รัฐบาล นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง จัดทำโครงการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม
โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียน จำนวน 10 ล้านคน และรับสิทธิ์ ในการซื้อสินค้าร้านที่เข้าร่วมโครงการในราคาครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง วงเงินคนละ 3,000 บาท ใช้สิทธิ์ ได้วันละไม่เกิน 150 บาท ซึ่งสิทธิ์ นี้จะใช้ได้ถึง สิ้นปี 2563 โดยได้เริ่มลงทะเบียนวันแรก 23 ตุลาคม 2563 ซึ่งขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนครบตามจำนวนดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ มาดูว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ มีปฏิกิริยา หรือ ผลตอบรับออกมาอย่างไรกันบ้าง โดยทางทีม SME ผู้จัดการ ได้ลงสำรวจร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้
ร้านนาผลไม้ ย่านตลาดวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
นส.วรรณา บัญริด เจ้าของร้าน กล่าวถึง การเข้าร่วมโครงการนี้ว่า หลังจากได้เข้าร่วมโครงการ ยอดขายดีขึ้นเรื่อย ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น เพราะได้จ่ายในค่าผลไม้ ในราคาครึ่งเดียว เห็นว่าโครงการนี้ดี มีประโยชน์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ยอดขายกลับมาคึกคัก ก่อนหน้านี้ เงียบเหงา ช่วงโควิดยอดขายตกมาก แต่หลังจากเข้าร่วมโครงการลูกค้าก็เพิ่มมากขึ้นมาตลอด
สตาร์บัง ร้านเครื่องดื่ม ย่านถนนพระอาทิตย์
นางชลธิชา แสงวิมาน เจ้าของร้านรถเข็น สตาร์บัง กล่าวว่า ตนเองได้ เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งทาง ตั้งแต่เริ่มต้น โดยทางธนาคารกรุงไทย ได้ลงพื้นที่สอบถามร้านค้า ที่จะเข้าร่วมโครงการ เเละทำการแนะนำ พร้อมกับสมัครให้ หลังจากเข้าร่วมโครงการ ยอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก เพราะตั้งแต่ช่วงโควิด ทำให้ ถ.พระอาทิตย์เงียบลงไปมาก ไม่มีนักท่องเที่ยว ซึ่งลูกค้าชื่นชอบกันมาก เพราะปกติน้ำแก้วใหญ่ 35 บาท จ่าย 17.50 บาท หรือ เเก้วเล็ก 25 บาท จ่าย 12.50 บ. ปกติรวมแล้วต้องจ่าย 60 บาท แต่เมื่อมีโครงการทำให้ลูกค้าจ่ายเพียง 30 บาท บรรยากาศร้านกลับมาคึกคัก มีลูกค้าใหม่ๆ แวะเวียนมา ลูกค้าที่ไม่เคยกินก็มากิน
ร้านแฟรนไชส์ ชานมไข่มุก แบรนด์ OWL CHA
สิณี จุลเสวท เจ้าของแฟรนไชส์ชานมไข่มุก แบรนด์ OWL CHA ตลาดมารวยปิ่นเกล้า เล่าว่า ร้านตนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งแต่ลาออกมาเปิดร้านแฟรนไชส์ชานมไข่มุกในตลาดมารวยปิ่นเกล้า เปิดมาได้ประมาณ 3 เดือน ในช่วงแรกที่ยังไม่เข้าร่วมจะมีร้านค้าไม่กี่ร้านที่เข้าร่วมก่อน ซึ่งลูกค้าก็เข้ามาใช้บริการและต่อคิวยาวเมื่อเห็นดังนั้นก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นเจ้าแรกๆ ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากลูกค้ามีความต้องการส่วนลดจากราคาปกติ
ทั้งนี้ราคาชานมไข่มุกของทางร้านมีตั้งแต่ราคา 19 บาทไปจนถึง 54 บาท ไม่รวมค่าท็อปปิ้ง ซึ่งปกติแล้วก่อนเข้าร่วมโครงการลูกค้าจะซื้อชานมไข่มุกในราคา 19 บาทมากกว่าแต่พอเข้าร่วมลูกค้าจะซื้อในราคาที่แพงขึ้น เช่น 40-50 บาท แต่จ่ายครึ่งเดียวซึ่งเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีกำลังซื้อ นอกจากนี้ลูกค้าที่มาใช้สิทธิ์จะมีมากกว่าลูกค้าที่ไม่ใช่สิทธิ์
สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง” ทางร้านให้ข้อมูลว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์สามารถชวยได้ทั้งแม่ค้าและลูกค้า ลูกค้าตัดสินใจซื้อของได้ง่ายขึ้นกล้าตัดสินใจซื้อเมนูที่มีราคาสูงแต่จ่ายในราคาครึ่งเดียว ส่วนแม่ค้าจากที่ขายได้บ้างไม่ได้บ้างพอเข้าร่วมก็สามารถขายได้ต่อเนื่อง ทางร้านเองก่อนเข้าร่วมจะขายได้ 100 แก้วต่อ 1 วันแต่เมื่อเข้าร่วมแล้วสามารถขายได้วันละ 200 แก้ว ทำให้ยอดขายเพิ่ม
