xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งแชตยิ่งฉลาด “Vonder” เรียนเหมือนคุยกับเพื่อน ครูในโรงเรียนต้องบอกต่อ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อหนุ่มนิเทศ จุฬาฯ เคยคร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชน แต่กลับหลงใหลในงานด้านการศึกษาของไทย จึงนำระบบแชตบอต มาเป็นสื่อเชื่อมความรู้ให้เด็กๆ ให้การ ‘เรียน’ เสมือน การ ‘เล่นเกม’ ไม่รู้เบื่อ บรรดาคณาจารย์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมใจบอกต่อสนับสนุนให้นักเรียนสนทนากับแชทบอท “Vonder” (วอนเดอร์) บนสังคมออนไลน์เฟซบุก เสริมทักษะวิชาการนำร่อง 4 วิชาหลัก


ชิน วังแก้วหิรัญ อดีตนักข่าวสายอาชญากรรม และการเมือง ของสำนักข่าวญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง แต่กลับอินในเรื่องการศึกษา ใฝ่ฝันอยากจะพัฒนาการศึกษาของเด็กไทยให้มีความเท่าเทียมและทั่วถึงด้วยเทคโนโลยีง่ายๆ ใกล้ตัว อย่าง “แชตบอต” บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่าง เฟซบุก

แนวคิดดังกล่าว ใช่ว่าน้องชิน จะทำเล่นๆ แต่เขาคิดพัฒนาการศึกษาของไทยด้วยหัวใจ จากประสบการณ์ที่เคยทำงานทำงานด้านสังคม (Social Enterprise) ตำแหน่งฝ่ายการตลาด กับองค์กรระดับประเทศ มีโอกาสได้เรียนรู้ข้อมูลด้านการศึกษาของไทย และต่างประเทศ ว่ามีการพัฒนาไปในทิศทางใดบ้าง และประเทศไทยมีจุดอ่อนด้านใด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้ตกผลึก และรังสรรค์ออกมาเป็นธุรกิจด้านการศึกษาแบรนด์ “วอนเดอร์” แชตบอตที่ยิ่งคุยยิ่งได้ความรู้

“ธุรกิจนี้เกิดจากการประสบการณ์ในช่วงเรียนและทำงาน เห็นจุดด่อนด้านการศึกษาของไทยหลายด้าน จึงต้องการหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์สำหรับเด็กไทยให้เข้าถึงองค์ความรู้มากขึ้น โดยต้องไม่ได้มาจากการบังคับให้เรียนรู้ หรือท่องจำ ซึ่งจากได้มีโอกาสไปศึกษาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณ 1 ปี มีพื้นฐานด้านภาษาญี่ปุ่นน้อยมาก พูดไม่ได้เลย จึงลงเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดโดยใช้ Flash Card เพื่อเรียนรู้คำศัพท์ผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้และเกิดผลได้จริง ขณะที่ในไทยยังไม่มีระบบแบบนี้ที่เปิดสอนอย่างจริงจัง แม้จะมีระบบ E-learning แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร จากระยะเวลาเรียนที่ยาวนานเกินไปประมาณ 20-30 นาที ทำให้คนเรียนน้อยและเรียนไม่จบ ดังนั้นหากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้กระชับ ใช้เวลาไม่นาน ก็น่าจะทำให้การเรียนเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น”

เขาจึงนำระบบ “แชตบอต” มาใช้ ออกแบบเนื้อหาให้คล้ายการเล่นเกม เน้นความสนุกและเพลิดเพลิน ได้ความรู้ด้านวิชาการไปแบบไม่รู้ตัว โดยปัจจุบันมีให้เลือก 4 วิชา ได้แก่ เคมี ภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ และฟิสิกส์ มีเด็กๆ โหลดแล้วประมาณ 120,000 คน ทั้งระดับประถมปลาย ไปจนถึงมหาวิทยาลัย แต่เนื้อหาจะเน้นนักเรียนมัธยมต้น เน้นการปูพื้นฐานก่อนเรียนมัธยมปลาย ขณะที่กลุ่มเด็กที่เข้ามาใช้งานมากที่สุดคือมัธยมปลาย เพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

“ในช่วงแรกที่เราเปิดตัววอนเดอร์ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการพัฒนารูปแบบเรื่อยมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการผู้ที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด โดยเมื่อเริ่มเปิดตัวจะเป็นในเด็กในกรุงเทพฯ เข้ามาใช้บริการ แต่ปัจจุบันสัดส่วนในกลุ่มเด็กนักเรียนในต่างจังหวัด มีอัตราเติบโตเพิ่มมากขึ้น ทั้งการรู้จักและลองเล่นเอง รวมถึงมาจากการการแนะนำของครู หลังจากได้ทดลองเอง ก็เห็นว่ามีประโยชน์ แถมยังช่วยให้เด็กสนุกไปกับการเรียนในรูปแบบใหม่ที่ไม่น่าเบื่อ”

สำหรับการเรียนผ่านการเล่นของวอนเดอร์ จะออกแบบคล้ายการเล่นเกม มีการอัพเลเวล (level) ไปเรื่อยๆ เริ่มจากการเรียนอย่างง่ายก่อน เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าทำสำเร็จ จากนั้นจะเพิ่มความยากไปเรื่อยๆ เสมือนการเล่นเกมที่เด็กคุ้นเคย แต่เป็นการเล่นที่ได้ความรู้ผ่านระบบแชตบอตในแมสเซนเจอร์ (Messenger) ของเฟซบุก เพราะเข้าถึงง่าย การใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อน ซึ่งนอกจากเนื้อหาที่เป็นวิชาการแล้ว ทางวอนเดอร์ยังมีการนำเพลงสากล มาใส่ไว้ด้วย เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษจากบทเพลงที่คุ้นหู

“หลังจากวอนเดอร์ เปิดตัวได้ประมาณปีกว่า ก็ได้รับการตอบรับดีเกินคาด มีเด็กกลับมาใช้บริการสูงถึง 80% ค่าเฉลี่ยของผู้ที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 9,000 คน/สัปดาห์ รวมถึงการรีวิวผ่านเพจเฟซบุกในแง่บวกถึงประโยชน์ที่เด็กๆ ได้รับ จากบรรดาผู้ปกครอง และครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด”

ขณะที่ ‘จุดอ่อน’ ของแชทบอทวอนเดอร์ คือยังไม่มีหน่วยงานจากภาครัฐฯ มารับรองความถูกต้องของข้อมูล แต่พวกเขาก็มีทีมงานด้านวิชาการคอยกลั่นกรองข้อมูลให้ถูกต้องที่สุด ดังนั้นแผนต่อไปจึงเตรียมร่วมมือกับภาครัฐฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรับรองข้อมูลด้านวิชาการให้แม่นยำ รวมถึงจะมีการเพิ่มวิชาอื่นๆ เพิ่มเติม ตามความต้องการของเด็กๆ เช่น วิชาชีววิทยา และภาษาจีนโดยจะร่วมมือกับโรงเรียนภาษาและภูมิปัญญาตะวันออก หรือ OKLS ออกแบบบทเรียนที่เน้นความเพลิดเพลินไปกับการเรียนภาษาจีน

“ผมมองว่าในอนาคตอยากให้ทุกห้องเรียนมีแชตบอตในลักษณะนี้เพื่อให้เด็กทุกภาคส่วนได้เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งวอนเดอร์ถือว่าตอบโจทย์ เพราะโรงเรียนแทบไม่ต้องลงทุนด้านวิชาการเพิ่มเลย เพียงมีอินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็สามารถให้เด็กนักเรียนสนุกไปกับการเรียนในวิชาต่างๆ ได้ ซึ่งต่อไปผมจะออกแบบเป็นเกมคณิตศาสตร์ สามารถแข่งกันเป็นทีมหรือเล่นมากกว่า 2 คนขึ้นไปได้ ทำให้เกิดความสนุกภายในห้องเรียนระหว่างการเรียนการสอน โดยตั้งชื่อว่า Vonder Go”

นอกจากการเน้นให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา ผ่านระบบแชตบอตแล้ว ทางวอนเดอร์ ยังได้รับโอกาสให้ออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอน สำหรับองค์กรภาคเอกชน ปัจจุบันมี 7 บริษัทเป็นลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นสถาบันการเงินมีพนักงานกว่า 20,000 คน ได้ใช้ระบบแชตบอตเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งด้านภาษาอังกฤษ และความรู้เฉพาะสำหรับองค์กรนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม น้องชิน ได้เผยถึงความฝันในช่วงท้ายว่า ต้องการให้ธุรกิจนี้เติบโตในระดับภูมิภาค โดยเริ่มจากประเทศในอาเซียนก่อน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ไม่ได้หวังโตแค่ในไทย เพราะต้องการเห็นสิ่งที่คนไทยคิดแล้วชาวต่างชาตินำไปใช้ แม้ที่ผ่านมาหลายคนอาจมองว่าสตาร์ทอัปด้านการศึกษาจะไม่ค่อยได้เงิน แต่เขากลับคิดว่า นวัตกรรมใหม่ๆ จะเกิดขึ้นได้ถ้ามีทุน ซึ่งวอนเดอร์ก็ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ดังนั้นก้าวต่อไปต้องทำธุรกิจในเชิงพาณิชย์ เพื่อจะได้ทดลองทำสิ่งใหม่ให้กับวงการการศึกษาไทย



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *







กำลังโหลดความคิดเห็น