ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ลดขั้นตอนความยุ่งยาก โดยเฉพาะการทำอาหาร ที่ต้องการลดขั้นตอนแต่ยังต้องการรสชาติที่อร่อยถูกปาก จึงเข้ากับแนวคิดของ “เหรียญทองปลาร้าอบ” ที่ต้องการให้ผู้บริโภคสะดวกใช้ รวมไปถึงสะดวกขนส่งมากที่สุด
สาวิตรี สวยงาม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเหรียญทองปลาร้าอบ จำกัด เล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มมาจากคุณพ่อและคุณแม่ ที่เริ่มอาชีพหมักปลาร้าขายเมื่อปี 2518 ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 40 ปี ขายบริเวณ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เท่านั้น แต่เมื่อปี 2538 ทั้ง 2 ท่าน ต้องการให้ลูกค้าได้บริโภคอาหารที่สุกสะอาด ไม่อยากให้บริโภคอาหารดิบ จึงเริ่มนำปลาร้าไปทดลองกันเองโดยเริ่มจากการอบสุก เมื่อสำเร็จแล้วก็ทำขายมาเรื่อยๆ
เมื่อถึงรุ่นของเธอ จึงเห็นช่องทางที่ปลาร้าของ พ่อกับแม่ สามารถไปได้ไกลกว่านี้ แล้วถ้านำเอาผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาต่อยอดให้สามารถสะดวกขนส่ง คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศก็จะได้มีโอกาสที่จะนำไปปรุงอาหารได้ง่ายขึ้น เหมือนกับอยู่ที่เมืองไทย จึงได้เป็นแนวคิดที่จะทำเป็นรูปแบบคล้ายกับซุปก้อน เนื่องจากก็เห็นตามท้องตลาดยังสามารถทำได้ จึงเริ่มศึกษางานวิจัยที่จะสามารถมาปรับใช้ได้ จนได้ไปเจอกับงานวิจัยของอาจารย์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นงานวิจัยที่ได้รับคัดเลือกตีพิมพ์กับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
หลังจากติดต่อและแนะนำตัวกับอาจารย์เจ้าของวิจัย จึงได้นำผลิตภัณฑ์ของคุณพ่อคุณแม่ ที่มีอยู่ไปเป็นตัวอย่างให้อาจารย์ และได้ไปทดลองเข้าแล็บจนได้เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบออกมา หลังจากที่ได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบออกมาก็เห็นว่าสามารถพัฒนาและทำได้จริง และประจวบเหมาะกับที่อาจารย์ได้ทุนถ่ายทอดเทคโนโลยีมา จึงเดินทางลงมาเรียนรู้กับอาจารย์ ทั้งด้านของทฤษฎีและขั้นตอนวิธีการทำต่างๆ
จากนั้นจึงนำความรู้ที่ได้เรียนมาทดลองกับผลิตภัณฑ์ของตนเองที่จังหวัดแพร่ ปรับสูตรให้เข้ากับวิธีการทำปลาร้าของทางภาคเหนือ ทั้งกระบวนการ วิธีการทำ เนื่องจากปลาร้าของภาคอีสาน และภาคเหนือมีความแตกต่างกัน ปรับทดลองมาเรื่อยๆ ส่งอาจารย์อีกรอบ ตรวจใน บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (Central Lab Thai) จนได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ ใช้เวลาอยู่นาน 2 – 3 เดือน
