xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก 'พริกตุ้ม' พืชพื้นเมืองคู่สำรับเมืองระยอง ปลูกเล่นๆ ก็ทำเงิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“พริกตุ้ม” พริกพื้นบ้านของชาวระยอง ที่ผู้คนเห็นจนชินตา นิยมปลูกตามบ้าน บางครั้งก็นำมาปรุงอาหารเพิ่มความหอม ทำให้คนพื้นเมืองไม่ได้สนใจปลูกเพื่อทำตลาดเชิงพาณิชย์มากนัก แต่สำหรับคนต่างถิ่นถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ ทั้งในเรื่องรสชาติ และรูปลักษณ์คล้ายผลเชอรี่ ความนิยมเพิ่มมากขึ้นหลังนำไปขายที่โฮมโปร และโรงแรมในพัทยาสั่งไปปรุงอาหาร

มองเผินๆ อาจดูคล้ายมะเขือพวง แต่รสชาติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะนี่คือ “พริกตุ้ม” พริกพื้นบ้านแห่งระยอง ที่ใครแวะมาต้องลิ้มลอง แต่ก็ถือว่ายังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก จำกัดอยู่ในวงแคบๆ ซึ่งหนึ่งในคนระยองอย่าง “ปรานี จิตติรบำรุง” พยายามที่จะอนุรักษ์พันธุ์พริกตุ้มไว้ จากความชอบส่วนตัวที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบการของเมนูอาหารรสเผ็ดแทบทุกเมนู รวมถึงยังอาศัยตำแหน่งเลขานายกเทศมนตรีตำบลทับมา ช่วยเผยแพร่พริกตุ้มให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น ผ่านเมนูอาหารที่ต้องทำไปเลี้ยงผู้มาเยือน หรือศึกษาดูงานในพื้นที่เป็นประจำ และทำอาหารแจกจ่ายในงานบุญ เป็นประจำ ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าของสวนผสมผสาน ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง





“พริกตุ้ม เป็นที่รู้จักมานานแล้วสำหรับชาวระยอง บางบ้านก็ปลูกไว้ปรุงอาหารเพียงไม่กี่ต้น ปลูกแซมกับต้นมะนาวบ้าง หรือต้นไม้อื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้เมนูอาหาร และยังเป็นไม้ประดับได้ด้วย แต่ก็ยังไม่มีใครที่คิดปลูกในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง โดยส่วนตัวเราเองก็ปลูกไว้ที่บ้าน และคิดที่จะอนุรักษ์พันธุ์พริกตุ้มไว้ เพราะเป็นพริกสายพันธุ์พื้นบ้านแห่งเมืองระยอง ก็พยายามเผยแพร่ผ่านเมนูอาหารที่ทำออกสู่สาธารณะ อย่าง งานบุญ งานเลี้ยงรับรองผู้มาดูงานในพื้นที่”


พริกตุ้มเป็นพริกที่ไม่เรียวยาวเหมือนพริกทั่วไป แต่มีลักษณะกลม คล้ายมะเขือพวง แต่เนื้อในของพริกตุ้มแน่นกรอบ หากเคี้ยวทั้งเม็ดให้แตกในปากจะได้รสชาติเผ็ดหอม แต่หายเผ็ดเร็วกว่าพริกขี้หนู ส่วนราคาก็แพงกว่าพริกขี้หนูเล็กน้อย หากในช่วงฤดูฝนผลผลิตจะมีมาก ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 250-300 บาท แต่มีข้อเสียในเรื่องการไม่สามารถนำมาตากแห้งเพื่อการถนอมและเก็บไว้ใช้นานๆ ได้ ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่นิยม และยังไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนัก ดังนั้นเกษตรกรจึงไม่นิยมปลูกแบบแปลงใหญ่ จะปลูกตามบ้านหรือปลูกแซมกับพืชชนิดอื่น




ขณะที่ขั้นตอนการปลูกนั้นง่ายมาก โดยใช้เมล็ดแห้งนำมาเพาะ ไม่ต่างจากการปลูกพริกขี้หนู ใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน จึงจะได้ผลผลิต แต่หากปลูกในเชิงพาณิชย์ ตลาดยังถูกจำกัดอยู่ในวงแคบๆ โดยที่ผ่านมามีร้านอาหารประเภทซีฟู้ดรับซื้อไปประกอบอาหาร เพื่อแก้เลี่ยน และเพิ่มรสเผ็ดพ่วงความหอม

ส่วนความนิยม “พริกตุ้ม” คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น ตามอัตราการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว และโรงแรมที่พักต่างๆ เนื่องจากเป็นพริกพื้นเมือง สื่อถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ไม่สามารถหารับประทานได้ทั่วไป รวมถึงยังเป็นพริกที่ปลอดสารเคมี 100% จากการใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ซึ่งบรรดาพ่อครัวแม่ครัวใช้ปรุงอาหารแล้วจะติดใจ

***ติดต่อ : 081-452-9179***



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *







กำลังโหลดความคิดเห็น