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย ที่นำวัตถุดิบชั้นเลิศคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมโลกมาประกอบอาหาร ด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม เมื่อรวมกับร้านอาหารอีก 5 ร้านที่ยังคงรักษาสถานะ 2 ดาวมิชลินเอาไว้ได้ ทำให้ยอดรวมร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินในปีนี้อยู่ที่ 6 ร้าน ดังนี้

สำหรับรางวัล 1 ดาวมิชลิน มีร้านอาหารที่ติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เป็นครั้งแรกและคว้ารางวัลนี้ไปครองรวม 2 ร้าน ได้แก่ Blue by Alain Ducasse ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย ซึ่งนำเสนอเมนูที่รังสรรค์อย่างประณีตจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ผ่านกรรมวิธีการปรุงด้วยเทคนิคแบบฝรั่งเศสดั้งเดิม และ Cadence by Dan Bark (เคเดนซ์) ร้านอาหารเชิงนวัตกรรมที่ผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว ทั้งยังนำเสนอศิลปะสไตล์เกาหลีผ่านอาหารเชิงนวัตกรรมที่ทันสมัย

นอกจากนี้ ยังมีร้านที่ได้รับการเลื่อนระดับจาก ‘มิชลิน เพลท’ อีก 1 ร้าน นั่นคือ Sushi Masato ซูชิบาร์สไตล์โอมากาเสะที่มีลักษณะแบบ Chef’s Table ซึ่งเชฟเป็นผู้กำหนดเมนูและมีที่นั่งจำกัด วัตถุดิบที่ใช้ล้วนมีคุณภาพเยี่ยมและสั่งตรงจากญี่ปุ่น เมื่อรวมกับร้านอาหารอีก 19 ร้านที่ยังคงรักษาสถานะ 1 ดาวมิชลินเอาไว้ได้ ทำให้ยอดรวมร้านอาหารระดับ 1 ดาวมิชลินในปีนี้อยู่ที่ 22 ร้าน

สำหรับ 3 รางวัลใหม่ ที่เพิ่มเข้ามาครั้งแรกในปีนี้ คือรางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ได้แก่ PRU ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลินในจังหวัดภูเก็ต คว้ารางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ทั้งนี้ PRU เป็นแบบอย่างที่โดดเด่นในด้านการประกอบอาหารอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นเผยแพร่หลักปรัชญา “Dine Good, Do Good” หรือ “กินดีอยู่ดี” ด้วยการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ การใช้สารเคมี และขยะอาหาร นอกจากนี้ ยังประกอบอาหารโดยเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในประเทศเท่านั้น ซึ่งครอบคลุมอาหารทะเลที่ไม่ได้ออกจับในฤดูวางไข่และเนื้อสัตว์จากฟาร์มเลี้ยงแบบเปิด รวมทั้งยังมีทีมวิจัยที่จัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ขึ้นเพื่อสงวนพืชพรรณในท้องถิ่นให้คงอยู่ส่วนรางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award


ทั้งนี้ มอบให้กับเชฟรุ่นใหม่ระดับดาวมิชลินที่โดดเด่น ได้แก่ เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ หัวหน้าเชฟร้านสวรรค์ (กรุงเทพฯ) เชฟอ้อมเกิดในครอบครัวนักทำอาหาร จึงเติบโตขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแวดล้อมของอาหารและการปรุงอาหารอย่างมืออาชีพ หลังจบหลักสูตรจากโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เชฟอ้อมได้มีโอกาสสะสมประสบการณ์การทำงานร่วมกับเชฟระดับดาวมิชลินหลายราย อาทิ ฮวน อมาดอร์ (Juan Amador) และ โธมัส เคลเลอร์ (Thomas Keller) ที่เดินทางมาเป็นเชฟรับเชิญ ณ ห้องอาหารเลอ นอร์มังดี จากนั้นได้สั่งสมประสบการณ์ด้านเทคนิคการปรุงอาหารระดับโมเลกุล (Molecular Cooking Techniques) ที่ร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ต่อมาในปี 2559 เชฟอ้อม และ เฟรเดอริก เมเยอร์ (Frederic Meyer) ได้ร่วมกันเปิดร้านอาหาร “บ้านผัดไทย” ซึ่งได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ในปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ร้านสวรรค์ถือเป็นจุดสูงสุดบนเส้นทางด้านอาหารและการรังสรรค์เมนูอาหารไทยของเชฟอ้อม

และรางวัล MICHELIN Guide Service Award ซึ่งมอบให้กับบุคลากรผู้ให้บริการยอดเยี่ยมที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ และได้รับประสบการณ์การทานอาหารสุดประทับใจ ได้แก่ กิลโยม บาร์เรย์ (Guillaume Barray) ผู้จัดการทั่วไป ร้าน Chef’s Table (กรุงเทพฯ) ที่ยึดมั่นในประสิทธิภาพ ความซื่อสัตย์ และความมุ่งมั่นทุ่มเทที่มีต่อผลิตภัณฑ์และธรรมเนียมอันดี เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

ผู้สนใจสามารถคลิกดูรายชื่อและข้อมูลร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’ ประจำปี 2564 (The MICHELIN Guide Bangkok, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2021) ซึ่งจัดทำเป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ได้ทางเว็บไซต์ guide.michelin.com/th/th ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ศกนี้เป็นต้นไป สำหรับคู่มือแบบรูปเล่มจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ในราคาเล่มละ 650 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม เป็นต้นไป


กำลังโหลดความคิดเห็น