xs
xsm
sm
md
lg

ความต่างที่ลงตัว “สบู่ยางพารา” เวชสำอาง​งานวิจัย​ การันตีลดสิว ฝ้า ผดผื่น จากธรรมชาติ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมื่อยางพาราของไทยเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านในเรื่องคุณภาพ เห็นได้ชัดจากยอดขายหมอนยางพารา ที่แรงดีไม่มีตกไป แต่หากจะให้ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการเทรดดิ้ง มาผลิตขายแข่งก็คงสู้แบรนด์เก่าในตลาดไม่ได้ ดังนั้นจึงหางานวิจัยเพื่อดูว่ายางพารา สามารถนำมาแปรรูปเป็นอะไรได้อีก ก็พบว่า “สารสกัดจากยางพารา” สามารถใช้ในวงการเวชสำอางได้ พร้อมคุณสมบัติ ลดอักเสบ การเกิดสิว ผื่นแพ้ และฝ้า

ใช่ว่ายางพาราจะแปรรูปเป็นข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันหรือใช้ในอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น มาวันนี้ “สารสกัดจากยางพารา” ขอใกล้ชิดผู้คนมากขึ้นด้วยการมาอยู่ในรูปของ ‘เวชสำอาง’ โดย พิชญา กุลสมภพ หรือ นุช เจ้าของผลิตภัณฑ์สบู่ยางพารา แบรนด์ ‘นาเธอร่า (Natura)’ ได้นำงานวิจัยมาต่อยอด ลองผิดลองถูกเอง หวังเจาะตลาดจีนโชว์ศักยภาพยางพาราที่เป็นได้มากกว่าหมอน
พิชญา กุลสมภพ หรือ นุช เจ้าของผลิตภัณฑ์สบู่ยางพารา แบรนด์ ‘นาเธอร่า (Natura)’




“เป็นที่รู้กันว่าหมอนยางพาราของไทยเป็นที่นิยมในตลาดจีนมาก จึงคิดจะหาสินค้ามาเจาะตลาดจีนบ้าง เพราะไหนๆ คุณภาพยางพาราของไทยก็เป็นที่ยอมรับและรู้จักดี แต่ครั้นจะให้ไปผลิตหมอนยางพาราบ้างก็ต้องลงทุนเยอะ แถมไม่มีความรู้ ประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน กระทั่งไปเจองานวิจัยของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็พบว่าสารสกัดยางน้ำยางพาราสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในแวดวงเวชสำอางได้ ก็สนใจและคิดนำต่อยอด กลายเป็นสบู่จากสารสกัดยางพารานาเธอร่า (Natura) เจ้าแรกในไทย”




ส่วนการนำร่องเป็นผลิตภัณฑ์สบู่ก้อน เนื่องจากเป็นเวชสำอางที่ผู้คนกล้าทดลองใช้มากกว่าผลิตภัณฑ์อื่น สามารถเริ่มต้นจากลำตัวก่อน ไม่จำเป็นต้องใช้กับใบหน้า จากคุณสมบัติพื้นฐานคือ ลดการอักเสบ ลดการเกิดสิว ผื่นแพ้ และฝ้า ใช้ 3 ครั้ง จะเห็นถึงฝ้าที่จางลง ผิวหน้าขาวขึ้น กระชับ รูขุมขนเล็กลง ซึ่งล้วนเป็นสรรพคุณที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้





ขณะที่กระบวนการผลิต เธอเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน ส่วนผสมก็เลือกเกรดเอทั้งหมด เช่น เลือกใช้กลีเซอรีน แทนน้ำมันมะพร้าว เพื่อลดการแพ้ของผู้ใช้ แม้ว่ากลีเซอรีนจะราคาแพงกว่าน้ำมันมะพร้าวก็ตาม นอกจากนี้ยังมีเชียบัตเตอร์ (Shea Butter) และอาเกนออยล์ (Argan Oil) เพิ่มการบำรุง สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ทำออกมาในรูปของสบู่ก้อน ขนาด 80 กรัม 1 เซ็ตมี 4 ก้อน พร้อมตาข่ายตีฟอง จำหน่ายในราคา 499 บาท เจาะตลาดของฝาก และนักท่องเที่ยวชาวจีน





“ปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อสินค้าของชาวจีนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการตัดสินใจซื้อสินค้าจะซื้อตามกระแส “รีวิว” เชื่อบล็อกเกอร์ หรือการบอกต่อของคนรู้จัก ดังนั้นเราจึงรุกตลาดในด้านนี้เป็นหลัก เพราะเชื่อว่าอย่างน้อยๆ ในเรื่องเครื่องสำอางของไทยก็ได้รับการยอมในเรื่องคุณภาพจากชาวจีนมาหลายปีแล้ว จึงคาดว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าผู้คนจะรู้จักเครื่องสำอางจากสารสกัดยางพารามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราก็อยากให้คนไทยได้ใช้และยอมรับก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าต่างชาติ”




ส่วนตลาดคนไทยถือว่ายังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก ต้องสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น พร้อมเปลี่ยนทัศคติเรื่องยางพาราว่าไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมหนักเพียงอย่างเดียว แต่มาต่อยอดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ ซึ่งต้องให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือและสร้างการรับรู้ใหม่ให้ผู้บริโภค ล่าสุดได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เข้าอบรมโครงการ “สร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ประจำปี 2562” จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) เพราะเชื่อว่าหากคนไทยเปิดใจรับรู้เรื่องยางพาราในแวดวงเวชสำอางแล้ว การจะเจาะตลาดส่งออกก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คาดอาจต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือน สบู่ยางพาราจะเป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น และเชื่อว่าผู้คนจะเปิดใจยอมรับและกล้าใช้ในที่สุด



ติดต่อ : 02-675-4524, 086-903-6969



กำลังโหลดความคิดเห็น