xs
xsm
sm
md
lg

กสอ.ดันผู้ประกอบการอุตฯ โลหการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโลหการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อปรับกระบวนการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมเชิญร่วมงาน Metalex 2019 มหกรรมเครื่องจักรกลโลหการ

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยเพื่อเข้าสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจไปสู่ "Value-Based Economy" หรือ "เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม" ดังนั้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จึงได้มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีให้เป็น Smart SMEs ที่มีศักยภาพสูง ผ่านกระบวนการเรียนรู้ ฝึกอบรมให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ทักษะ และแนวคิดในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร รวมถึงสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึง เข้าใจในการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็น Global SMEs ที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพและทักษะในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไทย

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมโลหการถือเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการตั้งแต่การผลิตวัสดุและการแปรรูปสู่ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อุตสาหกรรมโลหการจะต้องมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น การพัฒนาวัสดุผสม (Composite Material) หรือการพัฒนาวัสดุให้ทนทาน ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Material) ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำขึ้น

ในขณะเดียวกัน กสอ.ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโลหการ และอุตสาหกรรมสนับสนุน ซึ่งหมายรวมถึงอุตสาหกรรมที่ผลิตและส่งสินค้า วัตถุดิบหรือบริการให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมหล่อโลหะ อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ โดยดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center 4.0 หรือ ITC 4.0) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี เครื่องจักรกลาง การออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมงานวิจัย การต่อยอดงานวิจัยและพัฒนา การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์

การส่งเสริมเอสเอ็มอีให้ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบงานคุณภาพที่เกี่ยวข้อง เช่น ISO 9001, ISO 14001, IATF 16949 ผ่านกิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านมาตรฐาน ณ สถานประกอบการ ตลอดจนการตรวจสอบก่อน (Pre-audit) ซึ่งเมื่อเอสเอ็มอีได้รับรองมาตรฐานแล้วก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในด้านการควบคุมคุณภาพ การลดของเสีย และเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศและสากล

นอกจากกิจกรรมส่งเสริมงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานโลหการแล้ว ปัจจุบันยังมีอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์หรือพัฒนาตลาดเพิ่มเติม เช่น ผู้ประกอบการโลหการที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อาจเริ่มมองแนวทางการพัฒนาสู่การผลิตชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนอากาศยาน ซึ่ง กสอ.มีโครงการ/กิจกรรมในการส่งเสริมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรมมาตรฐาน และการพัฒนาเครือข่ายสำหรับอุตสาหกรรมใหม่ดังกล่าวเช่นกัน โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมจนประสบความสำเร็จเป็น Success Case ในด้านต่างๆ เช่น

- โครงการต้นแบบเตาหลอมประสิทธิภาพสูงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (The Model Project for An Environmentally Conscious High-Efficiency Arc Furnace) ซึ่ง กสอ.ได้ร่วมกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินการ โดยต้นแบบเตาหลอมประสิทธิภาพสูงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมผลิตเหล็กของประเทศไทยตั้งอยู่ที่ บริษัท ยู เอ็ม ซี เม็ททอล จำกัด จังหวัดชลบุรี โดยเป็นเทคโนโลยีเตาอาร์คไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ECOARC) มีกำลังผลิต 70 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2555 และเริ่มดำเนินการผลิตในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 เป็นต้นมา ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถลดการใช้พลังงานร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับเตาอาร์คไฟฟ้า (EAF) แบบเดิม

- กิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ โดย บริษัท
สยามฟอร์จิง จำกัด ดำเนินกิจการด้านการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมด้วยกระบวนการทุบขึ้นรูปร้อน
(Hot forging) โดยเป็นทั้งผู้ผลิตและจำหน่ายรวมถึงการรับผลิตตามออเดอร์ มีสินค้า อาทิ อะไหล่ยานยนต์ ได้นำเทคโนโลยีการตรวจนับแบบอัตโนมัติเข้ามาใช้แทนคน ทำให้ช่วยลดเวลาในการทำงาน รวมถึงมีข้อผิดพลาดน้อยลง เพิ่มประสิทธิภาพในไลน์การผลิตได้ถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับก่อนการปรับปรุง สร้างความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น

- โครงการพัฒนาสถานประกอบการอุตสาหกรรม ด้านเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์
โดย บริษัท ซี.ซี. ออโตพาร์ท จำกัด ซึ่งผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ ที่หันมาใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผลิต โดยเฉพาะงานเชื่อมโลหะ ทำให้พนักงานไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากแสงและการผลิตที่ผิดพลาด ลดความเสียหายได้ถึงร้อยละ 90 อีกทั้งยังเกิดความเชื่อมั่นจากลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ ทั้งนี้ การลงทุนโรบอต 1 ตัวสามารถชดเชยแรงงานได้ถึง 7 คน ใน 1 วัน ถือเป็นอัตราที่คุ้มค่าสามารถผลิตสินค้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 และการลงทุนโรบอต 1 ตัว สามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ในระยะเวลา 1 ปีเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมโลหการมีความหลากหลายอย่างมาก ซึ่งในต่างประเทศมีโรดแมปในสาขางานวิจัยและการพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าว ขณะที่ประเทศไทยเองยังมีโอกาสและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประเด็นเรื่องที่พัฒนาดังกล่าวเป็นการเพิ่มมูลค่าที่สำคัญ หรือสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทย หรือปรับให้ตรงความต้องการเฉพาะของประเทศอื่นๆ ซึ่งในงาน METALEX 2019 ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลโลหการที่ทันสมัยมารวมไว้ที่นี่ เชื่อว่าจะสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการในการพัฒนาต่อยอดและประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมโลหการในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ก้าวเข้าสู่ 4.0 อย่างเต็มตัว

พร้อมเชิญเที่ยวงาน Metalex 2019 มหกรรมเครื่องจักรกลโลหการที่ทันสมัยที่สุด 20-23 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น