xs
xsm
sm
md
lg

อบก.กระตุ้น ผปก.ลดก๊าซเรือนกระจก ชี้ไทยเป็น ปท.เดียวในอาเซียนที่มีฉลากลดโลกร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อบก.เผยประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนมีฉลากลดโลกร้อนคาร์บอนฟุตพรินต์ มีผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วม 1,347 ผลิตภัณฑ์ โดยในปี 62 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 406 ราย คาดสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 3,419,849.29 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมจัดงาน ร้อยดวงใจ ร่วมใจลดโลกร้อน ภายใต้แนวคิด “ลดโลกร้อนวันนี้ เริ่มที่ตัวเรา

นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ผู้อํานวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. กล่าวภายในงาน ร้อยดวงใจ ร่วมใจลดโลกร้อน ว่า ผลการดำเนินงานส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยนวัตกรรมลดโลกร้อนของ อบก.ในปีงบประมาณ 2562 มีผู้ที่มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศและขึ้นรับเกียรติบัตร 406 ราย โดยคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 3,419,849.29 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งมาจากกลไกและเครื่องมือที่ อบก. พัฒนาขึ้น ตัวอย่าง อาทิ

สำหรับกิจกรรมชดเชยคาร์บอนมีปริมาณการซื้อคาร์บอนเครดิตจากการทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอนทั้งสิ้น 144,455 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศ โดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 3 ล้านบาท
นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ผู้อํานวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
ส่วนฉลากคาร์บอน ซึ่งประกอบด้วย ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product) ฉลากลดโลกร้อนหรือฉลากลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint Reduction) และคูลโหมด (CoolMode) ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียนที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล มีผลิตภัณฑ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนทั้ง 3 ฉลากคาร์บอนรวมจำนวน 1,347 ผลิตภัณฑ์ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 347,129 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า

คาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) เป็นเครื่องมือสำคัญที่สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำข้อมูลและรายงานปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร โดยในปีนี้มีองค์กรภาคอุตสาหกรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 184 แห่ง และมีปริมาณที่คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน (อุตสาหกรรมและบริการ) โดยพิจารณาจากแนวทาง/แผนการลดก๊าซเรือนกระจกลงได้ 274,549.29 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า

ครงการ “สนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก” (Low Emission Support Scheme: LESS) มีกิจกรรมที่ได้รับการรับรองจำนวน 361 กิจกรรม สามารถลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้ 974,275 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และโครงการ “ลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย” (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER) หรือโครงการ T-VER มีโครงการที่ขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 50 โครงการ โดยมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้รวมกัน 1,664,150 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และในจำนวนนี้มีโครงการที่ได้ผ่านการรับรองปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก (TVERs) หรือที่เรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” จำนวน 34 โครงการ คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 1,262,757 ตัน





จากความสำเร็จดังกล่าว อบก.จึงจัดพิธีขอบคุณและมอบประกาศนียบัตรในงาน “ร้อยดวงใจ ร่วมใจลดโลกร้อน” ประจำปี 2562 ในช่วงบ่ายของวันนี้ ณ ห้องเมย์แฟร์แกรนด์บอลรูม ชั้น 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการและภาคส่วนต่างๆ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการบริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศ ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมประกอบด้วย การมอบโล่และประกาศนียบัตรแก่บุคคล ชุมชน องค์กร และผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อนที่ อบก.ให้การรับรองใช้เครื่องหมาย รวมถึงการแสดงนิทรรศการจากผู้ประกอบการที่มีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน

ทั้งนี้ วันนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากภาครัฐ เอกชน อุตสาหกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชน จำนวน 1,476 คน ซึ่งการจัดงานวันนี้ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว โดยในปีนี้มีแนวคิดการจัดงาน “ลดโลกร้อนวันนี้ เริ่มที่ตัวเรา” (It’s perfect time to start action) และได้รับความกรุณาจากท่านเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์) เป็นประธานในพิธีและมอบประกาศนียบัตร ซึ่งสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลดีต่อประเทศไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี

ก้าวต่อไป อบก.จะนำไปขยายผลและส่งเสริมทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกต่อไป เนื่องจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภคให้เกิดความยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน




* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEs manager




กำลังโหลดความคิดเห็น