“Only U” แบรนด์เครื่องสำอาง ที่นำนวัตกรรมทันสมัยเข้ามาใช้เพื่อผลิต สกินแคร์ ที่แก้ปัญหาและบำรุงผิวหน้าเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด จนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ ประเภท Creative Cosmetics จากเวทีการประกวดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทย ประจำปี 2562 โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทยมาครองได้สำเร็จ
ท่ามกลางตลาดธุรกิจเครื่องสำอาง Only U ถือได้ว่าเป็นมิติใหม่ของธุรกิจเครื่องสำอางฝีมือคนไทยที่สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มตลาดความงามทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการให้ความสนใจเรื่องการผสานสินค้าความงามกับเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และ Big Data มาใช้ประมวลผลเพื่อออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันได้อย่างมีศักยภาพ จากฝีมือของนันทิดา นิยมพานิช Product Manager, บริษัท วุฒิศักดิ์ เอสเธติค แคร์ จำกัด ผู้ผลิตสกินแคร์นวัตกรรมสำหรับผิวหน้าแบรนด์ Only U
***จับนวัตกรรมลงขวดสกินแคร์
ตลอด 16 ปีที่ผ่านมาได้เป็นผู้ให้บริการครบวงจรตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การผลิตสินค้าเวชสำอาง ภายใต้การดำเนินงานของเภสัชกรและนักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์สูง บนความเชื่อที่ว่า “ความปลอดภัย ประสิทธิผลการใช้งาน จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสุขภาพผิวที่แข็งแรง” โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการรับจ้างผลิตเครื่องสำอางให้กับลูกค้าในรูปแบบ OEM รวมถึงมีผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่จับกลุ่ม Mass Market ภายใต้แบรนด์ของเราเองชื่อ Skinfink วางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด แต่ด้วยสถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบัน เราจึงต้องการเพิ่มไลน์ธุรกิจเพื่อตอบกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม
ด้วยความตั้งใจอยากให้ทุกคนรู้จักผิวของตัวเองจริงๆ และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองเพื่อดูแลผิวพรรณอย่างชาญฉลาด จึงเป็นที่มาของการนำเทคโนโลยีวิเคราะห์ผิว (Skin Analyzer) เข้ามาใช้เพื่อเก็บข้อมูลของคุณลักษณะผิวคนไทยว่าเป็นแบบไหน โดยนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ปัญหา และความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด รวมทั้งยังต่อยอดความพิเศษอีกระดับนั่นก็คือ การผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ
***ถอดรหัสข้อมูลที่เหมาะกับผิว
ปัจจุบันธุรกิจความงามในประเทศไทยก็มีการนำเทคโนโลยีเครื่องวิเคราะห์ผิวเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการบริการ แต่ก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ ซึ่งจากการสำรวจของบริษัทฯ พบว่า ยังไม่มีบริษัทใดที่ดูแลครบวงจรทั้งบริการตรวจวัดสภาพผิวแลผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถนำไปดูแลผิวหน้าได้ในขั้นตอนเดียวในราคาที่คุ้มค่ากว่าและไม่ต้องเสียเวลาไปคลินิกความงาม โดยบริษัทฯ เลือกใช้เครื่องวิเคราะห์ผิว (Skin Analyzer) ขนาดพกพา รวมถึงระบบวัดข้อมูลผิว จากประเทศเกาหลี เพราะมีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในกลุ่มอุตสาหกรรมความงามที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งให้ผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำกว่า
โดยลูกค้าจะได้สัมผัสกับความแตกต่างในทุกขั้นตอนตั้งแต่ การตรวจวัดสภาพผิวหน้า เพื่อให้ทราบผลวิเคราะห์เฉพาะบุคคล และได้ข้อมูลผิวที่จะใช้สำหรับคัดสรรส่วนผสมในการใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ ซึ่งสารสำคัญคุณภาพสูงที่ทางแบรนด์นำมาใช้นำโดย ฟูลเลอรีน (Fullerene) ที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซีถึง 250 เท่า และสรรพคุณอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและซึมซาบได้ลึกกว่าเนื่องจากมีอนุภาคขนาดเล็ก นอกจากนั้นลูกค้ายังสามารถเลือกสารเสริมที่ต้องการใส่เพิ่มเติมได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้มีระยะเวลาการผลิตประมาณ 