xs
xsm
sm
md
lg

“เดอร์มา อินโนเวชั่น” บริษัทรับจ้างผลิต เครื่องสำอาง พลิกชีวิตนักขายออนไลน์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วันนี้ ถ้าเอ่ยชื่อ ของโรงงานรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง แบบครบวงจร และเป็นที่ยอมรับของนักขายออนไลน์มือทอง แล้วละก็ ต้องมีชื่อของ ผู้ผลิตรายนี้ “เดอร์มา อินโนเวชั่น (Derma Innovation) ผู้พลิกชีวิต นักขายออนไลน์ สู่นักขายเงินล้าน มาแล้วหลายต่อหลายคน มีทั้งเซเลบชื่อดัง ดารานักแสดง หลายคน ส่วนใหญ่จะใช้ โรงงานแห่งนี้ อาทิ เครื่องสำอางแบรนด์ WORRA BY WORANUCH ของ “คุณนุ่น วรนุช” เป็นต้

นาย อาชวิณ ชวาลารัตน์ เจ้าของ เดอร์มา อินโนเวชั่น ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง ที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ อาจจะนำไปเป็นแบบอย่างได้ เพราะย้อนไปเมื่อปี 2550-2552 การค้าขายบนโลกออนไลน์ ยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคนไทย แต่ เขาเป็นนักธุรกิจคนไทย คนแรกที่กล้าออกมาประกาศ ว่า ธุรกิจออนไลน์ คือ โอกาสที่สดใส และเป็นเทรนด์ธุรกิจที่สามารถ ทำเงินได้มหาศาล
นาย อาชวิณ ชวาลารัตน์ เจ้าของ เดอร์มา อินโนเวชั่น


"นายอาชวิณ" เล่าว่า เขาได้เริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการด้วย การขายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง น้ำหอม และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านเว็บไซต์ มีกระแสตอบรับและยอดขายที่ดี ขายง่าย ขายไว เนื่องจากขณะนั้นถือว่าเขาอยู่ในยุคแรกที่หันมาใช้แพล็ตฟอร์ม เว็บไซต์ในการเปิดตลาด และกระแสการตลาดด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์คยังไม่แพร่หลายเท่าตอนนี้


“ถึงแม้ว่าเราจะสร้างยอดขายได้มากและสร้างฐานลูกค้าต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เพราะเราคัดเลือกสินค้า คุณภาพใช้แล้วเห็นผลจริงมาจำหน่าย ยึดมั่นในความน่าเชื่อถือทั้งผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง แพ็คสินค้าเร็ว และการส่งมอบสินค้าทันทีหลังชำระเงิน และการใช้ช่องทางเว็บไซต์ช่วยให้เราใส่ ข้อมูลสินค้าได้อย่างเต็มที่ ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ทันที ซึ่งตอนนั้นเรารับออเดอร์คำสั่งซื้อผ่านโทรศัพท์ ปรากฏว่าเสียงโทรศัพท์ดังทุกนาที แม้จะมีเครื่องรองรับถึง 6 เครื่องก็ตาม”อาชวิณ กล่าว





ทั้งนี้ หลังจากนั้น ผ่านมา ประมาณ 2 ปี เขาและหุ้นส่วนมองไปไกลถึงอนาคตว่า ต่อไปก็ต้องมีคนรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจ ค้าขายออนไลน์มากขึ้น และเขาอาจจะเก่งกว่าเรา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด ขยายธุรกิจใหม่ โดยเขามองไปที่ต้นน้ำ เปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ผลิต ที่มาของการก่อตั้ง "บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด"


สำหรับ บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด เป็นบริษัทรับจ้างผลิต เครื่องสำอาง สบู่ ครีมบำรุง แบบครบวงจร โดยปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ยาวนานกว่า 10 ปี มาทำงานร่วมกับบริษัท และ นอกจากผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ยังรับหน้าที่ปรึกษา และวางแผน บริหารจัดการเป็นกระบวนการทำงานแบบครบวงจร





"นายอาชวิณ" เล่าต่อว่า จุดแข็งของเรา คือกระบวนการ วิจัยและพัฒนา และให้ความสำคัญ กับการสร้างองค์ความรู้ เรื่องเวชสำอาง และ ความปลอดภัย เราเริ่มต้นจากเครื่องจักร 1-2 ตัว กับพนักงานเพียง 5 คน เปิดโอกาสตัวเองและทีมงาน เข้าไปเรียนรู้จากทั้ง หน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอคำแนะนำ เพื่อสร้างมาตรฐานด้านการผลิต ให้ได้มากที่สุด


“หลังจากเราหันมาทุ่มเทกับการเป็นผู้ผลิต แนวโน้มตลาดคอสเมติกและ บำรุงผิว เติบโตเกิดผู้ประกอบการในตลาดมากขึ้น ส่งผลยอดขายเพิ่มขึ้น สวนทางกับยอดขายในการขายผ่านเวบไซต์ของธุรกิจเดิมเริ่มน้อยลง เพราะคนหันไปใช้แพล็ตฟอร์มสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม มากขึ้น ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าเดินมาถูกทางและตั้งใจที่จะพัฒนาต่อยอดโรงงานและเดินเครื่องผู้ผลิตเต็มตัว”





สำหรับความท้าทายในธุรกิจนี้ "อาชวิณ" บอกว่า สถานการณ์เกิดขึ้นได้เสมอ ตลอดการเดินทางของเรา เช่น ในปี 2561 ในตอนนั้นเรียกว่าเป็นวิกฤติของวงการนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยกระแส ข่าวทั้งการปลอมปนสารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์ หรือการทำธุรกิจแอบแฝงหลอกลวง ตลาดนี้ชะงักลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ มองเป็นเชิงบวก เพราะทำให้ผู้บริโภคตื่นตัว ตัดสินใจอย่างระมัดระวัง และหันมาพิจารณามองหามาตรฐาน สนใจหาความรู้และใส่ใจรายละเอียด ที่มาของผลิตภัณฑ์ที่ใช้มากขึ้น เกิดการคัดกรองผู้ผลิตและเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นตัวจริงในตลาดเท่านั้นจึงจะ อยู่รอดและเติบโตได้


ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มลูกค้า ปัจจุบัน มีลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีสินค้าแบรนด์ของตัวเอง และ กลุ่มดารานักแสดง ผู้มีชื่อเสียง รวมไปถึงกลุ่มแพทย์ คลินิก สถานบริการ ความสวยความงาม โดยหลักการทำงานของเรา เน้น ความจริงใจกับลูกค้า ดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่ก่อนตัดสินใจเริ่มผลิตจนถึงบริการ หลังการขาย อีกทั้งยังสร้างความแตกต่าง และยังจัดฝึกอบรม จัดคอร์สสัมมนา ทั้งแบบ Public และ In-house และให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของ เจ้าของธุรกิจ ผสมผสานกับการใส่ Innovation ลงไปในสินค้า




“ถึงแม้บริษัทฯ จะเติบโตอย่างดี แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทุกธุรกิจย่อมมีอุปสรรคในการบริหารจัดการภายในองค์กร ส่งผลให้ ต้องมองหาแนวทางเพิ่มศักยภาพการผลิตจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยเข้าร่วมโครงการลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการขนส่งและคลังสินค้าให้ดียิ่งขึ้น จนสามารถ ลดต้นทุนการบริหารสินค้าคงคลังได้เฉลี่ยมากกว่า 30% และอัตราการส่งมอบสินค้าเร็วขึ้น” อาชวิณ กล่าว


สนใจ โทร. 08-9104-5555


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEs manager




กำลังโหลดความคิดเห็น