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ออกมาก็จะใช้เป็นปลากระดี่ตัวเล็ก ที่สามารถกินได้ทั้งตัว เนื่องจากบดละเอียดหมดแล้ว ผ่านกระบวนการทำให้สุกพร้อมปรุงอาหาร ยังไม่ได้พร้อมรับประทาน ด้านปลาร้าผง เป็นตัวที่ออกสู่ตลาดหลัง ปลาร้าอบก้อน จากแนวคิดที่ต้องการให้ “วางอยู่คู่โต๊ะกินข้าว” เนื่องจากคนไทยหลายคนติดอาหารที่มีรสชาติที่เข้มข้น เมื่อมีกับข้าวที่รสชาติจืด ก็สามารถหยิบมาโรยและคลุกเคล้าได้ทันที ลูกค้าบางรายโรยข้าวเพียงอย่างเดียว บางรายก็นำไปปรุงอาหารที่ไม่ต้องการน้ำและเนื้อเพิ่มเติม ต้องการเพียงรสชาติอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากกินง่ายและกลิ่นไม่ฉุน
ทั้งนี้ “เหรียญทองปลาร้าอบ” ต้องการให้ลูกค้าสะดวกใช้และสะดวกขนส่งมากที่สุด เนื่องจากมีเป้าหมายที่ต้องการส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากมีคนไทยไปอยู่ที่ต่างประเทศจำนวนมาก ต้องการให้ได้รับรสชาติเหมือนกับที่กินอาหารอยู่ที่ไทยมากที่สุด
ในส่วนของโรงงานผลิต ตอนนี้ได้รับเครื่องหมาย HACCP และ GMP Codex ลูกค้าสามารถเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ได้ เนื่องจากโรงงานต้องรับการตรวจประเมินทุกปี และทุกกระบวนการ ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ แม้กระทั่งน้ำที่ใช้ภายในโรงงาน ต้องมีค่าตามที่กำหนด “เหรียญทองปลาร้าอบ” จึงทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดจะสะอาดและปลอดภัย
ตอนนี้ “เหรียญทองปลาร้าอบ” มีสินค้าอยู่ 3 แบบ คือ ปลาร้าอบก้อน, ปลาร้าผง และปลาร้าครีมที่ที 2 แพ็คเกจ คือแบบซองเหมาะสำหรับพกเดินทาง และแบบกระป๋อง สำหรับใช้ในครัว ที่เปิดใช้ไม่หมดก็สามารถปิดฝาเก็บเข้าตู้เย็นได้โดยไม่มีกลิ่นรบกวน อีกทั้งยังไม่ใส่ผงชูรส, สารกันเสีย เว้นแต่ ปลาร้าผงที่มีผงชูรสแต่มีในปริมาณที่น้อยมากเนื่องจากต้องการปรับรสชาติของความเค็มให้ลดลงมาอีก และในอนาคตคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมา คือ ปลาร้าหวาน คล้ายกับน้ำปลาหวาน เพียงแต่เป็นปลาร้า สามารถกินได้กับผลไม้รสเปรี้ยว จิ้มกินได้ทันที
ส่วนราคาของปลาร้าอบก้อน อยู่ที่ 65 บาท ภายในซองจะมี 6 ก้อน, ปลาร้าครีม ซองละ 65 บาท 250 กรัม และกระป๋องละ 75 บาท 350 กรัม และปลาร้าผง 80 กรัม 95 บาท หรือสามารถสั่งซื้อแบบเป็นกิโลกรัมได้ อยู่ที่ กิโลกรัมละ 800 บาท
ขณะนี้สามารถซื้อได้ตาม ท็อปส์มาร์เก็ต ทุกสาขา, ร้านของฝากในจังหวัดต่างๆ และช่องทางออนไลน์ ในเฟซบุ๊ก ส่วนตลาดต่างประเทศยังไม่มีส่งออกไป มีเฉพาะลูกค้าที่เป็นคนไทยซื้อเก็บไว้ ไปกินที่ต่างประเทศด้วย ส่วนเรื่องส่งออกก็มีศึกษาไว้บ้างแล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าสามารถไปได้ในช่องทางใดบ้าง และยังต้องเรียนรู้ในเรื่องของกระบวนการส่งออกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สนใจติดต่อ
เว็บไซต์ : http://rtplara.com
เฟซบุ๊ก : เหรียญทองปลาร้าอบ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