1 อาทิตย์ต่อขวด สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเฉพาะบุคคล (Personalize) ซึ่งจะมีชื่อของลูกค้าระบุอยู่บนขวดชัดเจน ส่วนลูกค้าที่ทำการตรวจวัดสภาพผิวแต่ไม่อยากรอผลิต ก็มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรพื้นฐานทั้งหมด 3 สูตรให้เลือกใช้ตามสภาพผิว ได้แก่ 1. Pore Tightening Gel สำหรับคนผิวมัน และผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะอ่อนโยน ช่วยลดอาการอักเสบ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว 2. Whitening Serum สำหรับคนที่มีปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ 3. Anti Aging Serum สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย โดย 1 ขวด มีขนาด 30 มิลลิลิตร ราคา 1,200 บาท ใช้ได้ประมาณ 1 – 1.5 เดือนตามปริมาณการใช้ของแต่ละบุคคล
***งัดกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ใหม่หวังติดตลาด
สำหรับการทำการตลาดในช่วงแรก เนื่องจาก Only U เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ยังมีคนรู้จักไม่แพร่หลายจึงทำให้เริ่มเปิดตลาดในกลุ่มลูกค้าที่รู้จักและยอมรับในบริษัทก่อน เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับมิติใหม่ของครีมบำรุงผิวหน้า ซึ่งเน้นความสำคัญเรื่อง Solution ดังนั้นเมื่อลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากการบำรุงผิวแบบเดิมก็จะเกิดการบอกต่อที่แตกต่างออกไป เช่น จากเดิมลูกค้าจะบอกต่อว่าใช้ครีมตัวนี้ดี แต่สำหรับ Only U ลูกค้าจะบอกต่อในลักษณะของการลองมาตรวจสอบสภาพผิวแล้วสั่งผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ซึ่งทั้งลูกค้าและผู้ผลิตจะได้สื่อสารกันมากขึ้นเพื่อวิเคราะห์รายละเอียดในการผลิตที่ตอบโจทย์มากที่สุด นอกจากนั้นเรายังมีการติดตามผลต่อเนื่องเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ขวดต่อไปตามสภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในช่วงเวลานั้นๆ อีกด้วย
หลังจากทดลองตลาดมาประมาณ 4 เดือน ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและเริ่มมีการสั่งซื้อซ้ำเพิ่มขึ้น โดยแผนการตลาดในขั้นต่อไปก็คือ การเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ รวมถึงออกบูธตามย่านออฟฟิศเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เรายังวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในกลุ่มทำความสะอาดและกันแดดเพื่อให้ครบวงจรมากขึ้น ส่วนระบบตรวจวัดผิวนั้นก็ตั้งเป้าพัฒนาอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกันทั้งในแง่ของความสะดวกในการใช้งานและขีดความสามารถที่ตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพมากขึ้น
***กสอ.หนุนสุดท้ายบรรลุเป้าหมาย
ในฐานะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยรายหนึ่ง การทำธุรกิจโดยลำพังเป็นเรื่องยากที่จะไปสู่เป้าหมายได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังไม่สามารถจ้างที่ปรึกษาส่วนตัวเพื่อมาแนะนำทางออกของอุปสรรคได้ทั้งหมด เป็นโอกาสอันดีที่ทางภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านโครงการต่างๆ ที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยวิเคราะห์ว่าแต่ละผู้ประกอบการมีความชำนาญในด้านใด มีจุดอ่อนตรงไหน และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในแง่มุมต่างๆ อย่างตรงจุดและยั่งยืน รวมทั้งช่วยเชื่อมเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน
และตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มคิดค้นแบรนด์ Only U ขึ้นก็ได้เข้าร่วมในหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการด้านการตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องการความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก รวมทั้งกิจกรรมการประกวดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทย ประจำปี 2562 ที่จัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมร่วมกับคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มาครองในที่สุด ก็เป็นการยืนยันให้มั่นใจว่าองค์ความรู้ที่ได้รับสามารถนำมาต่อยอดในเชิงธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
