หมูทุบ "เพ็ญนภา" สูตรอบร้อนเตาถ่าน อร่อยม่วนใจ๋ ไปแพร่ ต้องจัด

เมื่อพูดถึงของฝากจาก จ.แพร่ ส่วนใหญ่จะนึกถึงผ้าม่อฮ่อม แต่ทุกวันนี้ อีกสินค้าดีจากจังหวัดนี้ที่ไม่ควรพลาด คือ หมูทุบ "เพ็ญนภา" โดดเด่นด้วยรสชาติอร่อยแตกต่าง ใช้วัตถุดิบสดใหม่ ผ่านกระบวนการอบลมร้อนจากเตาถ่านโบราณ ทำให้ได้กลิ่นหอมเตะจมูก จนอดใจไม่ไหว มักต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับมาด้วยเสมอ

"เพ็ญนภา ศรีทัน" หรือคุณนุ้ย สาววัย 29 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนหมูทุบเพ็ญนภา จ. แพร่ ผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อหมูแปรรูปกว่า 14 รายการ เช่น หมูทุบ หมูสวรรค์ หมูหวาน และหมูหย็อง เป็นต้น เล่าให้ฟังว่า รับช่วงบริหารธุรกิจครอบครัวมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน

จุดตั้งต้นธุรกิจ มาจากคุณแม่ เมื่อประมาณปี 2540 รับซื้อสินค้าจำพวกเนื้อหมูแปรรูป เช่น กุนเชียง จากเมืองโคราช เพื่อมาขายในพื้นที่เมืองแพร่ ต่อมาช่วงปี 2553 - 2554 พี่สาวเข้ามาสานต่อธุรกิจ ทว่า ทำได้เพียงปีเดียว ก็คิดจะไม่สานต่อกิจการนี้อีกต่อไป เนื่องจากไม่ถนัดในการทำธุรกิจ

"นุ้ยเห็นธุรกิจนี้มาแต่เด็ก ตอนที่พี่สาวคิดจะไม่ทำต่อ นุ้ยมีความคิดว่า เราจะทิ้งไม่ได้ เลยตัดสินใจกระโดดมาบริหารงานเพียงคนเดียว ตอนนั้นอายุเพียง 25 ปีเอง ประสบการณ์ทำธุรกิจก็ไม่มาก รู้แค่ว่า เราทิ้งไม่ได้ เพราะธุรกิจนี้แม่สร้างขึ้นมาตั้งแต่แรก" คุณนุ้ย เล่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่เข้ามารับช่วงดูแลธุรกิจ
หน้าร้านหมูทุบเพ็ญนภา จ.แพร่

แม้ปัจจุบันคุณแม่จะเสียชีวิตไปแล้ว เหลือเพียงคำพูดที่ฝากให้คุณนุ้ยยึดเป็นแนวทางสานต่อธุรกิจว่า "ให้ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ในธุรกิจของเรานะลูก"

5 ปีนับจากเข้ามาสานต่อธุรกิจ ปัจจุบัน คุณนุ้ยคือเสาหลักในการบริหารงาน ขณะที่พี่สาว ทำหน้าที่ด้านการตลาด ออกบูธ ตามงานต่างๆ เป็นต้น โดยตลาดหลัก ส่งขายร้านของฝากภายในประเทศ ทั้งใน จ.แพร่ และทั่วไป รวมถึง รับจ้างผลิต หรือ OEM ให้กับแบรนค์ร้านค้าที่มีชื่อเสียง กว่า 40 แบรนด์

จุดเด่นที่ทำให้หมูทุบเพ็ญนภา โดนใจลูกค้า เธอตอบอย่างมั่นใจ มาจากรสชาติความอร่อย เนื้อนุ่ม และที่สำคัญเนื้อหมูสดใหม่ เนื่องจากใช้วัตถุดิบจากโรงเชือดโดยตรง ทำแบบวันต่อวัน

"วัตถุดิบจะเชือดตอนเที่ยงคืน พอช่วง 6 โมงเช้า โรงเชือดจะนำมาส่ง เราจะได้เนื้อหมูที่เป็นวัตถุดิบใหม่สดทุกวัน ขณะที่กระบวนการผลิต นุ้ยจะใส่ใจทุกขั้นตอน โดยเฉพาะไฮไลท์ของเราอยู่ที่ จะนำหมูมาอบลมร้อน ด้วยเตาถ่านโบราณ จึงทำให้หมูของเรามีกลิ่นหอมมากๆ" เจ้าของธุรกิจสาว ระบุ

เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไฟแรง ปรับตัวหาช่องทางตลาดใหม่ๆ เสมอ ทำให้สภาพเศรษฐกิจภายนอกที่โดยรวมซบเซา แทบจะไม่ส่งผลกระทบธุรกิจเลย เนื่องจากเน้นการทำตลาดแบบออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป

"ช่องทางตลาดที่ตอนนี้ นุ้ยให้ความสำคัญมาก คือ ออนไลน์ เพราะสังคมสมัยนี้ กิน ชอป ผ่านมือถือหมดแล้ว อย่างการทำแฟนเพจเฟซบุ๊ก ให้มีคนมาสนใจ นุ้ยก็จะไปดูตัวอย่างเพจที่เขาถ่ายรูปสวยๆ นำเสนอสินค้าดีๆ นุ้ยก็นำมาปรับใช้กับเพจของเราบ้าง ทุกวันนี้การแข่งขันสูงมาก ลูกค้ามีทางเลือกมากมาย ถ้าเราไม่ปรับตัว ธุรกิจเราจะอยู่ไม่รอด แล้วเราอยู่แบบไม่ยั่งยืน" เธอ เล่าให้ฟังถึงวิธีการทำตลาดออนไลน์ที่ใช้อย่างได้ผล

ปัจจุบัน หมูทุบเพ็ญนภา มียอดขายจากแฟนเพจเฟซบุ๊ก เฉลี่ยวันละ 3,000-30,000 บาท สะท้อนได้เป็นอย่างดี ถึงการปรับตัว เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ เสมอช่วยให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนตามได้อย่างดี

จากการเติบโตของธุรกิจ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้ามาช่วยเสริมแกร่ง เติมความรู้ ตามด้วยเติมเงินทุนดอกเบี้ยถูกจากภาครัฐ โดยกระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม ในโครงการสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 2.5 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างและขยายโรงงานใหม่ให้ได้มาตรฐาน รองรับการส่งออกในเร็วๆ นี้ รวมถึง พัฒนาบรรจุภัณฑ์ ขยายกลุ่มลูกค้าตลาดบน และวางแผนทำตลาดออนไลน์จริงจังมากยิ่งขึ้น เช่น นำเสนอสินค้าแนวใหม่ด้วยการ live ผ่าน Facebook เป็นต้น

"ตอนที่นุ้ยต้องการที่ขยายโรงงานให้มีมาตรฐาน มีคนรู้จักแนะนำมาใช้บริการ SME D Bank เพราะมีดอกเบี้ยถูกให้เอสเอ็มอี นุ้ยเลยเข้าไปติดต่อSME D Bank สาขาแพร่ ทางเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาที่ดีมาก ให้ความรู้การปรับปรุงโรงงานสู่มาตรฐาน ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยแบงก์ก็ถูกมาก แล้วก็กู้ไม่ยาก เพียงแค่เอกสารครบ ตรงตามเงื่อนไข แบงก์ก็สามารถอนุมัติสินเชื่อให้เราได้" คุณเพ็ญนภา เผย

ระยะเวลาเพียง 5 ปี หลังจากตัดสินใจเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว สาววัย 29 ปี พาธุรกิจเริ่มก้าวเดินได้อย่างมั่นคง และด้วยแนวคิด ไม่หยุดพัฒนา มั่นใจได้ว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของผลิตภัณฑ์หมูทุบ "เพ็ญนภา"