โลกอีกใบของ ‘เกรท วรินทร’ หนังปลาแซลมอนกรอบ ‘คาริ คาริ’ วาดฝันไกลบุกแดนมังกร

นอกจากบทบาทการเป็นนักแสดงของ ‘เกรท วรินทร’ และ ‘กิก ดนัย’ แล้วพวกเขายังแบ่งเวลามาทำธุรกิจ ของรับประทานเล่นหรือสแนค (snack) อย่าง หนังปลาแซลมอนกรอบ รังสรรค์มา 4 รสชาติออกมาให้ลิ้มลอง แม้ธุรกิจจะดำเนินมานานครบ 1 ปีพอดิบพอดีพวกเขายังไม่หยุดนิ่งเร่งสยายปีกส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน และบุกแดนมังกร หลังมั่นใจ ในคุณภาพ ที่สามารถขายได้ด้วยตัวเอง

นักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์” เปิดใจถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจนี้ว่า เป็นการร่วมหุ้น รวมทั้งหมด 3 คนโดยมีกิจกรรมในและเพื่อนสนิท อย่าง “กิก ดนัย จารุจินดา” มาบุกเบิกธุรกิจนี้ด้วยกันโดยที่ผ่านมาเริ่มจากการร่วมหุ้นเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นกับเพื่อนที่ชื่อว่า “รัชพล กิตติรัตนาภินันท์” ขณะนี้มี 2 สาขาแล้ว โดยธุรกิจดังกล่าวเกิดจากที่พวกเขาชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่นและมักจะตะเวนไปชิมตามร้านต่างๆที่ขึ้นชื่อโดยพวกเขายอมรับว่าค่อนข้างพิถีพิถันเรื่องการกินพอสมควรต้องอร่อยและมีคุณภาพ

ดังนั้นเมื่อตัดสินใจเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีที่สุดจึงมาเป็นอันดับแรก แต่เมื่อร้านอาหารเริ่มอยู่ตัวพวกเขาที่เริ่มหลงใหลในการทำธุรกิจ จึงหาความสนุกมาทำธุรกิจใหม่กันต่อโดยมองไปที่หนังปลาแซลมอน จากอัตราการเติบโตของตลาดสแนคที่ตลาดยังเปิดกว้าง แต่ครั้นจะทำให้เหมือนคนอื่นคงจะแข่งขันยาก ดังนั้นในฐานะน้องใหม่ในวงการขอนำเทรน ‘ไข่เค็ม’ ที่กำลังเป็นกระแสมาเพิ่มรสชาติใหม่ให้กับหนังปลาแซลมอน ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลังได้รับการตอบรับดีจากการเปิดตัวในช่วงแรกสร้างยอดขายถล่มทลาย ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ที่มีวางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไทย กับแบรนด์ที่ชื่ิอว่า คาริ คาริ (kari kari) เป็นภาษาญี่ปุ่นถอดความได้ว่า กร๊อบ กรอบ

"การที่ผมเลือกนำไข่เค็มมาสร้างเป็นรสชาติใหม่ให้กับหนังปลาแซลมอนกรอบ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเทรนด์ไข่เค็มกำลังมาแรงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่ความยากอยู่ที่การจะทำอย่างไรให้เทรนด์ ต้องไม่เป็นเทรนด์หรือกระแสเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ดังนั้นทุกอย่างจึงต้องแข่งขันกันที่คุณภาพและรสชาติอย่างแท้จริง ซึ่งผมก็ไม่หยุดนิ่งเมื่อมีรสไข่เค็มแล้วก็คิดรสชาติอื่นเพิ่มเติม โดยล่าสุดมี 4 รสชาติให้เลือกสรร ได้แก่ รสดั้งเดิม ลาบ ต้มยำ และซาวครีมและหัวหอม โดยกระบวนการผลิตจะเป็นการอบกรอบ ปราศจากไขมันทรานส์ ขายในราคาซองละ 135 บาท ขนาด 70 กรัม สามารถนำไปรับประทานกับเมนูอื่นๆ ได้ เช่น ส้มตำ สลัด ก๋วยเตี๋ยว"

ขณะที่กระบวนการผลิต ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กันโดยเลือกโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับสากล รองรับการบุกตลาดต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย หลังจากเทรนด์ผู้บริโภคนิยมรับประทานของทานเล่นกันมากขึ้น จากความสะดวก รวดเร็ว แต่แม้ธุรกิจของทานเล่น จะมีคู่แข่งในตลาดมากมาย แต่การหาคาแรคเตอร์เฉพาะของตนเอง ก็สำคัญที่จะสร้างความแตกต่างได้อย่างยั่งยืน ซึ่งรสชาติที่แตกต่างจึงตอบโจทย์ รวมถึงมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรองระดับสากล

เมื่อถามถึงความได้เปรียบในแง่ของการเป็นนักแสดงกับการก้าวเข้ามาสู่วงการธุรกิจนั้น หนุ่มเกรท บอกว่า ในเรื่องช่องทางประชาสัมพันธ์ถือว่าได้เปรียบ เพราะเขาใช้ทุกช่องทางในโซเชียลที่มีเป็นสื่อกลางในทำให้คาริ คาริ เป็นที่รู้จัก รวมถึงตัวเขาเองก็ทำตลาดเอง ด้วยการนำสินค้าเข้าไปเสนอตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง ทำให้ขณะนี้หนังปลาแซนมอลกรอบ คาริ คาริ มีจำหน่ายที่กรูเม่ต์ มาร์เก็ต, ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ดฮออล์, ฟู้ดแลนด์, บิ๊กซี ราชดำริ, วิลล่า มาร์เก็ต และคิง พาวเวอร์ รวมถึงช่องทางออนไลน์กับอีคอมเมิร์ช ชื่อดัง Shopee ทำให้ในช่วงแรกที่เปิดตัวสินค้าขายดีมาก แพคจัดส่งกันแทบไม่ทัน แต่สุดท้ายแล้วความได้เปรียบดังกล่าว ก็ใช่ว่าจะยั่งยืน เขาจึงขอแข่งกันที่คุณภาพ พร้อมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไป เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ส่วนแผนพัฒนาธุรกิจ เขายังมุ่งมั่นในการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เป็นของทานเล่น แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบอื่น หรือเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เพิ่มเติม พร้อมศึกษาตลาดส่งออก โดยจะเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นอันดับแรก และจะบุกตลาดจีนต่อไป จากการเก็บข้อมูลกลุ่มลูกค้าพบว่า ชาวจีน และคนเอเชีย ก็ชื่นชอบในรสชาติดังกล่าว

สุดท้ายหนุ่มเกรท ได้เผยถึงความรู้สึกกับการได้เข้ามาสู่แวดวงธุรกิจว่า เหมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่ง เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และน่าจะอยู่กับเราได้ถ้าแบ่งเวลาให้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ได้ทำงานกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจกัน เพราะหากไม่มีเพื่อนกลุ่มนี้แบรนด์ คาริ คาริ คงไม่ได้แจ้งเกิดอย่างในทุกวันนี้