มากขึ้น 30-50% จากเดิมตลาดมารวยปิ่นเกล้าค่อนข้างเงียบแต่พอมีโครงการนี้ก็เริ่มครึกครื้นลูกค้าเข้ามาใช้สิทธิ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทางร้านใช้เวลาในการเตรียมตัวยื่นเอกสารและข้อมูลร้านเพื่อเข้าร่วมประมาณ 2 วัน ถึงจะสำเร็จเนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายรายที่ต้องการเข้าร่วม ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:30-19:30 น. ณ ตลาดมารวยปิ่นเกล้า ซึ่งตลาดมารวยปิ่นเกล้ามีร้านค้าที่หลากหลาย ทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่มและเข้าร่วมโครงการเกือบทุกร้าน
ร้าน So good เครื่องประดับ
พรชัย หอยสังข์ ร้าน So good เครื่องประดับ เดอะแพลทตินั่ม แฟชั่นมอลล์ เล่าว่า ทางร้านเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากร้าน So good แล้วยังมีร้าน Jane Accessories Collection รวมไปถึงร้าน Ami Accessories Shop ที่ขายเป็นเครื่องประดับเช่นเดียวกัน สำหรับการเข้าร่วมโครงการในช่วงแรกทางร้านยังไม่ได้เข้าร่วมในทันที แต่โครงการรอบล่าสุดก็มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารเข้ามาให้คำแนะนำเรื่องการใช้งานแอปพลิเคชั่น ต่างๆ จึงตัดสินใจสมัครและเข้าร่วมโครงการ
อีกทั้งช่วง โควิด-19 ทำให้สถานการณ์ที่ร้านถือได้ว่าย่ำแย่อยู่เหมือนกัน เนื่องจากทางร้านต้องพึ่งลูกค้าชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ สัดส่วนของลูกค้าชาวต่างชาติมากถึงร้อยละ 70-80 ส่วนลูกค้าชาวไทยในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาก็ใช้เงินกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น
หลังจากที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งก็ทำให้ลูกค้ากล้าที่จะจับจ่ายมากขึ้น ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อของประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกระดับ มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจากช่วงโควิด-19 อีกระดับ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นโดยประมาณร้อยละ 20-30
ร้าน So good เครื่องประดับ ตั้งอยู่ที่ ชั้น5 เดอะแพลทตินั่ม แฟชั่นมอลล์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น.
ร้าน Nawa-Orn Kids จำหน่ายปลีก-ส่ง เสื้อผ้าเด็ก
อรอนงค์ วงศ์วิมาน ร้าน Nawa-Orn Kids จำหน่ายปลีก-ส่ง เสื้อผ้าเด็ก เดอะแพลทตินั่ม แฟชั่นมอลล์ เล่าว่า ทางร้านเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากหน้าร้านที่ เดอะแพลทตินั่ม แฟชั่นมอลล์ แล้วยังมีหน้าร้านที่ตลาดนัดอีก 2 ที่ สำหรับการเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วม ตนก็เริ่มเตรียมตัวในช่วงที่มีข่าวเรื่องโครงการคนละครึ่งออกมา
ทั้งนี้ในช่วงล็อคดาวน์จาก โควิด-19 ก็มีผลให้ต้องปิดร้านนานถึง 2 เดือนเต็ม ร้านข้างนอกก็ยอดขายลดลง แต่หลังจากที่กลับมาเปิดร้านได้ปกติแล้ว กลุ่มลูกค้าก็ยังคงมีจำนวนน้อยเช่นเดิม เนื่องจากลูกค้าส่วนให้เป็นชาวต่างชาติ ตอนนี้จึงเป็นลูกค้าคนไทยเป็นหลัก แต่ก็ยังไม่กล้าจับจ่ายกันมากนัก
หลังจากที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นไปในทางที่ดีกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย มีลูกค้าหลายรายที่เข้ามาซื้อของเนื่องจาก เห็นป้ายของโครงการที่ติดไว้บริเวณหน้าร้าน บางรายหลังจากเห็นป้ายก็เข้ามาสอบถามข้อมูลและรับสิทธิ์
ร้าน Nawa-Orn Kids จำหน่ายปลีก-ส่ง เสื้อผ้าเด็ก ตั้งอยู่ที่ ชั้น5 เดอะแพลทตินั่ม แฟชั่นมอลล์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น.
* * *คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager