วันดินโลก (World Soil Day) ถูกกำหนดขึ้นตามมติขององค์การสหประชาชาติ ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเงินของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญที่ 68 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2556 ให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก (World Soil Day) โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของทรัพยากรดิน ต่อการพัฒนาด้านการเกษตร โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ
ทั้งนี้สาเหตุที่กำหนดให้วันดินโลก ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมนั้น สืบเนื่องจากการประชุมสภาโลกแห่งปฐพีวิทยา (World Congress of Soil Science) ครั้งที่ 17 เมื่อปี พ.ศ. 2545 ทางสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Sciences) ได้ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาทรัพยากรดิน โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการเกษตร จึงได้เลือกวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ เป็นวันดินโลก เพื่อเทิดพระเกียรติในพระวิริยะอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในด้านการปกป้องและพัฒนาทรัพยากรดิน
"วันดินโลก (World Soil Day)" เป็นวันสำคัญที่นักปฐพีวิทยาทั่วโลก 60,000 คน จะเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปี ซึ่งนักปฐพีวิทยาของไทยทุกคนภาคภูมิใจ เนื่องจากวงการปฐพีวิทยานานาชาติ มีฉันทานุมัติ เลือกวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เป็นวันดินโลก และนักปฐพีวิทยาของไทยมีส่วนร่วมในการเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์และพัฒนา ทรัพยากรดินขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ทางดินจากทั่วโลกมาร่วมประชุม ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรดิน รวมถึงการจัดตั้งโครงการพระราชดำริ ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ..... ซึ่งนิทรรศการดังกล่าว ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมประจักษ์ถึงพระวิสัยทัศน์ในการบริหารทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยทรงให้ความสำคัญกับทรัพยากรดิน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่สนพระราชหฤทัยในวิทยาศาสตร์ทางดิน และ ผลสำเร็จจากการบริหารจัดการดินอย่างต่อเนื่องของพระองค์เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในประเทศและระดับ นานาชาติ.....
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานวันดินโลก ได้มีการจัดงานวันดินโลกอย่างต่อเนื่องทุกปี และในปี 2563นี้ มีการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา ชุมชน เกษตรกร เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวันดินโลก และสร้างความตระหนักเรื่องความสำคัญของทรัพยากรดิน มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แก่ หน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน วัด โรงเรียน ชุมชน เกษตรกร ประชาชนทั่วไป และหน่วยงานต่างประเทศ ซึ่งมีการกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 4 – 8 ธันวาคม 2563 ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยดินแห่งภูมิภาคเอเชีย (CESRA) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ในการจัดกิจกรรมวันดินโลก โดยกลุ่มสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก (GSP) จะกำหนดหัวข้อหลักการจัดงานในแต่ละปี โดยคัดเลือกประเด็นสำคัญที่ต้องการผลักดันให้เกิดข้อสรุปหรือผลกระทบ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของโลก เน้นความสำคัญของการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาดิน ซึ่งจะส่งผลถึง ความมั่นคงและปลอดภัยทางอาหาร เพื่อให้ตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 2 คือการขจัดความอดอยากหิวโหย หรือ Zero Hunger ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2573
จัดยิ่งใหญ่ “ภูมิพลังแผ่นดิน” เนื่องในวันดินโลก
นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ฯ จังหวัดปทุมธานี จัดงานมหกรรม "ภูมิพลังแผ่นดิน" ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปี ของทางพิพิธภัณฑ์ ฯ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สดุดีพระเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะที่ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม ที่ทรงพระราชกรณียกิจพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรดินที่ประสบความสำเร็จผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและนานาประเทศ
ทั้งนี้ การจัดงานมหกรรมภูมิพลังแผ่นดิน ครั้งนี้ ได้มีการนำพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาทรัพยากรดินเพื่อการเกษตรมาเผยแพร่ และในปีนี้ 2563 สมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก (Global Soil Partnership : GSP) ได้กำหนดหัวข้อการจัดงานวันดินโลก “Keep soil alive, protect soil biodiversity : รักษ์ปฐพี คืนชีวีที่หลากหลายให้ผืนดิน” ภายในงานจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ อาทิ นิทรรศการรักษ์ปฐพี คืนชีวีที่หลากหลายให้ผืนดิน นิทรรศการภูมิพลังแผ่นดิน แผ่นดินนี้มีพลัง นิทรรศการรักแผ่นดินตามรอยพ่อ
นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ศาสตร์พระราชาจากการอบรมวิชาของแผ่นดิน และอบรมเชิงปฏิบัติการ อาทิ หลักสูตรเกษตรแปลก แหวกแนว โดยอาจารย์ปา ไชยปัญหา หลักสูตรเกษตรสวนทาง สร้างรายได้ โดยอาจารย์วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ หลักสูตรพลังแผ่นดิน พลังชีวิต โดยอาจารย์ไพโรจน์ อรรคสีวร เป็นต้น ชม ช้อป สินค้าเกษตรอินทรีย์จากเกษตรกรในตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียงกว่า 300.บูธ พิเศษ วันที่ 5 ธันวาคม 2563 ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ และร่วมกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย”
นางสาวสมพิศ วงศ์ปัญญา รองผู้อำนวยการ (ฝ่ายบริหาร)รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวถึง พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี ว่า เกิดขึ้นมาจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี ในปีพุทธศักราช 2539 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2539 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2545 ต่อมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการจัดตั้งสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) เพื่อดำเนินการบริหารงานตามพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2552
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และขับเคลื่อนหลักด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร โดยปัจจุบันสมาชิกที่เป็นเครือข่ายเกษตรกร ภายใต้การทำงานของพิพิธภัณฑ์ฯ ทั่วประเทศทั้ง 4 ภาค และจะมาแลกเปลี่ยนความรู้ พร้อมกับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อบรมให้ความรู้คนทั่วไป ด้านการทำเกษตรทฤษฏีใหม่ หรือ มหกรรมตลาดนัด เกษตรกร นำผลผลิตที่ปราศจากสารเคมีมาจำหน่าย ในทุกๆเดือนที่มีการจัดกิจกรรม
นายสมเกียรติ ไพฑูรย์ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่าย พวกเราเข้ามาทำงานเรื่องของการสืบสาน รักษาต่อยอด ที่แห่งนี้เป็นเสมือนบ้านของพี่น้องเครือข่ายทั้ง 4 ภาครวมตัวกัน นับถึงวันนี้ผ่านมา 10 ปี เป้าหมายของเรา คือชื่อของ “ภูมิพลังแผ่นดิน” เนื่องจากเป็นเรื่องราวของรัชกาลที่ 9 ที่ท่านได้ถ่ายทอดเรื่องราวให้พวกเราได้รับไปทำ ไปเรียนรู้ เรื่องของหลักธรรม ซึ่งสำคัญความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งชื่อ “ภูมิพลังแผ่นดิน” คือ แผ่นดินนี้มีพลัง พลังที่เป็นเรื่องราวของเกษตร เพราะฉะนั้นองค์ความรู้ที่มี ก็เลยถูกนำมาถ่ายทอดบทเรียน ใช้บทเรียนทั้งความสำเร็จและความล้มเหลียว แต่สิ่งสำคัญ ของพี่น้องเครือข่ายของเรา คือ เรื่องการทำเกษตรอย่างไรให้มีความสุข ถ้าทำแล้วมีความสุขแสดงว่าตรงนั้นตอบโจทย์ชีวิต และพี่น้องเครือข่ายในแต่ละพื้นที่ใช้พลังที่ซ่อนอยู่มาจัดการในทุกเรื่อง เช่น การจัดการดิน จัดการน้ำ จัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาประกอบเป็นวิถีเรื่องของอาหารการกิน ที่หล่อเลี้ยงผู้คน
“ส่วนตัวผมเอง มองว่า สิ่งที่เครือข่ายเรากำลังพยายาม คือ สืบสานรักษา ต่อยอด เรื่องราวของพระองค์ท่านนำมาหล่อเลี้ยงชีวิตทำให้มันเกิดเรื่องของธุรกิจ เรื่องของวิถีที่นำเรื่องราวเหล่านี้มาทำให้ชีวิตดีขึ้น หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชน”
ทำไมต้องมี “วันดินโลก”
"ดิน" เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่าสำคัญต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก ในด้านการพัฒนาการ เกษตร ดินเป็นแหล่งผลิตอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และเชื้อเพลิง ดินช่วยพัฒนาระบบนิเวศให้มีความยั่งยืน เอื้อ ให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ ช่วยดูดซับคาร์บอน และบรรเทาผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มนุษย์ใช้ดินเป็นที่ตั้งของที่อยู่อาศัยและเมือง เป็นที่ทิ้งขยะ เป็นตัวกรองและทำน้ำให้สะอาด
ดินนับวันจะเสื่อมโทรมลง...หากขาดการอนุรักษ์และพัฒนาที่ดินอย่างยั่งยืน ความต้องการใช้ทรัพยากรดินมีเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ ดินเป็นทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด และไม่สามารถนำกลับ มาทดแทนใหม่ หากมีการเสื่อมสลายไป การใช้ที่ดินผิดประเภท ขาดการอนุรักษ์ และป้องกันปัญหาที่ถูกต้อง จะก่อให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมของดินที่ส่งผลต่อคุณภาพ กำลังผลิตของดิน และกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ ซึ่งหากดินมีความเสื่อมโทรมที่รุนแรงมาก การฟื้นฟูดินให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์เหมือนเดิมจะทำได้ยาก
โทร 0-2529-2212 FB : พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
* *คลิกLikeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager