xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรไร่อ้อยกว่า 5 พันรายสมัครใจร่วมมาตรการจำกัดการใช้สารพาราควอต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เกษตรกรไร่อ้อยจำนวน 5,000 รายสมัครใจร่วมอบรมการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช ตามมาตรการจำกัดการใช้สารพาราควอต ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมร้องขอใช้สารเคมีดังกล่าวต่อไป อย่าแบน เนื่องจากยังไม่มีสารทดแทนที่เหมาะสม

นายกิตติ ชุณวงศ์ นายกสมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม จัดโครงการอบรมความรู้การใช้สารกำจัดวัชพืชให้แก่เกษตรกรของโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ ตามหลักสูตรของกรมวิชาการเกษตรและมาตรการจำกัดการใช้ เมื่อผ่านการทดสอบแล้ว เกษตรกรจึงมีสิทธิ์ไปซื้อและใช้สารฯ ดังกล่าวที่ร้านค้าได้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 20 ตุลาคม 2562 นี้
นายกิตติ ชุณวงศ์ นายกสมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย
โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากโรงงานน้ำตาล และเกษตรกรไร่อ้อยเป็นจำนวนมากจากทั่วประเทศ เพราะทั้งโรงงาน และเกษตรกรยังมีความจำเป็นในการใช้สารกำจัดวัชพืช หนึ่งในพื้นที่สำคัญในการเร่งสร้างความรู้และการปฏิบัติอย่างถูกต้อง คือ จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีเกษตรกรไร่อ้อยและกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลเข้าร่วมมากถึง 5,000 ราย โดยศูนย์ส่งเสริมอ้อยและน้ำตาลเขต 4 ภาคอีสาน ได้จัดวิทยากรลงให้ความรู้แก่เกษตรกร

กลุ่มเกษตรกรยังเห็นถึงความจำเป็นของสารพาราควอตในไร่อ้อย นายเตชิต วีระชาติยานุกูล รองนายกสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือ เอราวัณ และเกษตรกรไร่อ้อย กล่าวว่า การใช้สารเคมีดังกล่าว ยังมีความจำเป็นอยู่มาก เนื่องจากเครื่องจักรที่ใช้ไม่สามารถกำจัดวัชพืชได้หมด และแรงงานคนในพื้นที่หายาก ไม่มีใครอยากทำงานแรงงาน ทั้งนี้ เกษตรกรจะใช้พาราควอตปีละ 1-2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ในช่วงต้นที่อ้อยกำลังเติบโต พอใบอ้อยชนกันคลุมดินแล้วหญ้าก็จะไม่เติบโต ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่น ส่วนอีกครั้งใช้หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว ฉีดเพื่อให้หญ้าตายแล้วไถกลบเพื่อเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูกครั้งต่อไป

นายบุญถิ่น จิตผล เกษตรกรไร่อ้อย จังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวเสริมว่า พาราควอตจำเป็นต่อการทำไร่อ้อย ยังไม่มีสารอื่นทดแทนได้ หากไม่มี ชีวิตเกษตรกรก็เหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ไม่เพียงแต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น วิธีการเพาะปลูกก็ต้องเปลี่ยนแปลง สำหรับโครงการนี้ ช่วยให้ได้รับความรู้และสามารถปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช และสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่เพื่อนเกษตรกรได้ต่อไป

โรงงานน้ำตาลในพื้นที่กล่าวสนับสนุนว่า การจัดอบรมและสอบวัดความรู้เพื่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นโครงการที่ดี ช่วยสร้างความตระหนัก ความรู้ และการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชอย่างปลอดภัย แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัด ข้อจำกัดและเงื่อนไขในการอบรมหลายประการ ทำให้การขึ้นทะเบียนอาจมีความล่าช้า ไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้ ดังนั้น ควรขยายระยะเวลาหรือความร่วมมือไปยังหน่วยงานระดับท้องถิ่นมาสนับสนุนเพิ่ม เช่น องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ (อกท.) จะทำให้สามารถอบรมและสอบได้ครอบคลุมมากขึ้น
นายบุญถิ่น จิตผล เกษตรกรไร่อ้อย จังหวัดหนองบัวลำภู
ท้ายที่สุด กลุ่มเกษตรกรไร่อ้อยมีความเห็นตรงกันว่า ไม่ควรแบนสารกำจัดวัชพืช พาราควอต เห็นด้วยกับมาตรการที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลออกทำการฝึกอบรมและสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้สามารถใช้สารฯ ได้อย่างถูกต้อง เพราะจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน รวมทั้ง ขอให้ภาครัฐคำนึงถึงระบบเกษตรของไทย ทั้งแบบใช้สารเคมี (มาตรฐาน GAP) และแบบไร้สารเคมี ที่จำเป็นต้องสร้างความสมดุลทั้งสองระบบ ไม่สามารถพึ่งพาระบบใดระบบหนึ่งได้เพียงอย่างเดียว เพื่อให้ไทยก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 เป็นครัวของโลกได้อย่างแท้จริง

สำหรับหน่วยงาน โรงงาน หรือสมาคมที่สนใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวาสินี มั่นคง โทร. 06-1646-2963 โทรสาร 0-2201-4949 อีเมล k.wasinee@hotmail.co.th

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น